จากกรณีญาติร้องเรียนผ่านช่อง 8 ถึงเหตุการณ์ นางสาวธารารัตน์ อายุ 20 ปี หายตัวออกจากบ้านพัก โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 22.00 น. ของวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา จากนั้นทางครอบครัวได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม โดยระบุในใบแจ้งความว่า นางสาวธารารัตน์ได้คบหากับผู้ชายที่ชื่อนายวิสุทธิ์ ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกัน 1 คน
จากนั้นทั้งคู่เลิกรากันช่วงเดือนมีนาคม 2567 นายวิสุทธิ์ได้ขับรถกระบะไม่ทราบทะเบียน จอดผ่านบ้านพักประมาณ 100 เมตร แล้วเดินเข้ามายังบ้านพักก่อนกระชากตัวนางสาวธารารัตน์ให้ไปด้วยกัน ตอนเกิดเหตุมียายห้ามแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ต่อมาทางญาติได้ติดต่อพ่อแม่ของนายวิสุทธิ์ ก็ไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว จึงตัดสินใจมาแจ้งความ นั้น
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับตลาดจินดา อ.สามพราน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1.2 กิโลเมตร บันทึกนาทีรถกระบะต้องสงสัยคล้ายคันของนายวิสุทธิ์ขับผ่าน ช่วง 22.23 น. วันที่ 14 มีนาคม จากนั้นนายวิสุทธิ์ได้แวะบ้านรุ่นน้องที่อยู่บริเวณนี้ก่อนขับหนีต่อ
กล้องวงจรปิดถนนทางหลวงชนบทนครปฐม 3027 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 2.2 กิโลเมตร บันทึกนาทีรถกระบะต้องสงสัยคล้ายคันของนายวิสุทธิ์ขับผ่าน ช่วง 23.56 น. วันที่ 14 มีนาคม ภายหลังจากนายวิสุทธิ์ได้แวะบ้านรุ่นน้องเพื่อไปยืมเงิน 1,000 บาท เพราะเจ้าตัวไม่มีเงินติดตัวขณะฉุดน้องฝนหนี
กล้องวงจรปิดบริเวณถนนคลองใหม่ ต.บางช้างเหนือ อ.สามพราน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3.5 กิโลเมตร บันทึกนาทีที่รถกระบะต้องสงสัยขับผ่าน ช่วง 00.00 น. ของวันที่ 15 มีนาคม โดยมุ่งหน้าไปยังถนนเพชรเกษม
ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณถนนเพชรเกษม ต.คลองใหม่ อ.สามพราน ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 9 กิโลเมตร บันทึกนาทีที่รถกระบะต้องสงสัยคล้ายคันของนายวิสุทธิ์ขับผ่านช่วง 00.03 น. ของวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเส้นทางนี้มุ่งหน้าไปยัง อ.สามควายเผือก และจ.เพชรบุรี
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายเจมส์ (นามสมมติ) รุ่นน้องผู้ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อคืนเกิดเหตุ 14 มีนาคม นายวิสุทธิ์ หรือ พี่ต้อง คนก่อเหตุ ขับรถกระบะมาที่บ้านของตน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1.2 กิโลเมตร แล้วมาตะโกนเรียกตน แต่ตอนนั้นตอนอาบน้ำอยู่ในบ้านจึงไม่ได้ออกมาหาพี่ต้อง ซึ่งพี่ต้องตะโกนขอยืมเงินตน 1,000 บาท ตนเลยตะโกนกลับว่าเดี๋ยวจะโอนให้แล้วพี่ต้องก็ขับรถออกไป ยืนยันว่าตอนนั้นก็ไม่ได้ออกมาดูจึงไม่รู้ว่าฝนอยู่ในรถคันดังกล่าวหรือไม่
พอตนอาบน้ำเสร็จก็กำลังจะโอนเงินแต่ปรากฏว่า ญาติของฝนเดินทางมาหาตนที่บ้านแล้วมาถามว่าพี่ต้องได้มาหาตนหรือไม่ ตนตกใจมากในตอนนั้น หลังญาติเล่าให้ฟังว่าพี่ต้องไปฉุดฝนออกมาจากบ้านทำให้ตนตัดสินใจไม่โอนเงินเพราะกลัวเอี่ยวคดีด้วย
เท่าที่ตนรู้จักกับพี่ต้อง ยืนยันว่า เจ้าตัวเป็นคนไม่เกเรและไม่มีพิษไม่มีภัยกับใคร ส่วนที่กินน้ำท่อมก็เป็นปกติวัยรุ่นกินกัน หากพี่ต้อมจะกินก็ไม่แปลกและก็ไม่เคยเห็นพี่ต้องทะเลาะกับน้องฝน มีแต่พี่ต้องตามใจน้องฝนตลอด ยืนยันว่า ยังไม่เคยเห็นพี่ต้องตีฝนต่อหน้าตนเอง
ก่อนที่พี่ต้องจะเลิกกับฝนก็มาระบายความอัดอั้นในใจกับตนตลอด ว่าที่บ้านของฝนจะไล่พี่ต้องออกจากบ้านแล้วพยายามบีบบังคับพี่แยกกันอยู่หรือเลิกกัน แต่ตัวพี่ต้องรักภรรยามาก ก็จะบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีภรรยา ตนก็เตือนสติตลอดให้ใจเย็น ส่วนกรณีเรื่องอื่นที่ครอบครัวฝนบอกว่าพี่ต้องเกาะภรรยากิน อันนี้ตนก็ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของในครอบครัวเขา
สุดท้ายเคยเตือนสติก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ว่าให้ใจเย็นผัวเมียทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีขึ้น อยากให้พี่ต้องไปทำงานกลับตัวกลับใจแล้วมาขอโทษ เดี๋ยวทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม ส่วนตัวคิดว่าพี่ต้องพาฝนหนีไปได้ไม่ไกล เพราะทั้งคู่ไม่ได้มีเงินติดตัวเลย
ต่อมาญาติของน้องฝนบางส่วนก็เดินทางมาที่ สภ.สามพราน หลังจากมีกระแสข่าวลือว่านายวิสุทธิ์ หรือ ต้อง ได้ประสานมามอบตัวกับตำรวจทำให้มีการเฝ้ารอที่โรงพักหวังว่าได้รับข่าวดีและจะได้รับตัวน้องฝนกลับบ้าน
นายสริญธรณ์ อายุ 34 ปี พี่ของฝน บอกว่า ทางตำรวจได้ให้เบาะแสแก่ทางญาติว่าเมื่อคืนนี้มีสายปริศนาโทร. มาหาทางตำรวจโดยปลายสายเป็นนายวิสุทธิ์ที่ยืมโทรศัพท์มือถือของชาวบ้านโทร. มาบอกจะขอมอบตัว หลังจากเช็กสัญญาณโทรศัพท์มือถือทราบว่าอยู่แถว ๆอ.สามควายเผือก ส่วนตัวขอขอบคุณข่าวทุกสำนักที่ช่วยล่าตามหาน้องฝน
ยืนยันว่าถ้าได้ตัวน้องคืนมา ครอบครัวตนจะต้องยืนยันว่าอีกฝ่ายบุกรุกเคหะสถานยามกลางคืน ส่วนข้อหาคดีอื่นจะต้องถามความเต็มใจของน้องก่อนว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ เพราะน้องหายไปกับอดีตสามีหลายวัน ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะกล่อมน้องหรือพูดอะไรกับน้องหรือเปล่า
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเข้ม (นามสมมติ) พ่อของคนก่อเหตุทางโทรศัพท์ บอกว่า ตนได้แจ้งข้อมูลทั้งหมดกับทางตำรวจไปแล้ว ตอนแรกจะประสานมอบตัวลูกชายวันนี้โดยให้ทางตำรวจมารับแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจขอเป็นวันหลัง ยืนยันว่าน้องฝนปลอดภัยดี
แต่หากถ้าถามว่าถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ ก็ยอมรับว่า มีเพียงวันที่ลูกชายเข้าไปฉุดกระชากตัวฝนเท่านั้น ถ้ามีเจ็บก็น่าจะเป็นวันนั้นวันเดียว แต่ที่ลูกชายทำไปเพราะรักแฟนของเขามาก ส่วนตัวก็เสียใจกับที่ลูกชายทำแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตำรวจออกหมายจับ “ต้อง” และได้รับการประสานจากผู้ก่อเหตุจะขอเข้ามอบตัววันจันทร์นี้ (18 มีนาคม) พร้อมยืนยัน ฝน ภรรยาเก่า ปลอดภัยดี