กรณีเมื่อเวลา 07.00น. ของวันที่ 18 มี.ค. ตำรวจ สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุ มีหญิงนอนเสียชีวิตอยู่หลังระเบียงห้องชั้น 4 ของตึก สภาพนอนหงาย นอนพับเข่า ใกล้กันพบจดหมายลักษณะลาตาย เขียนด้วยข้อความสีดำบนสมุดโน๊ต ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ มีผ้าขนหนูผูกเอาไว้ และมีเก้าอี้สีเขียววางอยู่นอกระเบียง

ทีมข่าวได้แชตการสนทนา หลังจากเกิดเหตุ นายแบงค์ได้แชตไปคุยกับเพื่อนของน้ำฝน โดยบทสนทนานายแบงค์บอกเพื่อนของน้ำฝนว่า น้ำฝนคิดสั้นจบชีวิตตัวเอง

ด้าน นางสาวกัลย์สุดา หรือหนูแดง เพื่อนสนิทคนตาย ในฐานะเพื่อนร่วมงานคนตาย เผยว่า ตัวของคนตายเป็นคนร่าเริงและไม่มีความเครียด และไม่มีความคิดแน่นอนที่จะฆ่าตัวเองตาย เพราะที่ผ่านมามีอะไรก็เป็นคนชอบพูดชอบเล่าให้คนอื่นฟัง โดยเฉพาะเรื่องราวของชีวิตจะเล่าและระบายออกมาหมด จึงไม่มีเหตุปัจจัยอะไรที่จะทำให้เจ้าตัวฆ่าตัวเองตายได้

และในก่อนที่จะตายก็ยังมานั่งกินเหล้าอยู่กับกลุ่มของตนเอง เจ้าตัวก็มีการเต้นประกอบเพลงสนุกสนาน แล้วยังมีการโพสต์ลงในสตอรี่ ส่วนตัว ซึ่งทุกอย่างก็ดูร่าเริงตามบุคลิกของเจ้าตัวอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ไปคิดแบบนั้นได้

สำหรับเรื่องของการบอกเลิกนายแบงค์เพื่อที่จะกลับไปคบหากับนายมาร์คหรือมิกซ์แฟนเก่า ยืนยันว่าก็เป็นเรื่องจริงเพราะเจ้าตัวก็เอามาเล่าให้ฟังทั้งหมด แต่การบอกเลิกกับนายแบงค์เป็นเพราะเคยถูกทำร้ายร่างกาย เคยบุกมาตบตีถึงที่ทำงาน หรือมีการเตะและซ้อมจนกระทั่งเนื้อตัวช้ำเขียว ซึ่งเพื่อนทุกคนก็ห้ามไม่ให้คบหา แต่เข้าใจว่าทั้งคู่ด้วยความเป็นแฟนกัน ก็มีการง้อขอคืนดีกันจนกระทั่ง รักๆเลิกๆ แต่ก็ไม่เลิกกันสนิท แต่ก็ล่าสุดเจ้าตัวตัดสินใจแล้วว่าจะเลิก จึงทำให้ในแบงค์อาจจะไม่พอใจและย้อนกลับมาก่อเหตุก็ได้

ส่วนเรื่องของจดหมายลาตาย ยืนยันว่าในเอกสารข้อความดังกล่าว เมื่อเทียบกับลายมือที่กลุ่มของตนเองทำงานมาด้วยกันมานานและคุ้นชิน เนื่องจากตัวของคนตายเป็นคนเขียนบิลและอยู่แคชเชียร์ จึงทำให้เห็นตัวอักษรในหลายรูปแบบทั้งแบบเร่งรีบและ แบบเขียนทั่วไป แต่ยืนยันว่าการเขียนในจดหมายลาตายไม่ใช่ ข้อความหรือลายมือของนางสาวฝน จะมีเพียงข้อความประโยคล่างที่เขียน “น้ำฝนรักแม่” ซึ่งอาจจะเป็นข้อความเดียวที่เจ้าตัวเขียนเอาไว้ก่อนหน้าในกระดาษดังกล่าว แล้วตัวของนายแบงค์อาจจะมีการใช้กระดาษหน้าดังกล่าวเป็นการเขียนข้อความทับเพื่อให้ตีเนียนหรือไม่

ภายหลังการให้สัมภาษณ์ เพื่อนสนิท ได้มีการส่งตัวอย่างบิล ที่คนตายเคยเขียนในที่ทำงาน เพื่อให้เทียบเคียงกับจดหมายลาตายที่พบในที่เกิดเหตุ โดยยืนยันว่าไม่มีข้อความหรือลายมือที่มันตรง จะมีเพียงคำว่าน้ำฝนที่คล้าย เพราะเนื่องจากเชื่อว่าคนตายอาจจะเขียนประโยคดังกล่าวเอาไว้ในกระดาษหน้าดังกล่าวจริง แต่ในแบงค์เอาไปเติมข้อความด้านบนเพื่อที่จะให้สมจริงหรือไม่

ด้าน นายมาร์ค หรือมิกช์ แฟนเก่าคนตาย เผยว่า ตัวเองยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยคบหากับนางสาวฝนแล้วมีการเลิกรากันไป ก่อนที่จะทราบว่าตัวของนางนางสาวฝนไปคบหากับนายแบงค์ แต่ในระหว่างที่คบหากันมีช่วงหลังที่นางสาวฝนได้มีการส่งข้อความและภาพถ่าย ซึ่งยืนยันว่าตัวของนายแบงค์มีการทำร้ายร่างกาย ตบตี และใช้ความรุนแรง แต่ข้อความดังกล่าวหลังจากที่มีการส่งมาได้มีการยกเลิกข้อความไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถเซฟภาพเก็บเอาไว้ได้ แต่ยืนยันว่าตัวของนายแบงค์มีการทำร้ายร่างกายนางสาวฝนมาโดยตลอด ก่อนที่นางสาวฝนตัดสินใจขอบอกเลิก

และเหตุผลอื่นที่นางสาวฝนตัดสินใจเลิกกับนายแบงค์เป็นเพราะ นายแบงค์ไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วต้องเดินเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น แล้วที่สำคัญไม่ทำมาหากิน ใช้ชีวิตร่องรอย จึงทำให้นางสาวฝนจึงตัดสินใจที่จะขอเลิกแล้วออกมาใช้ชีวิตใหม่ แล้วช่วงรอยต่อยอมรับว่านางสาวฝนได้ติดต่อมาหาตนเอง เพื่อที่จะพูดคุย และขอให้ตนเองกลับไปคบหากันอีกครั้ง แต่ตนเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจพึ่งอยู่ในระหว่างช่วงของการพูดคุยกันในช่วงแรก และก่อนให้สถานการณ์ แต่ดันเกิดขึ้นก่อน

สำหรับในวันเกิดเหตุ ตนเองไปที่ตึกแมนชั่นแต่ไม่สามารถขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งมาทราบภายหลังว่ามีการเขียนจดหมายลาตายเอาไว้ ตนเองในฐานะแฟนเก่า ที่รู้จักกันและเคยเห็นลายมือของนางสาวฝน จึงยืนยันว่ามีข้อความบางส่วนที่เขียนว่าน้ำฝนรักแม่ ที่เป็นประโยคด้านล่างสุดท้าย เป็นประโยคที่นางสาวฝนเขียนเอาไว้จริง แต่อาจด้วยความบังเอิญมีการจดเอาไว้ในสมุดบันทึกเดียวกันหรือไม่ แต่ส่วนตัวหนังสือด้านบน ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ตัวหนังสือของนางสาวฝน และนางสาวฝนก็ไม่มีพฤติกรรมที่จะฆ่าตัวเองตาย

ทั้งนี้ ตนเองทราบว่าตำรวจมีการคุมตัวนายแบงค์พร้อมกับมีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น ส่วนตัวอยากให้มีการเพิ่มข้อหาในเรื่องของการอำพรางศพหรือไตร่ตรอง หรือเจตนา เพื่อมีการเพิ่มโทษให้หนักกว่านี้ ไม่เช่นนั้นการติดคุกก็อาจจะไม่นานแล้วกลับออกมาใช้ชีวิตข้างนอกแล้วก่อเหตุอีกก็ได้ , แล้วที่ จากหลักฐานที่ตนเองได้เห็นพร้อมกับญาติของนางสาวฝนคนตาย แต่ทางแมนชั่นไม่ให้มีการบันทึกภาพออกมา คือภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องที่ชัดเจน เห็นว่านายแบงค์มีการเข้าออกที่ห้องคนตายเพียงคนเดียว ไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเชื่อว่านายแบงค์คือคนคนเดียวที่ก่อเหตุและทำร้ายก่อนอำพรางศพ

อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค บอกอีกว่า ความจริงแล้วตนเองตั้งใจที่จะพานางสาวฝนออกมาอยู่ที่ใหม่ ซึ่งกำลังไปดูที่พักแห่งใหม่เป็นคอนโดมิเนียม โดยตั้งใจว่าเดือนหน้าจะพาเจ้าตัวไปอยู่ที่ใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนายแบงค์ และตนเองก็ตกลงว่าจะให้โอกาสแล้วกลับไปคบหากับนางสาวฝนอีกครั้ง แม้ว่าอดีตเคยคบหากันก็ตาม แต่สุดท้ายวันนี้ความฝันทุกอย่างก็จบลง เพราะเนื้อมือของนายแบงค์ที่ทำลายทุกอย่าง พรากว่าที่แฟน และอนาคตของนางสาวฝนไป ตนเองยังช็อกและทำใจไม่ได้