กรณีเมื่อเวลา 07.00น. ของวันที่ 18 มี.ค. ตำรวจ สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุ มีหญิงนอนเสียชีวิตอยู่หลังระเบียงห้องชั้น 4 ของตึก สภาพนอนหงาย นอนพับเข่า ใกล้กันพบจดหมายลักษณะลาตาย เขียนด้วยข้อความสีดำบนสมุดโน๊ต ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ มีผ้าขนหนูผูกเอาไว้ และมีเก้าอี้สีเขียววางอยู่นอกระเบียง
ทราบชื่อ คนตาย คือ นางสาวฝน และจากการตรวจสอบพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าตัวของฝ่ายชายซึ่งเป็นแฟนของคนตาย คือ นายแบงค์ ได้มีการเดินลงตำหนิ รปภ. มองว่าทำไมแมนชั่นปล่อยคนผูกคอตาย ก่อนที่เจ้าตัวจะหนีหายไปจากตึก โดยญาติตั้งข้อสังเกตในประเด็นการตายในหลายเรื่อง ทั้งแรงจูงใจที่ไม่มีสาเหตุ จดหมายลาตายที่ไม่ใช่ข้อความลายมือของฝ่ายหญิง ตามตัวของคนตายมีรอยฟกช้ำ ที่คาดว่าเกิดจากการทำร้ายร่างกาย และที่สำคัญร่างของคนตายนอนอยู่บนพื้น ไม่ได้ผูกอยู่บนผ้าขนหนู จึงเชื่อว่าไม่ใช่การผูกคอตาย
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่องแปดตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าแมนชั่น ซึ่งจะจับภาพและความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะวันเกิดเหตุ 18 มี.ค.
โดยช่วงเวลาประมาณ 04.08 น. คนตายคือนางสาวฝน จะเดินมาพร้อมกับเพื่อนเพื่อมาส่งที่แมนชั่น ก่อนที่จะขึ้นไป และคาดว่าไปเจอกับนายแบงค์ที่ดักรออยู่
และกล้องวงจรปิดจับภาพต่อ 06.45 น. ของวันเดียวกัน กล้องวงจรปิดจับภาพชายใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีน ซึ่งทราบในเวลาต่อมาคือนายแบงค์ แฟนของคนตาย เดินออกมาจากแมนชั่นเพื่อที่จะไปโบกรถแท็กซี่หนี
กล้องวงจรปิดจับภาพถัดมา 07.47 น. หลังได้รับแจ้งเหตุจากนิติของแมนชั่นและรวมถึงญาติของนางสาวฝนคนตาย ตำรวจสน. โชคชัย ได้ขับเข้ามาที่เกิดเหตุ
วันนี้ (19 มี.ค.67) ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่สน. โชคชัย ซึ่งทราบว่ามีการคุมตัวนายแบงค์ แฟนของคนตาย ในฐานะผู้ต้องสงสัย มาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ จนกระทั่งวันนี้ก็ยังมีการทรงตัวเอาไว้เพื่อสอบปากคำ เนื่องจากพบพิรุธและข้อสงสัย ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางสาวฝน หรือเจ้าตัวยังคงถูกอยู่ในการคุมตัวของฝ่ายสืบสวนสน. โชคชัย เพราะเนื่องจากเจ้าตัวมีการรับสารภาพว่ามีการ “ทำร้ายร่างกายคนตายจริง แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดอื่นว่าทำร้ายอย่างไร” แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลแพทย์เกี่ยวกับการชันสูตรศพคนตายเพื่อมาประกอบกับคำให้การให้ หรือคำรับสารภาพ ซึ่งหากเชื่อได้ว่ามีการทำร้ายจนกระทั่งถึงแก่ความตาย ก็จะแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ทันที ระหว่างที่เจ้าตัวถูกคุมตัวอยู่ภายในห้องสืบสวน ยังคงมีท่าทีเรียบเฉย ซึ่งก็นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ที่ห้องสืบสวน
จนกระทั่งเมื่อเวลา 15:00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจได้มีการคุมตัวจากห้องสืบสวนมาที่ห้องสอบสวน เพื่อเปลี่ยนห้องในการสอบปากคำ โดยตัวนายแบงค์ได้มีการสวมหมวกกันน็อกเพื่อปิดบังใบหน้า เพื่อไปสอบปากคำต่อที่ห้องสอบสวน โดยระหว่างนั้นผู้จะขับพยามถาม เจ้าตัวไม่ได้มีการตอบคำถามใดกับผู้สื่อข่าวได้แต่เดินเงียบ มีแต่เสียงผู้สื่อข่าวที่ตะโกนถาม เท่านั้น
เมื่อเวลา 15.24 น. ตำรวจคุมตัวนายแบงค์ แฟนของฝ่ายหญิง ออกจากห้องสอบสวน ลงมาพิมพ์ลายนิ้วมือในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น”
ระหว่างคุมตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ นายแบงค์ ปฏิเสธที่จะตอบเหมือนเดิม แม้ผู้สื่อข่าวพยายามถามในหลายประเด็นก็ตาม เจ้าตัวเอาผ้าขาวม้าคลุมหัว เดินนิ่งเงียบ มีเพียงผู้สื่อข่าวตะโกนถามเท่านั้น
จากนั้นทีมข่าวยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนกลับไปวันที่ 17 มี.ค. ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 21.58 น. ซึ่งเป็นกล้องต่อจากตัวที่ร้านสะดวกซื้อใต้แมนชั่นจะภาพเอาไว้ได้ จะเห็นว่านางสาวฝนคนตาย มีการเดินไปซื้อเหล้าและขนมเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ มาเจอกับเพื่อนที่หน้าแมนชั่น ก่อนที่จะยืนทักทายกัน แล้วเจ้าตัวก็เดินไปกินเหล้ากับเพื่อนต่อ
ด้าน นางสาวดาว อายุ 55 ปี แม่ของคนตาย เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่คิดว่านายแบงค์จะทำกับลูกของตนเองแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาลูกสาวของตนเองก็รักและเป็นห่วงนายแบงค์เสมอ แม้ว่านายแบงค์จะทำร้ายลูกสาวเจ็บหนักปางตาย กระทืบหลายหน จนเคยไปแจ้งความที่โรงพักสน. โชคชัยมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ลูกสาวก็ยังให้โอกาสแล้วกลับไปอยู่กับนายแบงค์ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองมองว่ามันรุนแรงเกินไปที่ทำกับลูกสาวตนเองถึงขั้นตาย แล้วที่สำคัญยังมีการจัดอำพราง จัดฉาก โดยอ้างว่าลูกสาวตนเองผูกคอตาย ทั้งที่ศพนอนอยู่บนพื้น และจดจดหมายก็ไปเอากระดาษหน้าเดียวกันกับที่ลูกสาวเคยเขียนรักแม่เอาไว้ มาเขียนข้อความเดิมอื่นเข้าไป จนเข้าใจว่าลูกสาวตนเองฆ่าตัวตาย แต่ส่วนตัวเชื่อว่า วันนี้กรรมต้องตามสนอง ก็ต้องรับตามเวรกรรมที่ทำเอาไว้กับลูกสาวของตนเอง และขอให้ได้ชดใช้เวรกรรมกับที่ทำเอาไว้
และหากย้อนกลับไปในช่วง 1-2 เดือน ก่อนที่จะเกิดเหตุ ตัวเองเคยไปกินนอนอยู่ที่ห้องที่เกิด แล้วตอนนั้นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 3 คน โดยลูกสาวพาตัวเองไปอยู่ด้วย ซึ่งตัวเองก็เห็นว่านายแบงค์ก็มีการทำร้ายร่างกายลูกสาวไม่เว้นแต่ละวันเว้นแต่ แต่ลูกสาวก็ยังทนที่จะอยู่กับมัน แล้วตนเองเห็นลูกสาวเจ็บไม่ได้ เพราะเลี้ยงลูกมาคนเดียวโดยที่ไม่มีสามี เลี้ยงตั้งแต่เด็กจนโตจึงไม่อยากให้ลูกต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น ถึงขั้นก้มกราบเท้าไอ้แบงค์ เพื่อที่จะขอเลิกกับลูกสาวโดยดีแล้วให้ลูกสาวตนเองไปมีอนาคตใหม่ แต่ไอ้แบงค์ก็ยังอ้างว่าจะดูแลลูกสาวต่อแล้วไม่ยอมเลิกรา แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายลูกสาวต้องมาลงเอยแบบนี้
สำหรับข้อความในจดหมายลาตาย ตนเองยืนยันว่าลูกสาวเป็นคนที่ไม่มีพฤติกรรมคิดสั้นและไม่คิดจะจบชีวิตแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะชีวิตผ่านอะไรมาเยอะและเจ็บอะไรมามากกว่านี้ แต่ไม่เคยมีแนวคิดผ่านหัวว่าจะฆ่าตัวเองตาย ดังนั้นจดหมายดังกล่าวจึงเชื่อว่าเป็นการทำขึ้นโดยไอ้แบงค์ แล้วมีการเขียนแทนตัวเองว่าน้ำฝน แต่ในข้อความดังกล่าวจะมีประโยคส่วนท้ายที่ตนเองยืนยันว่าเป็นลายมือของลูกสาว แต่ส่วนอื่นไม่ใช่อย่างแน่นอน