จากกรณีที่ น.ส.ชุติมณฑน์ หรือ น้องแคร์ ได้ออกจากบ้านไปทำงานที่กาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ก็ติดต่อทางบ้านมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังขาดการติดต่อ ยังไม่รู้ชะตากรรม นั้น

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ข้อมูลจากทางทีมงานของอ้อ เป็นหนึ่ง ที่กำลังติดตามการหายตัวไปของน้องแคร์ ซึ่งเบื้องต้นทางทีมงานของอ้อ เป็นหนึ่ง แจ้งมาว่าเบอร์โทรศัพท์ที่น้องใช้งาน มีอยู่ 2 เบอร์ โดยจุดสุดท้ายของแต่ละเบอร์นั้น เบอร์แรกสัญญาณสุดท้าย อยู่ที่บ้านในพื้นที่ อ.โป่ง ด่านซ้าย จ.เลย

ส่วนเบอร์ที่ 2 นั้น ไปโผล่อยู่ประเทศเมียนมา โดยคาดว่าหากไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น น้องแคร์จะเดินทางมายังด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อข้ามฝั่งไปประเทศเมียนมา ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลเพิ่มที่ด่าน ตม.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบว่า น้องแคร์ได้เดินทางผ่าน ตม.สุไหงโก-ลก เพื่อข้ามไปที่ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. เวลา 14.22 น. โดยพ.ต.ท.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ได้ให้ข้อมูลว่าเกี่ยวกับการเดินทางเข้า-ออกของน้องแคร์ พบว่า การเดินทางล่าสุดคือวันที่ 28 ก.พ. และก่อนหน้าเมื่อปี 2566 น้องแคร์มีการเดินทางผ่านด่าน ตม. สุไหงโก-ลก ไปมาเลเซีย ถึง 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเป็นข้อมูลวันที่เข้าและออก น้องแคร์จะอยู่ที่มาเลเซียประมาณ 10-20 วัน เพราะฉะนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าการหายตัวไปครั้งนี้ ตัวน้องแคร์จะกลับไปที่ประเทศมาเลเซีย เพราะอาจจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักอยู่ที่นั่นระยะหนึ่งหรือไม่

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจากประตูทางเข้าสถานีขนส่งหมอชิต ของวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา รถทัวร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่น้องแคร์เดินทางมาจากจังหวัดเลย เดินทางมาถึงประตูทางเข้าขนส่งหมอชิตช่วงเวลา 04.36 น.

แต่เมื่อทีมข่าวตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากมุมอื่น ๆ ภายในขนส่งหมอชิต กลับพบว่าน้องแคร์ ไม่ได้เดินทางเข้ามายังตัวอาคารผู้โดยสาร แต่คาดว่าน่าจะเดินทางโดยรถแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปยังสนามบิน ก่อนเดินทางโดยเครื่องบินมุ่งหน้าสู่จังหวัดนราธิวาส ก่อนจะไปพบว่า น้องแคร์ได้ผ่านด่าน ตม.สุไหงโก-ลก ในช่วงเวลา 15.00 น. ของวันเดียวกัน (28 ก.พ.)

ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของน้องแคร์ที่ ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยวันนี้เมื่อทีมข่าวไปพบกับ นางประหยัด อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องแคร์ ได้มีการพาทีมข่าวไปดูตรงถนนทางเข้าบ้าน ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดที่แม่และทางครอบครัวเดินออกมาส่งน้องแคร์ขึ้นรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ก.พ.

นางประหยัด บอกว่า วันที่เดินมาส่งลูกขึ้นรถ แม่กับคนในครอบครัวเดินออกมาส่งลูกตอนประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 27 ก.พ. จากนั้นเมื่อลูกขึ้นรถทัวร์ไปแล้ว แม่ยืนยันว่าติดต่อลูกได้ตลอดในขณะที่ลูกอยู่บนรถ ซึ่งก่อนลูกจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ลูกไม่ได้บอกว่าจะไปทำงานอะไรหรือบอกว่าจะไปอยู่กับใคร แต่บอกเพียงว่าเมื่อถึงกรุงเทพฯ จะเดินทางไปที่จังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้น หลังจากแม่เข้าใจว่าลูกไปทำงานที่จังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันว่าลูกโทร. ติดต่อมาหาคนทางบ้านวันละ 4-5 ครั้ง จนกระทั่งจู่ ๆ ลูกก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา และแม่จึงเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ด่านซ้าย ในวันที่ 11 มี.ค.

ซึ่งถึงตอนนี้ที่มีข่าวว่าลูกสาวออกไปประเทศนั้น ประเทศนี้ ส่วนตัวแม่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และถ้าหากลูกยังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ติดต่อกลับมาหาคนที่บ้าน เพราะตั้งแต่ติดต่อลูกไม่ได้ หลานซึ่งเป็นลูกของเขาก็เอาแต่ร้องไห้

ด้าน นายศิริพงษ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแฟนคนปัจจุบันของน้องแคร์ บอกว่า ตนเองคบหากับ น้องแคร์มาประมาณ 4-5 เดือน (เดือนตุลาคม) ซึ่งตลอดที่คบกัน ยืนยันว่า น้องแคร์ไม่เคยบอกว่าจะเดินทางไปทำงานนอกพื้นที่ ยอมรับก่อนที่น้องแคร์จะเดินทางในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ตนเองไม่ได้ติดต่อกันในช่วงนั้น เพราะทะเลาะกัน แต่ภายหลังที่มารู้ว่าเขาเดินทางไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วง ก็ติดต่อคุยแชตกันตลอด และเขาก็บอกตลอดว่าเขาไปทำงานอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี กระทั่งวันที่ 8 มีนาคม จู่ ๆ ก็ขาดการติดต่อไป

ซึ่งล่าสุดที่มารู้ว่าเขาข้ามไปที่ประเทศมาเลเซีย ก็รู้สึกตกใจ เพราะคนทางบ้านไม่มีใครรู้เลยว่าเขาไปไหนทำอะไรอยู่ โดยส่วนตัวภาวนาให้เขาปลอดภัย และถ้าเขาฟังอยู่ก็อยากจะฝากไปบอกว่า ถ้ารับรู้ก็ขอให้ติดต่อกลับมาทางบ้าน เพราะพ่อแม่และทุกคนเป็นห่วง