จากกรณี (10 มี.ค) เวลา 10.00 น. ร้อยตำรวจโทพิทักษ์ คำนนท์คอม รองสารวัตรสอบสวน สภ.หัวหิน รับแจ้งเหตุพบสิ่งผิดปกติอาจจะเกิดเหตุร้ายในบ้านพักที่เป็นตึกแถวสามชั้นริมถนนคันคลองชลประทาน ใกล้โรงพยาบาลหัวหิน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสามชั้น ด้านหน้าต่อเติมเป็นห้องกระจก รับหล่อพระ สังฆภันฑ์ โต๊ะมุก ผ้าม่าน มีรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำจอดอยู่

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ได้พยายามเปิดล็อกประตูห้อง และเมื่อสามารถเปิดห้องเข้าไปได้ พบร่างของนางพัด (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี เศรษฐีนีเจ้าของโรงหล่อพระ จำหน่ายผ้าม่าน วัย 63 ปี นอนอยู่บนฟูกที่นอน ลักษณะสวมใส่เพียงชุดชั้นในและมีผ้าห่มคลุมไว้ สภาพศพมีรอยถูกยิงบริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย 1 นัด ตรวจสอบเสียชีวิตมาแล้ว7วัน

 

ขณะที่ข้างศพของนางพัด ก็มีศพผู้หญิงอีกรายคือนางสุ (นามสมมติ) เป็นเลขาของนางพัด นอนเสียชีวิต ลักษณะสวมใส่ชุดนอน ที่มือกำปืนอยู่ และมีรอยกระสุนยิงที่ขมับศีรษะ ตรวจสอบเสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน

 

วันนี้ทีมข่าวช่อง8 ได้รับหลักฐานจดหมายลาตายและพินัยกรรมฉบับเต็ม ซึ่งเป็นลายมือของนางสุ (นามสมมติ) คนก่อเหตุ เป็นเลขาส่วนตัวของนางพัด(นามสมมติ) เศรษฐินีหัวหิน เขียนไว้ทั้งหมดห้าแผ่นทิ้งไว้จุดเกิดเหตุที่สังหารนางพัดและยังเป็นจุดที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการยิงขมับเสียชีวิตคาบ้านพักของนางพัด

 

โดยจดหมายแผ่นแรกเป็นการสารภาพสิ่งที่ทำลงไประบุข้อความว่า “ ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุเอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนลั่นใส่พี่พัด ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก” ลงวันที่เขียนจดหมาย 1 มีนาคม 2567

 

จดหมายแผ่นที่2 เป็นพินัยกรรมที่นางสุเขียนไว้ให้ครอบครัวระบุว่า “ ข้าพเจ้านางสุ ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ไว้เพื่อแสดงว่า ถ้าข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุอันใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอมอบบ้านกับที่ดินให้กับลูกสาวข้าพเจ้าเอง 2 คน แบ่งให้คนละ 50% และให้สามีของข้าพเจ้าได้อยู่จนวันตายแต่ไม่มีสิทธิ์ในบ้านและที่ดิน

 

จดหมายแผ่นที่3 ยังเป็นพินัยกรรมอีกหน้า ระบุข้อความว่า “ ข้าพเจ้าได้ทำพินัยกรรมตอนที่ข้าพเจ้ามีสติครบ 100% โดยให้พี่สาวเป็นผู้จัดการมรดก แบ่งให้หลานๆตอนอายุ 18 ปีบริบูรณ์ และบ้านหลังข้างหน้าให้หลานรักอยู่จนวันตายนะสงสารหลาน

 

จดหมายแผ่นที่ 4 เขียนถึงพี่สาว ระบุข้อความว่า “ พี่สุดที่รักของน้อง รักเสมอไม่เคยโกรธ เวลาสอนในสิ่งที่ดี ฝากขอโทษครอบครัวด้วย ค่าไฟ ผ่อนทอง หักในบัญชี ประกันชีวิตมีสองฉบับนะ รักเสมอ ฝากดูแลลูกๆด้วยนะ

 

จดหมายแผ่นที่ 5 เขียนถึงสามีชาวต่างชาติ ระบุข้อความว่า “ ป๋าขอโทษด้วยนะคะที่ทำบางอย่างผิดพลาดไป ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา สุรักป๋าดูแลลูกของเราให้ดีที่สุดนะคะ I love you ส่วนลูกทั้งสองคน สุดที่รักของแม่ เป็นเด็กดีนะลูก รักนิรันดร์ ในส่วนพินัยกรรมและจดหมายเขียนถึงคนในครอบครัว ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567

 

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของนางสุ (นามสมมติ) ในจ.เพชรบุรี เป็นบ้านหรูชั้นเดียวขนาดใหญ่ ซึ่งบ้านพักหลังนี้นางพัดเพิ่งมาปาร์ตี้กับนางสุและครอบครัวช่วง 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

โดยพบกับนายมาร์ค (นามสมมติ) เป็นหลานของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีชื่อในพินัยกรรมที่นางสุทำไว้ ว่า “บ้านหลังข้างหน้าให้หลานรักอยู่จนวันตายนะสงสารหลาน” บอกว่า ตอนนี้ทั้งพี่สาวและสามีของผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่สภ.หัวหิน เพื่อไปให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ยอมรับว่านางพัดมาที่บ้านหลังนี้โดยมาปาร์ตี้กินเลี้ยง ซึ่งน้าสาวของตนทำงานกับนางพัดมานานมากแล้ว แต่รู้จักอย่างไรไม่ทราบ ส่วนตัวไม่รู้จักกับนางพัดแค่เคยเจอเท่านั้น จึงไม่รู้นิสัยอย่างไร

 

ยืนยันนิสัยน้าสาวตน (นางสุ) เป็นคนเฟรนลี่ เพื่อนเยอะ ทุกคนรักเขา แต่เขาอาจเครียดหรือไม่เราไม่ทราบ เพราะน้าไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง / เหตุการณ์นี้เชื่อว่าทั้งครอบครัวตนและครอบครัวนางพัดไม่ไม่ใครอยากให้เกิด สูญเสียทั้งสองครอบครัว ตนนับถือน้าเหมือนแม่บุญธรรม น้าเป็นคนที่ดีมาก เสียใจที่สูญเสียน้ากะทันหัน

 

ในส่วนพินัยกรรม น้ารักลูกสาวทั้งสองและรักตนมาก น้าไม่เคยคิดถึงตัวเองกลัวแต่ทุกคนลำบากจึงทำพินัยกรรมไว้ ตนยังเชื่ออีกว่า สาเหตุที่น้าตัดสินใจแบบนั้น ไม่มีปมขัดแย้งเรื่องเงินแน่นอน เพราะน้าเป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว แต่เขาทั้งสองทำงานด้วยกันคุยกันตลอด เราก็ไม่รู้เกิดจากสาเหตุอะไร

ไขปริศนา "เศรษฐินีตายคู่เลขา" เปิดพินัยกรรมฉบับเต็มเจตนาฆ่าหรือปืนลั่น?