เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ บก.สอท.1 น.พ.สมศักดิ์ อายุ 70 ปี นายแพทย์ศัลยกรรมความงาม เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 หลังถูกแก๊ง Hybrid scam หลอกให้ลงทุน สูญเงินไปกว่า 12 ล้านบาท
โดยหมอสมศักดิ์ระบุว่า ตนมีประสบการณ์การลงทุนหุ้นต่าง ๆ มากกว่า 20 ปี แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าหุ้นในประเทศไทยย่ำแย่และราคาตกอย่างหนัก ตนจึงตัดสินใจที่จะลงทุนหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศ เลยค้นหาใน Facebook จนเจอกลุ่มชักชวนลงทุนหุ้นต่างประเทศ ตนจึงสมัครเข้าไปแล้วปรากฏว่า มี Facebook แพทย์คนหนึ่งทักมาเพื่อพูดคุยกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดยตนเห็นว่า มีอาชีพเดียวกัน จึงตัดสินใจพูดคุย ก่อนที่แพทย์คนดังกล่าว จะส่งข้อมูลของตนให้หญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะทัก LINE มาโดยใช้ชื่อว่า "จิน" ซึ่งหญิงสาวคนนี้นั้นอ้างว่า เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับระบบการลงทุนใน Application
ตอนแรกตนยังไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะยังไม่เชื่อมั่น จนกระทั่งหญิงสาวคนนี้พยายามพูดคุยเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและถามเรื่องศัลยกรรมหน้า ประกอบกับตนเห็นว่าโปรไฟล์หญิงคนนี้นั้นสวยและน่ารัก จึงตัดสินใจที่จะพูดคุยซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้มีการคุยในเชิงชู้สาว ซึ่งเห็นว่ามีความรู้เรื่องของการลงทุนเป็นอย่างดี ก่อนที่หญิงคนนี้จะดึงตนเข้ากลุ่มไลน์ร่วมลงทุน ในกลุ่มดังกล่าวโดยมีคนอยู่ในนั้นประมาณ 200 กว่าคน
ตนจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นต่างประเทศแห่งหนึ่ง โดยลงทุนครั้งแรกไปจำนวน 200,000 บาท ปรากฏว่า ตนได้กำไรกลับคืนมาถึงแสนกว่าบาท ซึ่งเห็นว่ามีเงินเข้าในระบบจริง กราฟในหุ้นก็มีความเคลื่อนไหวจริง จึงมองว่าเชื่อถือได้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากจะต้องมีการเพิ่มค่าดำเนินการเข้าไป แต่ตนก็ดำเนินการลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ จนถึง 12 ครั้ง ในช่วงระหว่างตั้งแต่ช่วง 16 มกราคม - 29 กุมภาพันธ์ เป็นเวลาเดือนครึ่ง รวมมูลค่าเงินลงทุน 12 ล้านบาทซึ่งในระบบได้กำไรกว่า 44 ล้านบาท ผ่านการโอนเข้าบัญชีบุคคลส่วนตัว 4-5 บัญชี โดยคุณหมอยอมรับว่า ตนก็เอะใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล แต่ด้วยความที่น้องจินพูดคุยอธิบายอ้างว่า เป็นการโอนเพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ตนเลยเชื่อสนิทใจ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตนได้ไปตรวจสอบกราฟหุ้นต่างประเทศตัวจริง ซึ่งเห็นว่า กราฟตัวจริงกับกราฟในแอปพลิเคชันมีตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน จึงทำให้ตนเริ่มเอะใจ ประกอบกับตนได้เสียค่าภาษี 4.8 ล้านบาท และค่าบริการ 3.6 ล้านบาท เพื่อดำเนินการถอนเงิน แต่ก็ไม่สามารถถอนได้ เพราะน้องจินบอกว่า ต้องเสียค่าค้ำประกันอีก 4.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ตนได้ไปสอบถามกับเพื่อนที่เป็นโบรกเกอร์ ซึ่งบอกว่าการถอนเงินไม่จำเป็นต้องมีค่าค้ำประกัน เพียงแค่ยืนยันตัวตนกับโบรกเกอร์เท่านั้น จึงทำให้ตนไม่โอนเงินค่าค้ำประกันและเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอก อีกทั้งตนได้หาข้อมูลจนพบว่า คุณหมอที่ปรากฏใน Facebook ที่ทักมาหาตนนั้น เป็นเฟซปลอมและหมอตัวจริงไม่รู้เรื่องกรณีนี้มาก่อน อีกทั้งหมอตัวจริงได้มีการไปแจ้งความแล้วที่ จ.ระยอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าถูกปลอมเฟซบุ๊ก จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตนตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตนถูกหลอกร่วมลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ ผ่านการชักชวนพูดคุยให้หลงเชื่อสนิทใจ อยากเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อ อย่าคิดว่าตนเองแน่ ขนาดตนมีประสบการณ์ลงทุนกว่า 20 ปี ก็ไม่พ้นตกเป็นเหยื่อหลอกลงทุน
ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่าเคสนี้นั้นจะให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการประสานงานกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เพื่อนำสำนวนคดีมาตรวจสอบทางเทคโนโลยีให้ได้ตัวคนร้ายต่อไป และเตือนว่า การลงทุนกับหุ้นต่างประเทศขอให้ระมัดระวังให้ดี ควรจะต้องลงทุนกับหุ้นที่ได้รับการรับรองโดย กลต. โดยเฉพาะหุ้นในประเทศเท่านั้น อีกทั้งฝากเตือนถึงประชาชนว่า ให้ระมัดระวังการลงทุนทางออนไลน์หรือการถูกชักชวนให้ลงทุน การทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางออนไลน์ไม่แนะนำให้รีบโอน ควรตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะการลงทุนแบบกลุ่ม ควรระมัดระวังบัญชีให้ดี ถ้าเห็นบัญชีเป็นชื่อบุคคลทั่วไป ให้มองข้ามไปได้เลย