กรณีเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 10 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่ บ้านเขาค่าย หมู่ 9 ตำบลสินปุน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ริงถนนบ้านเขาค่าย ภายในบ้านพบศพนายฤทธิกร อายุ 40ปี ที่อยู่ 72 ม.4 ต.บ้านเพิง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชในสภาพนั่งคว่ำหน้าที่ศีรษะคาดไฟตัดยาง ที่ใบหน้ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. บนหมอน 1 ปลอกและบนที่นอนอีก 1 ปลอก ในที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านของผู้เสียชีวิต พบว่ามีเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระแสง ได้ลงพื้นที่หาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุ และยังพบคราบเลือดผู้ตาย อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุจำนวนมาก และพบเก้าอี้ไม้ อยู่บริเวณจุดพบศพอีกด้วย
เปิดภาพสุดท้าย 2 ชั่วโมง ก่อนถูกยิงแสกหน้า
กล้องตัวที่ 1 เวลา และกล้องตัวที่ 2 เวลา 19.02 น. และ 19.03 น. จับภาพนายฤทธิกร ผู้เสียชีวิต สวมเสื้อกล้ามสีดำ คาดไฟส่องกบที่ศีรษะ แล้วมาเลือกซื้อสินค้า ที่ร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ห่างจาดที่เกิดเหตุ 100 เมตร โดยกล้องตัวนี้เป็นเหตุการณ์ก่อนที่จะตรวจจะถูกยิงประมาณ 2 ชั่วโมง
กล้องตัวที่ 3 และกล้องตัวที่ 4 ตั้งแต่เวลา 21.10.39 น. จะได้ยินเสียงปืนรัว จำนวน 5 นัด ซึ่งตอนนั้น ร้านค้าที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด มีการเปิดเพลงเสียงดัง แต่ก็พอที่จะได้ยินเสียงปืน ที่ดุงแยกออกมาชัดเจน
ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิดรถมอเตอร์ไซค์ผู้ต้องสงสัยขับออกจากจุดเกิดเหตุแล้วขับหลบหนีตามเส้นทาง มาหลายมุมด้วยกัน
กล้องตัวที่ 1 เวลา 21.22 น. (เวลาจริง 21.11 น.) จับภาพรถมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัยขับหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุด้วยความเร็ว ซึ่งกล้องตัวนี้อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร
จากนั้น กล้องตัวที่ 2,3,4 และ 5 ก็จับภาพรถมอเตอไซค์ของผู้ต้องสงสัย ขับหลบหนีไปตามเส้นทางถนนหน้าสำนักสงฆ์อุทิศประดิษฐาราม ด้วยความเร็ว โดยถนนเส้นนี้สามารถหลบหนีออกได้หลายเส้นทาง รวมถึงสามารถไปจังหวัดกระบี่ได้
เค้นเพื่อนวงเหล้าล่ามือปืนยิงแสกหน้า
เวลา 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายวรเทพ อายุ 44 ปี เพื่อน ที่ไปดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้ายมาสอบปากคำปาก
โดยนายวรเทพ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17:00 น. ตัวเองได้ไปทำธุระกับผู้ตายที่บ้าน จากนั้นก็มีการนั่งดื่มเหล้าด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นผู้ตายก็ยังพูดคุยกับตัวเองปกติ ไม่ได้บอกถึงปัญหาว่าไปทะเลาะกับใครมาบ้าง กระทั่งเวลา 18:00 น. ตัวเองก็ได้เดินทางกลับบ้าน จนมาทราบข่าวอีกทีคือช่วงเช้าของวันนี้ ว่าเพื่อนของตัวเองถูกยิงเสียชีวิต ยอมรับว่าช่วงเช้าที่ไปเจอสภาพศพผู้เสียชีวิต ตัวเองรู้สึกใจหาย เพราะตัวเองเพิ่งจะพูดคุยกับผู้ตายก่อนที่เขาจะถูกยิงไม่กี่ชั่วโมง
ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ตอนตัวเองทะเลาะกับภรรยาก็เคยไปอาศัยอยู่บ้านของเขาไปนอนอยู่กับเขาหลายวัน เขาก็ให้พักพิงอาศัยอาศัยกับ และเป็นผู้ที่มีพระคุณกับตัวเองมาก
เห็นครั้งนี้ตัวเองก็อยากจะถามคนร้ายว่าถ้าเพื่อนตัวเองทำไม ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องมรดก ของผู้ตายนั้น ตัวเองก็ไม่ทราบปัญหาเรื่องนี้
เวลา 19.45 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ชายรายหนึ่ง มาสอบปากคำ คาดว่าจะเป็นคนใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต
เมื่อชายคนดังกล่าวมาถึงโรงพัก ทีมข่าวพยายามสอบถาม เจ้าตัวว่าเป็นเพื่อนกับคนตายหรือไม่ รู้จักกับคนตายหรือไม่ และเกี่ยวข้องอะไรกับคนตายหรือไม่ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวแม้แต่คำถามเดียว
ขณะเดียวกันตอนนี้ตำรวจยังคงมีการสอบปากคำชายคนนั้นอยู่ในห้องสอบ โดยยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าชายคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้เสียชีวิต คาดว่าน่าจะใช้เวลาสอบปากคำอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวฟ้า นามสมมติ พี่สะใภ้ ของผู้ตาย ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกันกับผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ นายฤทธิกร หรือแก้ว ผู้เสียชีวิต ช่วงกลางวันเขาก็อยู่บ้านตามปกติ โดยจะมีชาวบ้านแวะเวียนมาดื่มเหล้ากับผู้ตายอยู่ที่บ้านอยู่เรื่อยๆ แต่ตัวเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร จากนั้นตอนช่วงเย็น ตัวเองก็ยังเห็นผู้ตายอยู่บ้านตามปกติ และได้ยินเขาร้องเพลงเสียงดัง และยังมีร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุ ที่เปิดเพลงเสียงดังอีกด้วย
กระทั่งเวลา 21.10 น. ตัวเองกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในบ้านอยู่ ก็ได้ยินเสียงปืนดังปังๆๆๆ 3-4 นัด หลังจากนั้นก็มีเสียงมอเตอไซค์ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่า เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านถนนตามปกติ หรือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ก่อเหตุ ตัวเองจึงออกมาชะโงกดูที่บ้านของผู้ตาย ก็พบว่า ที่บ้านของผู้ตาย เปิดประตูอยู่ และเปิดไฟอยู่ จึงไม่ได้เอะใจ ตัวเองก็เข้านอนตามปกติ
กระทั่งเวลาประมาณ 05.40 น. วันนี้ นายทาย ซึ่งเป็น เพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต เขากำลังจะไปเรียกผู้เสียชีวิตเพื่อจะออกไปทำงานสวนทุเรียนด้วยกัน เขาได้ไปเจอศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน จึงมาเรียกตัวเองที่อยู่ข้างหลังตรงข้าม จากนั้นตัวเองก็ไปดูที่เกิดเหตุ กระทั่งพบว่านายแก้ว เขาได้เสียชีวิตอยู่ในนั้น
ส่วนปมที่นายแก้ว เขาถูกฆาตกรรมครั้งนี้ ตัวเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามาจากอะไร ในที่ทำงานสวนทุเรียน ในแก้วก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร เขาทำงานกับเพื่อนร่วมงานได้ปกติ ส่วนกลุ่มคนที่ชอบมาดื่มเหล้ากับนายแก้วนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะแต่ละวันจะมีคนที่นายแก้ว ไปรู้จักมาจากที่อื่น มาดื่มเหล้ากับนายแก้วอยู่เป็นประจำ
สำหรับคนตาย และครอบครัวตัวเอง ซึ่งเป็นเครือญาติกันนั้น ย้ายมาจากบ้านเกิดที่ต่างอำเภอ แล้วมาอาศัยที่ อ.พระแสง (จุดเกิดเหตุ) ได้ประมาณ 5 ปี
เหตุที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นเหตุที่อุกอาจมาก และนานแก้ว เขาก็เป็นคนที่ดีกับครอบครัวตัวเอง อย่างเช่นเวลาแฟนตัวเองกลับบ้านดึกๆ ตัวเองเห็นเขาอยู่บ้าน ตัวเองก็อุ่นใจ
ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนางชบา (นามสมมติ) ญาติของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับบ้านหลังที่ผู้ตายอาศัยอยู่นั้น เป็นบ้านของนางชมพู ป้าของผู้เสียชีวิต โดยผู้ตายอาศัยอยู่กับนางชมพูตั้งแต่ยังหนุ่ม
กระทั่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว นางชมพู ได้เสียชีวิต ซึ่งที่ดินและที่สวนของนางชมพู รวม 17 ไร่ (ที่บ้าน 3 ไร่ ที่สวน 17 ไร่) ก็ยังไม่ได้ยกมรดกให้ใคร ซึ่งตามลำดับคนที่จะได้มรดกของนางชมพู จะมีน้องของนางชมพู 3 คน คือ 1.แม่ของผู้ตาย (อาศัยอยู่อำเภอปากพนัง) 2.น้องนางชมพู คนที่อยู่อำเภอเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ 3.น้องของนางชมพู คนที่อยู่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และยังมีลูกติดสามีของนางชมพูอีก
ตัวเองยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ในเครือญาติก็เคยมีปากเสียงกันเล็กน้อยกับผู้ตาย เรื่องมรดกของนางชมพูมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีปากเสียงรุนแรงถึงขั้นจะต้องมาตามฆ่ากัน ซึ่งตัวเองคิดว่า ที่นายฤทธิกร หรือแก้ว ถูกฆาตกรรมครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องปัญหาส่วนตัว มากกว่าเรื่องแย่งมรดก