จากกรณีมีคลิปภาพประชาชนเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี เพื่อให้ดำเนินการหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ทุ่งนาทำให้ทรัพย์สินเสียหาย แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีลักษณะคล้ายเมาสุราต่อว่า และไม่ยอมรับแจ้งความ แถมยังยึดเอกสารสิทธิ์เอาไว้ จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล
ล่าสุด พ.ต.อ.สุรวิทย์ โยนจอหอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตาลสุม เปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังจากที่ตนได้รับรายงานจากรองผู้กำกับสอบสวนจึงได้เรียก ร.ต.อ. คนดังกล่าวมาสอบถาม จึงทราบว่า ร.ต.อ. รายนี้ ได้เข้าเวรตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 4 มี.ค. จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 5 มี.ค. แต่ด้วย ร.ต.อ. ยังมีสำนวนคดีเกี่ยวกับการพนันที่จะต้องเร่ง ดำเนินการให้แล้วเสร็จ จึงยังไม่ได้กลับไปพักผ่อน คือทำงานต่อเนื่อง หลังจากเข้าเวรมา 24 ชม.
จนกระทั่งเวลา 15.00 น. นายประยูรได้เข้ามาพบ ร.ต.อ. จึงได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียด ร.ต.อ. จึงได้ขอเอกสารหลักฐานที่ทางนายประยูรนำมาแสดง และจะนำเอกสารดังกล่าวไปลงบันทึกประจำวัน แต่เกิดการเข้าใจผิดกัน เนื่องจากนายประยูรเข้าใจว่า ร.ต.อ. เมาสุรา จึงจะขอเอาเอกสารกลับ แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะนำไปลงประจำวันให้ จึงเกิดการยื้อแย่ง และมีการปะทะคารมกันตามคลิป ยืนยันว่า ร.ต.อ. รายนี้ ไม่ได้เมาเพียงแต่ยังไม่ได้พักผ่อนประกอบกับมีโรคประจำตัวเป็นความดัน กับงานที่มีลักษณะเครียด จึงอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดขึ้น
เบื้องต้นตนเองได้โทร. ไปพูดคุยกับทางนายประยูร เพื่อขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นและอธิบายถึงขั้นตอนการดำเนินงานมีการปรับเปลี่ยนพนักงานสอบสวน เพื่อความสบายใจของนายประยูรและญาติ ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวน ตนได้ให้ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงขึ้นมา และจะพิจารณาโทษตามระเบียบ อย่างไรก็ตามตนต้องขอโทษพี่น้องประชาชนและนายประยูรที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังนายประยูร อายุ 62 ปี เจ้าของคลิปเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น วันที่ 5 มี.ค. 2567 ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางมาแจ้งความกับ ร.ต.อ. ท่านหนึ่ง สภ.ตาลสุม เพื่อให้ติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุเผาทุ่งนาจนเกิดเพลิงไหม้เถียงนาของตนเอง ทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั้งหมด จากนั้น ร.ต.อ. คนดังกล่าว ได้บอกให้ตนกลับไปดับไฟให้เรียบร้อยก่อนวันรุ่งขึ้นค่อยมาแจ้งใหม่ พร้อมทั้งนำเอาเอกสารที่ดินมาด้วย
ต่อมาวันที่ 5 มี.ค. ตนได้กลับไปหา ร.ต.อ. ท่านนี้อีกครั้งแต่ไม่อยู่ออกไปธุระข้างนอก ตนเองรออยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ร.ต.อ. ก็เข้ามาพร้อมกับคนขับรถ ท่าทางมีอาการคลายคนเมามีกลิ่นสุรา ตนจึงได้เข้าไปแจ้งความ ร.ต.อ. ได้ขอเอกสารไปดู แต่ ร.ต.อ. ท่านนี้บอกว่า "กูไม่รับแจ้งที่ดินเป็นที่พิพาท" แล้ว ร.ต.อ. เอาเอกสารของตนเองไปขยำทิ้ง ตนพยายามที่แย่งเอาคืนจนเกิดการยื้อแย่งกัน ทำให้ ร.ต.อ. ได้ตี บีบคอ และเหยียบตนแต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพราะคนเมาตีไม่แรง ตนจึงได้วิ่งออกมานอกโรงพักและโทร. หาอาเข้ามาช่วยเพราะตนถูกทำร้าย
นายประยูร เล่าอีกว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าผู้กำกับได้ติดต่อมาหาตนเพื่อพูดคุยและขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ให้ร้อยเวรเขียนรายงานชี้แจง และเปลี่ยนร้อยเวรให้แล้ว