จากกรณี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มี.ค. 2567 พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.กันทรารมย์ อยู่นั้น ได้มี นางชัญญาพรรณ อายุ 56 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 เดินทางเข้ามาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงคนตาย ที่ ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัว นางชัญญาพรรณ ไว้สอบสวน และสั่งการให้ ร.ต.อ.เอกภูมิ พลศักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ นำกำลังเจ้าห้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.กันทรารมย์ ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านของ นายกฤษณ์ หรือทนายป๋อง ทนายความความชั้นหนึ่ง ภายในบ้านบริเวณชั้นล่าง หน้าห้องนอน ปรากฏว่าพบร่างของ นายกฤษณ์ หรือทนายป๋อง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุจริง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นลายทหาร พบรอยบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณหน้าอก และกลางลำตัว รวม 3 แผล กระสุนฝังใน 2 นัด และทะลุหลังอีก 1 นัด มีเลือดไหลนองพื้น ใกล้กันพบมีดปลายแหลม ตกอยู่ในห้องนอน ใกล้กับมือซ้ายของผู้ตาย และพบกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า นางชัญญาพรรณ ผู้ก่อเหตุ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ เป็นคนรู้จักกันกับ ทนายป๋อง ผู้เสียชีวิต

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่ สภ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อทีมข่าวไปถึงตำรวจได้นำตัวนางชัญญาพรรณ ผู้ก่อเหตุไปเข้าห้องขังแล้ว โดยตามข้อมูลจริงๆแล้วทางนางชัญญาพรรณ ผู้ก่อเหตุ มีความประสงค์ให้ตำรวจนำตัวไปฝากขังทันทีหลังเข้ามอบตัว เนื่องจากเจ้าตัวยืนยันจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่ปรากฏว่า ในขณะที่ตำรวจนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ทางศาลได้หมดเวลาฝากขัง ตำรวจจึงต้องนำตัวนางชัญญาพรรณ ผู้ก่อเหตุกลับมาเข้าห้องขังที่ สภ.กันทรารมย์ และจะมีการดำเนินคดีไปตามกระบวนการ โดยจะนัดให้ทนายความเข้ามาร่วมรับฟังการสอบปากคำ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ในวันพรุ่งนี้

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ไปเจอกับนางหฤทัย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของคนก่อเหตุ บอกว่า หลังจากมีคนโทรศัพท์มาบอกว่านางชัญญาพรรณ ไปก่อเหตุและมามอบตัวที่โรงพัก ตนเองในฐานะเพื่อน จึงเดินทางมาเยี่ยมและมายื่นเอกสารเพื่อประกันตัว

 

ส่วนปมการก่อเหตุ ยืนยันว่าที่ผ่านมานางชัญญาพรรณ ไม่เคยมาระบายอะไรให้เพื่อนๆฟังว่ามีปัญหาอะไรกับผู้ตาย ซึ่งถ้าเขาพูดให้ฟังจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ยอมรับส่วนตัวก็รู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากทำงานอยู่ที่ศาล ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนางชัญญาพรรณ กับผู้ตาย ตนเองยืนยันว่าไม่รู้ และทุกคนก็รู้แค่ว่าเขาสนิทกันเนื่องจากเจอกันที่ทำงานบ่อย ซึ่งวันนี้เท่าที่พยายามเข้าไปคุย นางชัญญาพรรณ ถามอะไรเขาก็ไม่ตอบเอาแต่นั่งร้องไห้เนื่องจากยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวพยายามเข้าไปคุยกับภรรยาของผู้ตายในขณะที่เดินทางกลับมาที่บ้าน แต่ภรรยาผู้ตาย ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลอะไรกับทีมข่าว

 

ด้าน นางอรทัย อายุ 67 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังทราบข่าว ตนรู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะ ทนายป๋อง น้องชายตน เป็นทนายที่ดี เป็นคนตรงฉิน มีคนรักใคร่ให้ความเคารพมากมาย และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องชายตนเอง อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด

 

ทีมข่าวได้เจอกับนายพร้าว (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นคนงานของผู้ตาย บอกว่า ตัวผู้ตายถ้าภรรยาไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล ผู้ตายก็จะอยู่บ้านคนเดียว ส่วนผู้ก่อเหตุ เท่าที่รู้ เขารู้จักกับผู้ตายมาประมาณ 10 กว่าปี และเท่าที่รู้ผู้ก่อเหตุเป็นสาวคนสนิทของผู้ตาย ซึ่งเวลาภรรยาหลวงของผู้ตายไม่อยู่บ้าน ก็จะเห็นคนก่อเหตุเข้ามาหาทนายที่บ้าน แต่ไม่เคยทะเลาะกันให้เห็น และที่ผ่านมา ตนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนก่อเหตุมีปืน

 

ซึ่งวันนี้ตนเองไม่ได้เข้ามาทำงาน ก็เลยไม่รู้ว่าทนายถูกยิงตายตอนไหน และหลังจากที่มีคนมาบอก ก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ ที่เจ้านายถูกยิงตายในบ้าน

จนท.ศาล บุกยิง "ทนายป่อง" ดับสยอง เลือดเย็น ฆ่าเสร็จเดินเท้าไปมอบตัว