จากกรณีที่ พ.ต..ต.ประยูร วิทยา สว. สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้พบศพชายอยู่ภายในคลองระบายน้ำข้างบ้านเช่า ใกล้เคียงปากซอยพุทธบูชา 38 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงพบว่าร่างของผู้เสียชีวิตมีตัวเงินตัวทองกำลังแทะร่างอยู่ในคลองดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร เห็นแค่รอยสักรูปดาวตรงบริเวณคอข้างขวา ก่อนจะทราบชื่อต่อมา นายซอ เป็นคนงานต่างด้าว ทำงานอยู่ร้านกระเบื้อง ย่านทุ่งครุ หายตัวไปตั้งแต่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา




ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายัง รพ.ศิริราช เพื่อพูดคุยกับนายบุญชู อายุ 38 ปี เป็นนายจ้างของนายซอ หรือนพ (ชื่อที่นายจ้างเรียก) อายุ 32 ปี ที่ถูกพบเป็นศพอยู่ภายในคลองระบายน้ำข้างบ้านเช่า ใกล้เคียงปากซอยพุทธบูชา 38 ที่ในวันนี้นายบุญชูเดินทางมารับศพลูกจ้าง มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา


โดยนายบุญชู เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า นายนพ ผู้ตาย ปกติทำงานอยู่โรงงานกระเบื้องเป็นโรงงานนำเข้าแล้วก็ขายออก แถวปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งนายนพเองทำงานอยู่ที่นั่นมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี และเป็นลูกน้องของตน และเมื่อตนย้ายมาคุมงานที่โรงงานนำเข้าและขายกระเบื้อง ย่านทุ่งครุ ตนก็ได้พานายนพลูกน้องคนสนิทมาทำงานที่นี่ด้วย ในวันที่ 20 กพ. ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้นนายนพก็ทำงานปกติไม่มีความผิดปกติใด ๆ เลยทั้งสิ้น และก็กลับไปยังห้องพักของทางโรงงานที่จัดเตรียมไว้ให้ จนเมื่อตกกลางดึกช่วงเวลาประมาณตีสี่ครึ่ง เข้าวันที่ 21 ก.พ. นายนพได้โทรศัพท์มาหาตน 2 ครั้ง




โดยโทร. มาบอกว่า “ลูกพี่ช่วยด้วย ๆ” ตนก็ถามว่าเป็นอะไร ซึ่งนายนพไม่ตอบ แต่มีเสียงเพื่อนร่วมห้องตะโกนผ่านโทรศัพท์บอกตนว่า “มันเป็นบ้าไปแล้วครับนาย เพราะมันนั่งจ้องหน้าผมทั้งคืน เหมือนจ้องจะทำร้ายผม ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย จะเข้าห้องน้ำก็เดินตาม จะไปไหนก็ตาม” แต่พอได้ยินมาแบบนี้ตนก็ไม่เชื่อว่าลูกน้องตนจะเป็นบ้า เพราะอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบ ๆ ปี ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย


และในวันที่ 21 ก.พ. ช่วงเช้าในวันทำงาน นายนพดูมีอาการเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนที่ขยันทำงาน สั่งอะไรก็ทำทันทีรวดเร็วทันใจ กลายเป็นคนเหม่อลอย ไม่มีสติ สั่งอะไรก็ไม่ทำตาม นั่นจึงทำให้ตนถามนายนพไปว่าเป็นอะไรกันแน่ เราก็ตอบว่าตอนนี้เป็นอะไรไม่รู้เหมือนมีอะไรอยู่ข้างในบอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เห็นผี และเมื่อนายนพกลับห้องพักตกกลางดึก ก็มีอาการเหมือนเดิม คือไปนั่งจ้องหน้าเพื่อนร่วมห้อง และเมื่อเพื่อนร่วมห้องเดินไปไหนก็ก็จะเดินตามทั้งคืน

ต่อมาในวันที่ 22 ก.พ. ลูกน้องที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของนายนพ ก็บอกตนว่าไม่เอาแล้วไม่อยู่กับนายนพแล้ว เพราะหวาดระแวงและกลัวมาก ๆ ส่วนในวันนี้เมื่อนายนพมาทำงานก็มีอาการใจลอย ไม่ยอมทำงาน มีอาการพูดคนเดียว และหูแว่ว แค่ได้ยินเสียงนกร้อง นายนพก็บอกตนว่า “ลูกพี่นกมันคุยอะไรกัน มันจะมาจับผมหรือเปล่า” บางทีก็บอกว่า “ลูกพี่คนนั้นถือมีดยาวเลยจะมาทำร้ายผม” แต่เมื่อมองไปแล้วก็ไม่มีอะไร


จนตกเย็นเลิกงาน แฟนของนายนพ ที่ไม่ได้ย้ายมาทำงานอยู่ที่ทุ่งครุด้วย ก็เดินทางมาหานายนพและได้นำน้ำมนต์มาให้นายนพราดหัวและดื่มกิน ซึ่งเมื่อราดหัวและดื่มกินเสร็จ ก็บอกให้นายนพถอดเสื้อที่เปียกออก และเมื่อนายนพถอดเสื้อออก ตนก็หยิบเสื้อตัวใหม่ แต่เมื่อหยิบเสื้อตัวใหม่ให้ใส่ ซึ่งเป็นเสื้อของนายนพเอง และเมื่อนายนพเห็นเสื้อตัวดังกล่าว ก็พูดมาว่า“เสื้อตัวนี้แหละ ๆ” แล้วก็วิ่งหนีตนที่ถือเสื้อตัวนี้อยู่ ทำให้ต้องมาดูที่เสื้อว่าเป็นอะไร จึงเห็นว่าเสื้อตัวดังกล่าวเป็นเสื้อที่มีรูปหัวกะโหลกอยู่บนเสื้อ ทำให้ตนงงเป็นอย่างมาก และเมื่อหยิบเสื้อตัวใหม่ที่ไม่ใช่เสื้อที่มีรูปหัวกะโหลก นายนพก็มีอาการปกติและเดินกลับมาใส่เสื้อ




และในคืนวันที่ 22 ก.พ. หลังจากที่นายนพได้รดน้ำมนต์เรียบร้อยแล้ว ตนเองก็พานายนพและแฟนนายนพไปส่งที่ห้องพักที่ใหม่ ที่มีลูกจ้างของตนเป็นเจ้าของห้อง รวมเป็น 3 คน โดยคืนนี้แฟนนายนพได้มานอนเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งนายนพก็ยังคงมีอาการประหลาดเหมือนเดิม โดยวันนี้นายนพพยายามตบหน้าแฟน 2-3 ครั้งแบบรุนแรง ซึ่งตนก็พยายามไปห้าม และถามนายนพว่าเป็นอะไรทำไมต้องไปตบหน้าแฟนจนร้องไห้ นายนพก็บอกว่า “ขนลุก” และก็ไม่พูดอะไรอีกเลย


และในคืนเดียวกันนี้ ระหว่างที่นอนกันในห้องพัก 3 คน ลูกจ้างคนที่เป็นเจ้าของห้องพัก ก็โทร. มาบอกตนตอนตี 1 ว่า “นายนพได้ลากแฟนไปในห้องน้ำ และนำมีดคัตเตอร์เข้าไปด้วย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรแฟนหรือไม่” ตนก็บอกเสียงแข็งเลยว่าทำอย่างไรก็ได้ให้เอามีดคัตเตอร์ออกมาจากมือนานพให้ได้ และลูกจ้างคนนั้นก็แย่งมีดคัตเตอร์มาได้สำเร็จ


จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 23 ก.พ. เวลาประมาณ 9 โมง ตนก็เดินทางมาที่ห้องพัก เพื่อมาถามแฟนของนายนพ และลูกจ้างเจ้าของห้องพักว่าเมื่อคืนได้นอนหรือไม่ ทั้งคู่ก็ตอบว่ายังไม่ได้นอนเลย ตนก็บอกว่าถ้าอย่างงั้นวันนี้ไม่ต้องไปทำงานก็ได้ แต่ทั้งหมดบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวไปทำงานก็ได้ไม่เป็นไร ซึ่งตนก็บอกกับนายนพว่าถ้าอย่างนั้น ก็นั่งรถมาที่ร้านกระเบื้องกับตน แต่ไม่ต้องทำงานก็ได้ ซึ่งนายนพเองก็ยอมมาด้วย แต่ก็มีท่าทีลุกลี้ลุกลน




และเมื่อมาถึงร้านตนก็เดินไปจัดการงานของตนตามปกติ แต่ทว่านายนพก็หายตัวไปเลย จนพี่เขยของนายนพ ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าไม่ต้องห่วงนายนพมาอยู่กับตน แต่ในช่วงที่พี่เขยไปทำงาน นายนพก็หนีออกไปจากห้องเช่าของพี่เขย และก็หายตัวไปเลยจนมาพบเป็นศพอยู่ในคลอง ห่างจากห้องเช่าไม่ไกลนัก


และส่วนตัวตนก็เชื่อเรื่องของไสยศาสตร์ เพราะนายนพลูกน้องของตนเอง เป็นคนเจ้าชู้ มีหญิงมาติดพันหลายคน ไปทำเขาอกหักเสียใจก็เยอะ จึงอาจจะโดนทำของใส่ให้ถึงขั้นตายเธอก็เป็นได้ แต่ส่วนตัวตนก็ไม่เคยเห็นว่านายนพนั้นจะเล่นของแต่อย่างใด และไม่เคยเห็นพกเครื่องรางของขลังเลยเลย


ถัดมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางเค ยวู อายุ 23 ปี แฟนสาวของนายนพ ผู้เสียชีวิต โดยนายเค หยู เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนนั้นคบหากับนายนพ ผู้ตาย มานานกว่าสามปีแล้ว ซึ่งก็รู้จักนิสัยแฟนหนุ่มของตัวเองดี ว่าเป็นคนนิสัยเจ้าชู้ มีหญิงอื่นไปเรื่อย แต่เพราะความรักเวลาจับได้ตนก็ให้อภัยแฟนหนุ่มอยู่เสมอ ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นแฟนหนุ่ม ก่อนหายตัวไปและพบเป็นศพก็เพิ่งจะมีอาการประหลาดได้เพียง 3 วันเท่านั้น คือคืนเข้าวันที่ 21 ก.พ. ถึงวันที่ 23 ก.พ. โดยคืนวันที่ 22 ก.พ. ตนนั้นได้นำน้ำมนต์มาจากวัดเพื่อมารดหัวและให้แฟนหนุ่มดื่ม




ซึ่งในวันนี้เองช่วงที่แฟนหนุ่มมีอาการหวาดระแวงอย่างหนัก ตนจึงถามตรง ๆ ไปว่ากลัวอะไรกันแน่ ใครถามก็ไม่ยอมบอก ซึ่งพอตนถามไปแบบนี้ ทางแฟนหนุ่มก็บอกกับตนตรง ๆ ว่า “ช่วงวันสองวันมานี้ เห็นเงาดำ ๆ เดินตามหลังตลอดเวลา ทำให้กลัวและระแวงตลอดเวลา” และในวันถัดมา แฟนหนุ่มก็หายตัวไปเลย จนกระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว


ซึ่งหลังจากที่พบศพของแฟนหนุ่ม ทางครอบครัวตนฝั่งเมียนมาและทางตนที่อยู่ฝั่งไทย ก็ได้เดินทางไปถามหมอดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มของตนเกิดจากอะไรกันแน่ โดยหมอดูทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา ก็บอกเหมือนกันว่าแฟนหนุ่มของตนนั้น ถูกหญิงสาวที่ตัวเองไปติดพันด้วย จ้างหมอผีทำคุณไสยใส่ ซึ่งคุณไสยชนิดนี้เป็นคุณไสยสั่งตาย จะทำให้คนที่โดนมีอาการเป็นบ้าก่อน และจะสั่งให้ไปตายในเวลาต่อมา ส่วนเรื่องที่แฟนหนุ่มอาจเป็นคนที่เล่นของใส่หญิงอื่น แล้วย้อนกลับมาหาตนเองนั้น ไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากแฟนหนุ่มของตนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้

สยองเห้รุมแทะหนุ่ม! ญาติแฉถูกของเขมรตาเหลือกก่อนตาย