เปิดห้องสังหาร "แม่นาย" ยัน "น้องสา" ไม่ได้ร้องให้ช่วย
วันนี้ (13 มี.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ขออนุญาตนางละเอียดเพื่อเข้าไปตรวจสอบทางเข้าออกภายในห้องนายพิทญา ปรากฏว่าห้องนอนของนายพิทญานั้นมีทางเข้าออกแค่ 1 ทาง ก็คือประตูด้านหน้าห้อง ซึ่งเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะต้องเดินผ่านตลาดและพื้นที่ก็ค่อนข้างโจ่งแจ้ง ระยะทางก็จะค่อนข้างจะไกลกว่า
ทีมข่าวจึงตั้งคำถามว่า “แล้วจะเป็นไปได้ไหมถ้านายจะลากร่างของนางสาผ่านห้องนอนของนางละเอียด” ทำให้นางละเอียดยอมเปิดห้องนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกกับช่อง 8 เพื่อให้ทีมข่าวเข้าไปดูว่าพร้อมกับยืนยันว่า “มันเป็นไปไม่ได้” เนื่องจากห้องของนางละเอียดมีประตูเข้าออกแค่ 1 ทาง นอกจากนั้นก็จะมีแค่หน้าต่างที่เริ่มผุพัง ซึ่งก็เปิดกว้างได้ไม่เยอะเพราะสนิทก็เริ่มเกาะบริเวณบานเลื่อน โดยนักข่าวก็ได้ลองขึ้นไปนั่งบริเวณหน้าต่างที่ถูกเปิดค้างไว้ ปรากฏว่าความกว้างนั้นพอดีกับช่วงตัวของนักข่าว ถ้าจะลอดออกไปจริง ๆ ก็คงออกไปได้ แต่มันก็จะคับแคบพอสมควร
จากนั้นทีมข่าวก็ได้สอบถามว่า “ห้องของแม่ก็อยู่ติดกับห้องลูกชายเลยนะ แม่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเลยหรอ” นางละเอียดก็ยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงร้องเพราะหลับไปแล้ว นักข่าวจึงให้ทีมช่างภาพเข้าไปในห้องนอนของไอ้นาย จากนั้นทำการปิดประตูแล้วให้ส่งเสียงร้องออกมา ซึ่งในครั้งแรกทีมช่างภาพก็ร้องว่า “โอ๊ย โอ๊ย” ปรากฏว่านักข่าวที่อยู่ในห้องนอนของนางละเอียดได้ยินเสียงดังชัดเจน แต่นางละเอียดก็โต้ขึ้นมาว่า “เสียงของสาไม่ได้ใหญ่แบบนี้” นักข่าวก็ให้ทีมช่างภาพทดลองใหม่อีกครั้งและบอกว่า “ร้องเสียงเบา ๆ หน่อย แม่ละเอียดเขาบอกว่าพี่สาเสียงเบา” จากนั้นทีมช่างภาพก็ร้อง “โอ๊ย โอ๊ย” ด้วยเสียงที่เบาและไม่ได้ตะโกน ปรากฏว่านักข่าวที่อยู่ในห้องนอนของนางละเอียดก็ยังคงได้ยินเสียงร้องอย่างชัดเจน
ต่อมาทางด้านนางดา (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเจ้าของหอพักที่นางสาวได้เช่าอาศัย ได้ส่งคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ในวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยเป็นภาพบรรยากาศตอนที่ทางด้านเพื่อนสนิทได้รวมตัวกันออกตามหานางสาตามจุดต่าง ๆ รวมไปถึงบ้านของนางละเอียดและนายพิทญา หรือ ไอ้นาย ซึ่งในคลิปที่มีการเข้าไปค้นบริเวณห้องของไอ้นาย จะเห็นว่ามีนางละเอียดอยู่ด้วย โดยทางนางดาเจ้าของหอพักได้มีการขออนุญาตก่อนจะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งนาฃละเอียดก็ยินยอมให้เข้าไปตรวจสอบ ทันทีที่เข้าไปในห้องไอ้นาย ทุกคนก็พากันเรียกชื่อสา “สา สา สาเอ้ย” แต่ก็ไร้วี่แววและการตอบกลับจากนางสา
นอกจากนี้ ในช่วงกลางดึกวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนได้มีการติดต่อและเชิญให้นักข่าวช่อง 8 เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม ในฐานะพยานที่เป็นผู้พบศพของนางสา (ผู้เสียชีวิต)
โดยพนักงานสอบสวนได้มีการสอบถามถึงสาเหตุในการเดินเข้าไปสำรวจภายในวัดที่เจอศพ นักข่าวก็ได้ตอบว่า “มีการไล่เรียงภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้พบว่าจุดสุดท้ายที่นางสาหายไปคือบริเวณวัดท้าวโคตร” พนักงานสอบสวนก็ถามอีกว่าทำไมถึงเดินไปดูบริเวณบ่อน้ำ ทีมข่าวก็ตอบว่า “ก่อนหน้านั้นมีการเดินไปดูบริเวณอื่นก่อนแล้ว และได้มีการสอบถามชาวบ้านในบริเวณวีดว่ามีจุดไหนน่าสงสัยบ้าง ซึ่งชาวบ้านก็ได้ให้ข้อมูลว่ามีบ่อน้ำอยู่ในกุฏิร้างหลังวัด เมื่อเดินเข้าไปดูก็พบกับสิ่งต้องสงสัย จนนำไปสู่การแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้มาตรวจสอบ” ส่วนเวลาในการเจอศพ คือ 09.20 น. และได้มีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลา 09.31 น.