จากกรณีที่ นายโยธิน พ่อคลั่งยาบ้าใช้ท่อนสายยางติดกับท่อพีวีซียาวประมาณ 1.2 เมตร กระหน่ำตีและตบแล้วก็ต่อยลูกชายตัวเอง ลูกชายทนความเจ็บปวดไม่ไหวร้องไห้ด้วยเสียงโอดโอยลั่นถนน จนชาวบ้านทนต่อพฤติกรรมของพ่อรายนี้ไม่ได้ ต้องรีบโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมทันที

ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่า นายโยธิน รับยาบ้ามาจากชุมแล้วมาขายต่อ ซื้อมาราคา 3 เม็ด 100 บาท และจะเอามาขายให้คนงาน เม็ดละ 40 บาท ดังนั้นจึงเข้าข่ายเป็นผู้ค้ายา

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับน้องไมตี้ อายุ 11 ขวบ ลูกชายของนายโยธิน พ่อคลั่ง ที่ถูกพ่อทำร้ายหลังทำยาบ้าตกลงพื้น โดยน้องไมตี้ เล่าเหตุการณ์ให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (11 มี.ค.) ช่วงเช้าตนไปนอนเล่นอยู่บ้านเพื่อนในหมู่บ้าน พ่อของตนเองก็เดินมาเรียกตนให้ไปขายของเก่าด้วยกัน ซึ่งตนก็อยากอาบน้ำแต่งตัวก่อนไปข้างนอกก่อน แต่พ่อบอกว่าไม่ต้องเพราะรีบ เลยออกกันไปทันที ตนจึงไม่ทันได้ใส่เสื้อที่ถอดเอาไว้เพื่อเตรียมอาบน้ำ

และเมื่อรถ จยย. กันไปเรื่อย ๆ ก็เจอสายยางอยู่ในถังขยะก็เก็บมาด้วย ต่อมาก็มาถึงร้านขายของเก่า พ่อตนก็ลงเอาของเก่าไปขาย จากนั้นก็ขับไปที่วัด เพื่อไปขอข้าววัดมากินกัน และถัดมาพ่อของตนก็ขับไปที่ซอยทิพากร 2 ซึ่งพ่อเคยพาตนมาซอยนี้นับ 10 รอบแล้ว โดยเมื่อมาถึงจุดนี้พ่อของตนก็จอดรถหน้าปากซอย แล้วเดินหายเข้าไปในซอย ซึ่งพอบอกว่าให้ตนคอตรงนี้อย่าไปไหน และเมื่อพ่อกลับมา พ่อก็บอกว่าให้ถือกระเป๋าใบนี้ให้ดี ๆ นะ ซึ่งตนก็ถามพ่อกลับไปด้วยความสงสัยว่า “ทำไมต้องถือดี ๆ ด้วยครับ” แต่พ่อบอกว่า “มึงต้องรู้หรอก” ก่อนจะซ้อนรถ จยย. พ่อออกมาจากหน้าปากซอยทิพากร 2

และเมื่อขี่มาเรื่อย ๆ รถ จยย. ที่ขี่มาก็เครื่องดับกลางคัน และเมื่อรถ จยย. ดับ พ่อก็เริ่มโวยวายและขอดูกระเป๋าที่พ่อฝากตนไว้ ซึ่งพอพ่อดูกระเป๋าแล้ว พอก็ตีตนไป 1 ที แล้วบอกว่า “มึงไปหาของให้กูเดี๋ยวนี้” ตนก็ถามกลับไปว่า “ของอะไรครับ” และพอพ่อได้ยินคำถามของตนพ่อก็ตะคอกใส่ตนทันทีว่า “ก็ยาม้า เม็ดสีส้มไงไอ….(ควาย)” ซึ่งพอตนได่ยินพอสั่ง ก็รีบวิ่งไปหายาบ้าที่ตกอยู่ตามพื้นทันที แต่ก็หาไม่เจอเพราะเม็ดมันเล็ก แงะใยขณะที่กำลังหายาบ้าให้อยู่ ก็เห็นพ่อเดินมาพร้อมกับถือสายยางที่เก็บได้จากถังขยะข้างทาง และพูดว่า “กูจะดูซิว่ามึงจะหาเก่งเหมือนกูมั้ย” แล้วก็หวดสายยางใส่ทันที ประมาณ 2 ครั้งที่หลัง และเมื่อหาไม่เจอ พ่อตนก็บอกให้ตนวิ่งไปที่รถ จยย. และพ่อก็เดินตามมาและตบที่ศีรษะและดั้งจมูกอีกหลายรอบ ก่อนจะเข็นรถ จยย. ที่สตาร์ทติดออกไป และให้ตนเดินตามมา ก่อนจะถูกตำรวจสายตรวจรวบตัวในที่สุด

สำหรับนิสัยพ่อของตน พ่อของตนจะเป็นคนอารมณ์ร้อน โวยวายและชอบทำร้ายตนเองเป็นประจำ หนักสุดคือปาท่อนไม้ใส่ตน จนต้องเย็บถึง 4 เข็ม จึงอยากให้พ่อตนเองใจเย็นลงบ้าง ทำอะไรก็ฟังเหตุผลของคนอื่นบ้าง ส่วนพ่อตนที่ถูกตำรวจจับไปแล้ว ตนก็เสียใจมาก ๆ ที่พ่อต้องถูกตำรวจจับไป สุดท้ายตอนนี้แม่ของตนที่แยกทางกันไปแล้วกับพ่อ ได้ติดต่อมาหาตนแล้ว หากตนเรียนจบ ป.6 เมื่อไร แม่ก็รับไปอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ทันที

วันที่ 12 มีนาคม 67 ที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ จ.นครปฐม พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมตำรวจสายสืบ, สายตรวจและฝ่ายปกครองของอำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่ปูพรมค้นหา-ออกตรวจตราเชิงรุกในพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นชุมชนที่พ่อทาสยาบ้าพาลูกชายวัย 11 ขวบ ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาซื้อยาบ้าก่อนจะเกิดกรณีลูกชายทำกระเป๋าหล่น จนยาบ้าโผล่ 4 เม็ด อีก 1 เม็ดถูกรถทับบดจนละเอียด ก็เลยโมโหพาลมาทำร้ายลูก

จากการตรวจสอบชุมชนดังกล่าวพบว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่กว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งมีทางเข้าออกหลายเส้นทาง โดยระหว่างลงพื้นที่ปูพรมของตำรวจมีชาวบ้านต้องสงสัยหลายคนถูกตำรวจขอค้นและตรวจสอบปัสสาวะ ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนั่งกินข้าวเหนียวมะม่วงอยู่ที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง เห็นตำรวจมากันเป็นจำนวนมากก็เกิดอาการพิรุธมือสั่นตัวสั่น ตำรวจจึงขอเข้าตรวจค้นตัวและพาไปตรวจปัสสาวะ ระหว่างนั้นก็เจอหลักฐานเด็ดเป็นเศษยาบ้า (ครึ่งขา) ไม่ถึงครึ่งเม็ด หล่นอยู่ใต้โต๊ะ สอดคล้องกับการตรวจปัสสาวะชายต้องสงสัยคนดังกล่าวที่เป็นสีม่วง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพักเมืองนครปฐม นอกจากนี้ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยครอบครองกระสุนปืนจำนวน 1 เพื่อไปตรวจสอบที่สภเมืองนครปฐมด้วยเช่นเดียวกัน

พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ระบุว่า นี่เป็นนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ซึ่งจากการปูพรมค้นหาได้ผู้ต้องสงสัยมาจำนวน 4 ราย จากการตรวจสอบปัสสาวะพบว่าฉี่เป็นสีม่วง และยังเคยพบประวัติถูกดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติดมาแล้ว

ส่วนการขยายผลไปถึงกลุ่มผู้ค้าโดยเฉพาะคนที่ขายยาบ้าให้กับพ่อทาสยาทำร้ายลูกนั้น ขณะนี้ทราบชื่อตัวผู้ค้าแล้วอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม เนื่องจากหลังมีข่าวพ่อทาสยาบ้าทำร้ายลูก ก็ทำให้กลุ่มผู้ค้าบางส่วนไหวตัวนี้ออกจากชุมชนไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่จากการสืบสวนยังพบว่าผู้ค้าในชุมชนนี้เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อยเท่านั้น จึงเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลสืบไปหาตัวการหรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังในการนำยาเสพติดเข้ามากระจายในชุมชนดังกล่าว