จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.ธนวัฒน์ คำผา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งความจาก น.ส.หวาน (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่พร้อมกับ น้องเจี๊ยบ ลูกสาว อายุ 14 ปี แจ้งความ ให้ดำเนินคดีกับพระต๋อง พระลูกวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. พระต๋อง ที่พักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ใช้ให้ น้องเจี๊ยบ อายุ 14 ปี เอาของไปเก็บในห้องดนตรี ภายในวัด จากนั้นได้ปิดล็อกประตูไว้ และได้ใช้กำลังประทุษร้ายโดยต่อยท้อง 2 ครั้ง จากนั้น ได้จับน้อง วัย 14 ปี มัดมือ มัดเท้าไว้ และลงมือข่มขืน กระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่และหลบหนีไป
ต่อมาทีมข่าวช่องแปดได้พูดคุยกับ นางหวาน (นามสมมติ) แม่ผู้เสียหาย ได้บอกกับข่าวว่า ลูกสาวตนเรียนอยู่โรงเรียนประจำแถวบริเวณวัดซึ่งมีการให้เด็กช่วยงานวัด โดยโรงเรียนห่างจากวัดประมาณ 5 กิโล โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกตนได้โทรมาหาตนในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 18/3/67 ตอนจึงรีบเดินทางมาจากจังหวัดเชียงรายเพื่อมาหาลูกในที่เกิดเหตุถึงเวลาตี 4 ของวันที่19/3/67 พอตอนมาถึงพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นหน้าลูกสาว ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน
จนถามลูกทั้งน้ำตาว่าเจ็บไหม เจ็บมากหรือเปล่า ลูกตนก็ร้องไห้ร้องไห้ออกมา หลังตนเจอลูกสาวตนได้เห็นพระคนก่อเหตุ โดยไม่ทราบว่าเค้ารับทราบเรื่องได้ยังไง โดยเข้ามาทางด้านหลังและมากราบขอโทษ ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จะขอรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับน้อง ตนไม่รับคำขอโทษ และบอกกับคนก่อเหตุว่าจะแต่งงานได้ยังไงน้องยังเด็กและไม่ได้เกิดจากความรัก โดยไม่ทราบว่าใครจับคนก่อเหตุสึกเพราะมาถึงเห็นคนก่อเหตุใส่ชุดเหมือนบุคคลธรรมดาแล้ว โดยคนก่อเหตุถูกจับกลุ่มแล้วที่สภ. ท่าเรือแต่ตนยังไม่ได้เห็นหน้าคนก่อเหตุที่สภ. แต่รู้สึกโล่งใจที่จับกุมคนก่อเหตุได้
โดยลูกสาวตนเล่าว่าพฤติการณ์ของคนก่อเหตุในการข่มขืนครั้งนี้ใช้ลูกตนไปหยิบของเพื่อ มาเก็บไว้ที่ห้องของคนก่อเหตุ จากนั้นคนก่อเหตุได้ทำการปิดประตูห้องและทำการข่มขืนผู้เสียหาย โดยมี ถอดเสื้อผ้า การมัดมือเเละเท้า ต่อยท้อง 2 ที พอเสร็จกิจคนก่อเหตุได้ปล่อย ผู้เสียหาย ออกมาจากห้อง จากนั้นผู้เสียหายได้วิ่งมาขอความช่วยเหลือรุ่นพี่ที่สนิทกัน โดนรุ่นพี่ถามเป็นอะไรถึงร้องไห้ ผู้เสียหายจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับรุ่นพี่คนนี้ฟัง ต่อมารุ่นพี่ได้ติดต่อตนเพื่อให้รับ ผู้เสียหาย กลับบ้าน
สภาพจิตใจของตนและลูกสาวย่ำแย่และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวตัวน้องสู้กับสังคมไม่ไหวเพราะอายุยังน้อยกลับมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ สุดท้ายนี้อยากจะฝาก ถึงคนก่อเหตุพูดอะไรไม่ออกถ้าเป็นไปได้อยากให้ผ่านชีวิต ไม่อยากให้ออกมา
ต่อมาในเวลา 17.40 น. ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังสภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พบอดีตพระต๋องผู้ก่อเหตุได้ขึ้นมาสอบสวนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีสีหน้านิ่งเฉย จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยามสอบถาม ต๋อง คนก่อเหตุ อยากจะขอโทษ กับผู้เสียหาย หรือไม่เจ้าตัวมีสีหน้านิ่งเฉยไม่ตอบคำถามใดใดกับผู้สื่อข่าวและ ทีมข่าวช่อง8 ได้พยายามสอบถามมีข้อมูลมาว่าอยากจะขอแต่งงานกับผู้เสียหายเพื่อรับผิดชอบคนก่อเหตุสีหน้านิ่งเฉยไม่ตอบคำถามใดใดกับสื่อมวลชนจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวคนก่อเหตุเข้าห้องขังโดย ฝากขังในวันพรุ่งนี้เช้า
ต่อมา ทีมข่าวช่อง8ได้พบเจอกับเจ้าหน้าที่วัดโดยบอกกับทีมข่าวว่า โดยพระคนก่อเหตุอยู่ที่วัดมาสักพักแล้วแต่เป็นเณรโดยปกติ ที่พระต๋องใช้เรียกงาน นิสัยเป็นคนอัธยาศัยดี ตนไม่ทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่เกิดขึ้นที่พาต๋องไปข่มขืนเด็กสาวตนมองว่าไม่รู้จะพูดยังไง ตอนนี้ไม่มีพระอยู่วัดเนื่องจากไปงานศพทั้งหมด
ต่อมาทีมข่าวและพูดคุยกับนางน้ำ (นามสมมติ ) ชาวบ้านบริเวณวัดได้บอกทีมข่าวว่า ตนเคยเห็นหน้าพระคนก่อเหตุ พระรูปนี้เรียนเก่ง อยู่เปรียญ 3 โดยปกติวินิจฉัยดีเงียบเงียบ ทำงาน ไม่ค่อยคุยกับใคร โดยส่วนมากไม่ค่อยเจอพระคนก่อเหตุดังกล่าวนานๆจะเจอที โดยไม่ตกใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดเกิดขึ้น ส่วนด้านของพระคนก่อเหตุเหมาะสมไหมที่จะอยู่ในวัดต่อต้นบอกกับทีมเขาว่าขอไม่ออกความเห็น โดยพระในวัดไม่มีใครอยู่ตอนนี้ติดไปงานศพ ส่วนเด็กหญิงสาวเท่าที่ตนเห็น ส่วนมากมาทำงานภายในวัด เป็นเรื่องปกติ