เมื่อเวลา 09.00 น. ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ลงพื้นที่ ต.ดอนยอ อ.เมือง จ.นครนายก กาลเสนี อายุ 38 ปี (ลูกบุญธรรม) พาคุณยายไพ อายุ 86 ปี เข้าขอความช่วยเหลือกับ เพจเรื่องจริงนครนายก ซึ่งเป็นสาขาของมูลนิธิองค์กรทำดี ของดร.บุ๋ม ปนัดดาวงศ์ผู้ดี กรณี คุณยายไพ ถูกหลานชายแท้ๆ ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ทำร้ายร่างกาย ใช้เท้าถีบเข้าบริเวณใบหน้า และฉุดกระชากจนร่างกายเป็นรอยเขียวช้ำ ซึ่งแจ้งผู้นำชุมชน ก็ทำอะไรไม่ได้จนต้องพาคุณยายเข้าร้องเรียนกับเพจเรื่องจริงนครนายกให้ช่วยเหลือ
ทางเพจเรื่องจริงนครนายก ได้สอบถามข้อเท็จจริงจากคุณยายไพ คุณยายได้เล่าว่า หลานชายชื่อ นายวัฒนสิน อายุ 35 ปี หรือ “นายบิ๊ก” ติดยามานานแล้ว และมีพฤติกรรมชอบพากลุ่มเพื่อฝูงมามั่วสุม เสพยากันภายในบ้าน ซึ่งคุณยายนั้น อยู่กับนายบิ๊กเพียง 2 คน ส่วนลูกแท้ๆ และลูกบุญธรรมที่พาเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือนั้น อยู่ไกลกัน เมื่อนายบิ๊กนั้นเสพยา จะมีอารมณ์รุนแรง ด่าตนด้วยคำหยาบคาย เวลาที่คุณยายบ่น เพราะนายบิ๊กชอบขโมยของในบ้าน ไปขายแลกกับยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันขโมยจนเหลือแต่เพียงซากบ้าน เพราะเอาหมดทุกอย่าง ไม้ ฝาบ้าน ประตู หน้าต่าง รถเข็น ถ้วยชาม พระเครื่อง และเงินสด จนที่บ้านไม่เหลืออะไรแล้ว ขนาดคุณยายซื้อไข่ไก่ ผัก ข้าวสารมา ยังต้องนำไปซุกเอาไว้ที่โอ่งน้ำเพราะหากไม่ซุก จะถูกขโมยไปจนหมด ซึ่งวันเกิดเหตุ คุณยายก็บ่นนายบิ๊กว่าจะเปิดพัดลมทิ้งไว้ทำไมทั้งวันทั้งคืน มันเปลืองไฟ ถ้าร้อนก็ไปนอนเปลใต้ต้นไม้หน้าบ้าน มันเปลืองไฟ เงินก็ไม่ค่อยจะมีจ่ายค่าไฟ จะได้มีเงินไว้ซื้ออาหารกิน ซึ่งนายบิ๊กก็ได้ด่า และด่าด้วยคำหยาบคาย จนยายได้หยิบไม้จะตีนายบิ๊ก แต่นายบิ๊กได้ เอาเท้าถีบหน้าคุณยายเข้าอย่างเต็มแรง และได้พยายามฉุดกระชากยายเพื่อที่จะแย่งไม้ จนยายนั้นมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย หลายจุด ซึ่ง นายสุรชัย (ลูกบุญธรรม) ได้เล่าว่า ไม่ใช่เพิ่งทำแค่ครั้งแรก แต่ทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว เมื่อแจ้งผู้นำชุมชน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย อย่างมากก็แค่เอาตัวไป3-4วันก็ปล่อยกลับมาทุกครั้ง แล้วก็มาก่อเหตุแบบนี้ซ้ำอีก
เมื่อเพจเรื่องจริงนครนายก ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จึงได้ส่งข้อมูลให้กับ ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทราบ จากนั้น ดร.บุ๋ม ปนัดดาฯ ได้ให้ประสานเจ้าหน้าที่ พม. ให้รับทราบจากนั้น ดร.บุ๋ม ปนัดดาฯ ก็ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเข้าช่วยเหลือคุณยาย ซึ่งระหว่างที่มาถึงบ้านคุณยายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ พม. ฝ่ายปกครอง อำเภอ และอบต. ก็ได้กำลังพูดคุยอยู่กับคุณยายอยู่ก่อนแล้ว เมื่อ ดร.บุ๋ม ปนัดดา ถามว่าผู้ก่อเหตุอยู่หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวนายบิ๊ก ออกมาพูดคุยกับ ดร.บุ๋ม ปนัดดา ซึ่งระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายบิ๊กว่าเอายาเสพติดมาจากไหน ซึ่งนายบิ๊กได้บอกว่าเพื่อน จากนั้นดร.บุ๋ม ปนัดดา จึงได้ถามว่าซื้อมาเท่าไหร่ นายบิ๊กก็ได้พูดจาวกไปวนมา จนเจ้าหน้าที่ได้แกล้งแซวว่า บอกพี่บุ๋มเค้าไปสิ เค้ามีเงินนะ จะให้เงินไปซื้อ ซึ่งนายบิ๊กก็ได้รีบหันกลับมาถามว่า เค้ามีเงินหรอ ซึ่ง ดร.บุ๋ม ปนัดดาก็ได้ควักเงินออกมา และบอกว่ามีสิ จะเอาเท่าไหร่ ให้ไปแล้วมันซื้อได้เท่าไหร่ละ นายบิ๊กก็ได้ตอบว่า มีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อได้เท่านั้นและ มีเยอะผมก็หาได้เยอะ จากนั้น ดร.บุ๋ม ปนัดดา ก็ได้ให้นักข่าวตามไปดูสิว่าบ้านไหนขายยา โดยให้นายบิ๊กพาไป เพื่อที่จะได้เก็บข้อมูลส่งให้กับเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมผู้ขาย
ซึ่งนายบิ๊กก็ยินดีพานักข่าวไป ในระหว่างทางที่จะเดินทางไปดูบ้านของผู้ขายยาเสพติดนั้น ได้มีทางทีมข่าวที่อยู่บ้านคุณยายได้โทรมาแจ้งว่าให้พาตัวนายบิ๊กกลับมาก่อน เนื่องจากตอนนี้ ทางฝ่ายปกครองไม่พอใจกำลังปะทะคารมกับ ดร.บุ๋ม ปนัดดาฯ อยู่ ซึ่งฝ่ายปกครองบอกกับ ดร.บุ๋ม ปนัดดาว่า การนายพานายบิ๊กไปดูบ้านของผู้ขายยาเสพติด นั้นเป็นการบังคับขู่เข็น ผู้ป่วย เพราะตามกฎหมายถือว่านายบิ๊กที่ติดยาเสพติดนั้นเป็นเพียงผู้ป่วย และทางทีม ดร.บุ๋ม กับนักข่าวไม่มีสิทธิ์ ที่กระทำได้ ซึ่งทำให้ ดร.บุ๋มฯ ถึงกับเดือด และตอบกลับว่า นี่มันไม่ใช่ผู้ป่วย นี่มันคือคนร้าย ที่ทำร้ายร่างกาย คนแก่ และผู้หญิง แล้วอีกอย่างนักข่าวเค้าก็แค่สืบหาข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินคดีจับกุม คนร้ายให้หมด และทางปกครองเองคุณมีหน้าที่ต้องมาดูแลผู้เสียหายที่ถูกกระทำ ต้องมาดูแลคุณยาย ไม่ใช่มาปกป้องคนร้าย แล้วมันผิดอะไร ที่นักข่าวจะหาข้อมูลให้ มันไม่ดีหรอที่คุณจะได้จับคนร้ายได้มากขึ้น ประชาชนจะได้ปลอดภัย แต่คุณมาอ้างสิทธิ์ผู้ป่วย สิทธิ์ ยา 5 เม็ด เป็นผู้ป่วย แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร
หลังจากได้มีการปะทะคารมกันเสร็จ ทางฝ่ายปกครองได้ประสานชุดสืบ สภ.เมืองนครนายก เข้ามาควบคุม ตัวนายบิ๊ก ไปดำนินคดีทางกฎหมาย แต่ทางชุดสืบได้ให้ข้อมูลว่า ทำได้เพียงตั้งขอหาผู้เสพ และส่งตัวเข้ารักษา เพียงเท่านั้น ซึ่งจะใช้เวลา เพียง 3-4 วัน ก็จะต้องปล่อยกลับบ้าน
ซึ่งทางคุณยายเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก หากนายบิ๊กกลับมาแล้วอาจจะมาทำร้ายอีก ซึ่งทาง พม. จ.นครนายก พยายามที่จะพาตัวคุณยายไปดูแล แต่คุณยายไม่ยินยอมไป เมื่อจะให้ไปอยู่กับลูกสาว หรือลูกบุญธรรม ก็ไม่ยอมไปอีก เนื่องจากว่า ห่วงบ้าน กลัวนายบิ๊กกลับมาแล้ว จะขโมยทรัพย์สินอีก ทาง พม. จ.นครนายก จึงพาคุณยายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครนายก ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์ เพิ่มเติม เพื่อหวังจะเพิ่มโทษให้นายบิ๊กนั้นถูกดำเนินคดี เพิ่มขึ้น จะได้ไม่กลับมาทำร้ายคุณยายอีก เนื่องจาก นายบิ๊ก นั้นมีอาการหลอนยาเสพติดอยู่ พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวคุณยายไปตรวจร่างกายต่อที่ รพ.นครนายก และยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ว่าจะสามารถดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์ได้อยู่หรือไม่ เนื่องจากพยานหลักฐานค่อนข้างอ่อน เพราะไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ช่วงเกิดเหตุมีเพียงยายกับนายบิ๊กเพียง 2 คนเท่านั้น
เมื่อ ดร.บุ๋ม ปนัดดาฯ เดินทางกลับ ระหว่างอยู่บนรถ ได้ไลฟ์สด ถึงประเด็นดังกล่าว ที่พบเจอระหว่างลงพื้นที่ และไม่พอใจ ฝ่ายปกครอง และข้อกฎหมาย ที่ออกมาปกป้องคนร้าย แต่ไม่ปกป้องประชาชน ซึ่งหลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะรอผลตรวจร่างกายจากทาง รพ. และมาพิจารณาต่ออีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินคดีอะไรเพิ่มเติมได้หรือไม่