พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีต ผบช.ปส. เปิดเผยผ่านยูทูบ โจ เรวัชกลิ่นเกษาร ช่วงหนึ่งโดยระบุว่า “ผมชื่นชมน้องนักข่าวช่อง 8 นะครับ เด็กผู้หญิง ที่มีเน็ตไอดอลหรือดาว TikTok มาถูกฆ่าแล้วทิ้งในบ่อน้ำ เขาก็ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจเองรับแจ้งความแล้วก็ยังไม่ได้ไปตามหาเพราะว่าส่วนใหญ่ตำรวจก็จะรอ ไปไหน หรือเปล่าไปกับผู้ชายหรือเปล่า ไปกับเพื่อนหรือเปล่าอะไรต่ออะไร ตำรวจก็จะรอจนครบ 24 ชั่วโมงจนกว่าพฤติการณ์จะแน่ชัดจริงๆ ว่าถูกจับตัวไปหรือถูกล็อกตัวไปแต่ถ้าหายไปเฉย ๆ แบบนี้จะไม่ค่อยตามทันที”
“น้องหยก นักข่าวช่อง 8 ใช่ไหมครับ หนู ผมชื่นชมคุณนะลูก หนูมีจิตวิญญาณของนักข่าว ที่จริงถ้าผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมจะรับหนูคนนี้มาเป็นตำรวจเลยนะเข้าโครงการ กอส. (หลักสูตรฝึกอบรมพื้นฐานสำหรับข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร) เลย ติดยศร้อยตำรวจตรีเลย แล้วบรรจุอยู่ในกองสืบเลย เพราะว่าคนอย่างนี้มีปฏิภาณไหวพริบและมีจิตวิญญาณของนักสืบ นักสืบต้องไปที่เกิดเหตุทันที ถามคนรอบข้างให้หมด ใครเห็นอะไรบ้างยังไงบ้างนะครับ
คือถ้าผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเด็กคนนี้ถ้าจบปริญญาตรีผมจะรับเลย ผมจะรับเข้ามาเป็นตำรวจเลย ไอ้หลักสูตร กอส. ที่คนนั้นด่าคนนี้ด่าว่าหลักสูตร กอส.ไม่ดี ผมไม่สนใจจะด่าก็ด่า ผมจะรับเลย บรรจุเป็นสิบตำรวจตรีก่อนแล้วไปฝึก ติดยศร้อยตำรวจตรีเลยลูกมันมีแวว มีแววที่จะเป็นนายตำรวจที่ดี”
ด้านนางละเอียด แม่ของนายนายให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่องแปดว่า วันนี้เป็นวัน เผาศพของนางสาวสาวแล้วตัวเองก็อยากให้ดวงวิญญาณของเขาไปสู่สุคติ เพราะที่ผ่านมาเค้าก็ไม่เคยมีปัญหากับตัวเอง และดีกับตัวเองมาตลอด ถึงวันนี้ตัวเองจะร่วมงานกับเขาก็ตาม เนื่องจากตัวเองก็เป็นห่วงถึงความปลอดภัย แต่ตัวเองก็จะทำให้เขาในภายหลัง
ส่วนนายนายลูกชายของตัวเองนั้น ตัวเองก็ไม่ขอประกันตัว เพราะไม่มีหลักทรัพย์ ปล่อยให้ลูกชายลูกชายถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนี้ตัวเองก็จะไปเยี่ยมลูกชาย ที่เรือนจำอีกที
แต่เมื่อวานนี้ตัวเองได้ไปเยี่ยมลูกชายที่ห้องขัง พร้อมกับได้จับมือให้กำลังใจลูกชาย ส่วนนายนาย ลูกชายตัวเอง เขาก็บอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเขา เขาขอรับผิดในสิ่งที่เขาทำเอง
ด้านก๊ะสาว เจ้าของหอพักของนางสาวสา ก็ได้มาร่วมงานศพ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ไม่เชื่อว่านายนาย จะก่อเหตุเพียงเพราะเรื่องหึงหวงเรื่องเดียว ตัวเองเชื่อว่าเขาต้องมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
เพราะว่าเมื่อวานนี้ นายนายเขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า เงินจากการขายทองสา ยังเหลืออยู่ ซึ่งตัวเองก็อยากให้ตำรวจไปสืบด้วยว่า เงินจำนวนดังกล่าวอยู่ที่ไหน กับใคร เพราะลำพังสร้อยของสาว ก็ขายได้เกือบแสนบาท ไหนจะโทรศัพท์มือถือของสาอีก จึงคิดว่านายนาย เขาทำไปเพราะหวังเรื่องเงินแน่นอน และอยากให้นักข่าวช่วยตามเรื่องนี้ด้วย
ส่วนเรื่องทางคดี ตัวเองก็อยากให้นายนาย เขาถูกดำเนินคดีถึงที่สุด และตัวเองคิดว่านายนายเขามีการเตรียมการวางแผนก่อเหตุแน่นอน เพราะหากสังเกต วันที่เขาเอารถสาไปจอดที่หน้าบ้านญาติ เขาก็สวมเสื้อสีแดง ให้คล้ายกับชุดที่สาสวมใส่วันสุดท้าย ก็คือเสื้อสีแดง จึงคิดว่าเขาวางแผนก่อเหตุแน่นอน