จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพจากคลิปวงจรปิด เกี่ยวกับเหตุการณ์ของนางแบบสาวคนหนึ่ง เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปฯ แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน จึงได้กดยกเลิกคำสั่งการใช้บริการ ทำให้คนขับแท็กซี่ที่เพิ่งมาถึงโรงแรม ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ เกิดความไม่พอใจ เดินปรี่เข้ามาหานางแบบสาวถึงในโรงแรม บังคับให้โอนเงินค่าโดยสารมาให้ พร้อมสั่งให้ลบคลิปที่ถ่ายเอาไว้ให้หมด จากนั้นคนขับแท็กซี่ยังพยายามลากนางแบบสาวไปขึ้นรถ แต่คนที่มาพักโรงแรมเข้ามาช่วยได้ทัน คนขับแท็กซี่จึงขับรถออกจากโรงแรมไปทันที นั้น
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางสาวกัลยาภรณ์ อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า วันเกิดเหตุไปดื่มเบียร์บ้านรุ่นพี่ แล้วไม่ไหวจึงเรียกแท็กซี่จากแอปฯ หนึ่ง ในเวลาประมาณตี 4.17 น. คนขับโทร. มาบอกว่าหาไม่เจอ มุดไม่ตรง ตนจึงบอกว่าจะเดินออกมารอหน้าโรงแรม เพราะโรงแรมอยู่หน้าปากซอย จะได้สะดวกกันทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นคนขับก็ด่าตนหยาบคายเลย ประมาณว่าเสียเวลา ขอเงินค่าเสียเวลาเพิ่ม 100 บาท
ตนตกใจมาก จึงถามไปว่าทำไมต้องเสียเงินค่าเสียเวลาด้วย เขาก็บอกว่าหาตนไม่เจอ ซึ่งตนก็ปักหมุดตามที่ขึ้นในแอปฯ เลย ไม่ได้ปักตรงอื่นเลย ซึ่งคนขับก็ยืนยันว่าจะเก็บเงินค่าเสียเวลา ตนจึงตัดสินใจบอกว่างั้นขอยกเลิกก่อน เพราะไม่สะดวกจะไปด้วย ยิ่งทำให้คนขับโมโห บอกว่า "ไอ้สั-เดี๋ยวเจอกู"
ตอนนั้นตนเดินเข้ามาในโรงแรมแล้ว และเห็นรถแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาพอดี ตนจึงรีบวิ่งเข้ามาในโรงแรม แล้วคนที่อยู่ในโรงแรมซึ่งเป็นลูกค้าถามตนว่าเป็นอะไร ตนจึงบอกไปว่าขออนุญาตอยู่ในนี้ก่อน เพราะทะเลาะกับคนขับแท็กซี่มา จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็จอดรถแล้วเดินเข้ามาเลย ทั้ง ๆ ที่ตนหลบอยู่ในมุมแล้ว แต่เขาก็ยังหาเจอเดินตรงเข้ามาถามว่าใช่คนที่เรียกรถไหม ตนก็ตอบไปว่าใช่ ซึ่งคนขับก็บอกว่าตนยกเลิกงาน ทำให้เสียเวลา พร้อมขอเก็บเงิน 100 บาท ซึ่งตนก็โอนให้ไป 100 บาท แต่คนขับก็ยังด่าไม่เลิก ตนจึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน เพราะทั้งด่าทั้งข่มขู่ตลอด
ที่สำคัญกลัวว่าเขาจะทำอะไรตัวเองด้วย แต่เขาก็เดินกลับเข้ามากระชากโทรศัพท์ บอกให้ลบคลิป ตนจึงวิ่งตามเอาโทรศัพท์คืน แล้วเดินไปที่รถ เขาบอกให้ตนเข้ารหัสและลบคลิปไป พอลบแล้วเขาบอกว่าไม่คืนโทรศัพท์ให้ ถ้าอยากได้คืนต้องขึ้นรถไปกับเขา ตนก็บอกว่าไม่ไป ขอโทรศัพท์คืนด้วยเพราะไม่มีใช้ เขาก็พยายามผลักตนให้ขึ้นรถ ด้วยความกลัวตนจึงกรี๊ดออกมา ทำให้ รปภ. และคนรอบ ๆ ได้ยินและเดินมา จังหวะที่เขาตกใจเพราะเสียงกรี๊ดของตน จึงรีบคว้าโทรศัพท์คืนมา แล้วบอก รปภ. ว่าเรียกแท็กซี่คันนี้มาแต่กลับมาไถเงินตน ทำให้คนขับแท็กซี่ตกใจรีบวิ่งขึ้นรถขับออกไปเลย
หลังเกิดเรื่องตนได้ไปแจ้งความแล้วที่ สน.ลุมพินี เพื่อนำใบแจ้งความไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากโรงแรมมาเป็นหลักฐานติดตามตัวคนขับแท็กซี่ ซึ่งเพื่อน ๆ ก็แนะนำว่าให้เรียกอีกแอปฯ หนึ่ง แพงกว่าแต่ปลอดภัยกว่า ส่วนสาเหตุที่ตนยกเลิกคือคนขับใช้คำหยาบคาย ใครจะกล้าไปด้วย แถมมาขอเงินค่าเสียเวลาอีก ซึ่งมันไม่ใช่กฎระเบียบที่ตั้งไว้เลย
ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้เดินทางไปยังบ้านคนขับแท็กซี่ที่ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน จึงได้พูดคุยกับแม่ของคนก่อเหตุ เล่าว่า ทราบข่าวและดูคลิปวงจรปิดแล้ว พอลูกชายกลับมาบ้านก็สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งลูกบอกว่าฝ่ายหญิงพูดกับเขาไม่ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างมีอารมณ์โมโห สาเหตุมาจากลูกค้าปักหมุดมั่วซั่วไปหมด ซึ่งลูกชายยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกค้า หรือฉุดกระชาก แค่จะเรียกไปคุยในรถ เพราะกลัว รปภ. เห็นแล้วมาไล่ หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีตำรวจติดต่อมาแต่อย่างใด จึงไม่ได้เข้าไปพบ แต่หากตำรวจประสานมาแล้วพบว่า ลูกค้ามีร่องรอยบาดแผลก็ยินดีชดใช้