หนุ่มเพี้ยนเอารองเท้าตบหน้าพระ ที่แท้เป็นหลานเทียด "พ่อท่านซัง" ฉุนบนให้เมียกลับมาแล้วไม่ได้ คิดว่าจะได้รับสิทธิพิเศษ
กรณีปรากฏคลิปจากกล้องวงจรปิดในหอรูปเคารพพระครูอรรถธรรมรส หรือที่รู้จักในชื่อ “พ่อท่านซัง”พระเถราจารย์เกจิรูปสำคัญของเมืองร่อนพิบูลย์ ภายในวัดเทพนิมิต หรือวัดวัวหลุง ตำบลควนชุม อำเภอร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช ชายหนุ่มรายนี้ได้เข้าแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดต่อหน้ารูปหล่อเหมือนพ่อท่านซัง ก่อนใช้รองเท้าแตะตบไปที่ใบหน้าของรูปเหมือน และยังขว้างรองเท้าใส่ โดยคลิปนี้ถูกนำออกมาเผยแพร่เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ และในที่สุดนั้นทราบแล้วว่าชายดังกล่าวเป็นชายหนุ่รายหนึ่งมีบ้านอยู่บริเวณด้านหลังวัด
ความคืบหน้าเมื่อ 15 มีนาคม 2567 ตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช ได้เข้าบำเพ็ญประโยชน์จิตอาสาในพื้นที่วัดร่วมกับชาวบ้านที่เข้ามาทำบุญ 100 วันอุทิศให้กับดวงวิญญาณของเครือญาติที่ล่วงลับ โดยพบว่ากรณีนี้ได้ถูกตั้งสำนวนเป็นคดีอาญาแล้ว
ช่วงเช้าที่ผ่านมาสายตรวจตำบลควนชุม ได้นำหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปยังบ้านพักของชายที่ปรากฏในภาพแล้ว เพื่อให้พบพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์เป็นการเบื้องต้น เนื่องจากการใช้รองเท้าเข้าไปตบบริเวณใบหน้าของรูปเหมือนนั้น พบว่ามีความเสียหายบริเวณดวงตาของรูปเหมือน และอาจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตาม มาตรา 206 อีกหนึ่งข้อหา คือ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่ 2000 ถึง 14000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระบุว่าชายรายดังกล่าวที่ปรากฏนั้นอยู่ในสายตระกูลของพ่อท่านซัง มีศักดิ์เป็นเหลนเทียด หรือพ่อท่านซังเป็นเทียด มีภาวะที่ไม่ค่อยปกติจากความเครียด เนื่องจากภรรยาได้แยกทางและออกไปจากบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว ชายรายดังกล่าวอาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียวไม่สุงสิงกับใคร เข้าใจว่าเหตุที่ทำให้เกิดอาการเกรี้ยวกราดจากที่เข้าไปบนบานกับรูปเหมือนให้ภรรยากลับมา แต่ไม่เป็นผลจึงก่อเหตุ โดยเข้าใจว่าเขาเป็นเหลนเทียดคงจะได้รับสิทธิพิเศษพ่อท่านจะตอบรับการบนบาน แต่เมื่อไม่เป็นไปตามที่ต้องการจึงโกรธ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างความทุกข์ใจให้กับครอบครัวอย่ามาก เตรียมที่จะตั้งเครื่องขอขมาและนำตัวมาขอขมาต่อหน้ารูปเหมือนเร็วๆนี้
สำหรับพ่อท่านซัง หรือพระครูอรรถธรรมรส เป็นพระเกจิเถราจารย์ที่ทรงวิทยาคมจนเป็นที่ร่ำลือเมื่อกว่า 80 ปีก่อน และยังเป็นพระสงฆ์นักพัฒนา มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อปี 2478 อายุ 84 ปี แต่ความศรัทธาของชาวร้อนพิบูลย์ และชาวนครศรีธรรมราช ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องมีการจัดประเพณีสรงน้ำในช่วงเทศกาลเป็นประจำทุกปี