จากที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้ติดตามคดี “นางสา“ (THUZAR AUNG) อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นแรงงานชาวเมียนมาที่มาเช่าหอพักอาศัยอยู่ในซอยศรีนคร ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้หายตัวปริศนาไปจากหอพักตั้งแต่เย็นของวันที่ 3 มีนาคม 2567 กระทั่งวันที่ 4 มีนาคม 2567 กลับพบว่ามีชายฮู้ดแดง ทราบชื่อคือ “นายพิทญา” อายุ 27 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์สีชมพูของนางสาไปจอดทิ้งไว้ที่หน้าบ้านญาติของนางสาเพียงลำพัง ก่อนจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปขึ้นรถบัสสถานีขนส่งนครศรีธรรมราชหลบหนีออกไปยังจังหวัดกระบี่

ทางด้านของ หยก เพ็ญสิริ (นักข่าว) ได้เผยว่า ในวันที่ 9 มีนาคม 2567 นั้นได้รับการประสานกับทีมข่าวภายในช่อง 8 ว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับผู้หญิงชาวเมียนมาสูญหายปริศนากว่า 6 วัน ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่นั้นได้มีการไล่เรียงภาพจากกล้องวงจรปิดมากกว่า 20 ตัว พบว่าจุดสุดท้ายที่นางสาวได้สูญหายไปคือบริเวณบ้านของนายพิทญา (ผู้ต้องหา) จากนั้นทีมข่าวได้มีการเข้าไปพูดคุยกับแม่ของนายพิทญา ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่า “ทั้งคู่อาจจะหนีตามกันไปหรือเปล่า“ จึงทำให้หยกกลับไปคิดว่า ”ก็เป็นไปได้ เขาอาจจะหนีตามกันไป”

จนกระทั่งเมื่อกลางดึกของวันที่ 10 มีนาคม 2567 ขณะที่นอนหลับอยู่หยกได้ฝันว่า “หยกกำลังเดินอยู่บริเวณหน้าบ้านของนายพิทญา และก็ได้เหลือบไปเห็นว่านายพิทญากำลังนั่งอยู่กับนางสา จากนั้นก็เห็นว่าทั้งคู่ได้มีปากเสียงกัน ทำให้นายพิทญานั้นลงมือทำร้ายนางสาจนแน่นิ่งไป” แล้วหยกก็ตื่นจากความฝัน  ซึ่งความจริงแล้วในวันนี้หยกจะต้องเดินทางไปทำข่าวในจังหวัดสงขลา แต่ด้วยความข้องใจและรู้สึกว่าความฝันนั้นมันกวนใจอยู่ จึงได้เล่าความฝันให้กับพี่ในทีมฟังและทุกคนก็ตกลงกันว่า “งั้นเข้าไปดูที่วัดหน่อย ไม่เสียหายอะไร” ซึ่งในตอนแรกหยกได้มีการไปค้นหาตามจุดต่าง ๆ เช่น ห้องเก็บของ โลงเย็นเก่า แต่ก็ไม่พบกับสิ่งผิดปกติ  จนในจุดสุดท้ายที่ได้เข้าไปดูก็คือกุฏิร้างซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนายพิทญาเพียง 40 เมตร ทันทีที่เข้าไปก็พบกับบ่อน้ำที่ส่งกลิ่นขึ้นมาแต่กลิ่นนั้นไม่ชัด หยกจึงตัดสินใจพูดออกไปว่า “ถ้าเป็นพี่สาก็ช่วยส่งกลิ่นที่ชัดเจนกว่านี้ หรือส่งสัญญาณอะไรมาก็ได้” จากนั้นก็มีกลิ่นที่ค่อนข้างแรงปะทะออกมาพร้อมกับขนลุกในทันที

ทันทีที่รู้สึกว่ามั่นใจ หยกก็ได้มีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้เข้าตรวจสอบในทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็มาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วและพยายามตรวจสอบจนแน่ชัดว่ามันเป็นไปได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการประสานหน่วยงานต่าง ๆ จนท้ายที่สุดก็พบกับร่างของนางสาจริง ๆ