ความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กว่า 70 นาย บุกจับบ่อนพนันขนาดใหญ่ ในซอยหมู่บ้านพระปิ่น 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยสามารถจับกุมนักพนันได้ 328 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นพนันเป็น โต๊ะบาคาร่า โต๊ะเสือมังกร กำถั่ว และโต๊ะไฮโล อุปกรณ์การเล่นพนันอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งในการขนย้ายนักพนันหลายร้อยชีวิตต้องใช้รถเมล์ขนส่งร่วม 6 คันด้วยกัน

โดยการทลายบ่อนใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 สั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงได้สั่งการให้ 5 เสือ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประกอบด้วย ผกก.สภ.บางใหญ่ รอง ผกก.สส. รอง ผกก.ป. สว.สส. และ สวป. ที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จว.นนทบุรี แล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (20 มี.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ่อนดังกล่าวอีกครั้ง โดยพบว่าหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีการบุกทลายบ่อนดังกล่าว วันนี้ตลอดทั้งวันยังคงมีชายฉกรรจ์จำนวน 3-4 คน สับเปลี่ยนผลัดเวรกันเฝ้าบริเวณประตูทางเข้าหน้าบ่อนอยู่ตลอด

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้บินโดรนเพื่อดูภาพจากมุมสูงของบ่อน พบว่า บ่อนดังกล่าวกินพื้นที่ขนาด 2-3 ไร่ ติดถนนทางหลวงชนบท กลางชุมชน แบ่งเป็นพื้นที่อาคารของบ่อน 1 อาคาร ลานจอดรถของนักพนัน 2 ลานจอด ทั้งด้านในและนอก มีรถของนักพนันที่จอดค้างอยู่กว่า 30 คัน ส่วนประตูทางเข้าออกบ่อน มีทั้งหมด 2 ทาง คือ ด้านหน้าบ่อน และด้านหลังของบ่อน โดยประตูด้านหน้าบ่อนเป็นประตูเหล็กสังกะสีทึบ สูง 6 เมตร คนนอกมองเข้าไปไม่ได้ ส่วนด้านข้างบ่อนเป็นกำแพงอิฐเสริมด้วยผ้าแสลนสูงประมาณ 5 เมตร อยู่ติดหมู่บ้านของชาวบ้าน โดยรอบมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ทุกมุมของบ่อน

ทีมข่าวของเราได้เดินสำรวจบริเวณประตูด้านหลังของบ่อนพบว่า ประตูด้านด้านหลังของบ่อนเป็นประตูเสริมเหล็กหนา คล้ายกับเป็นประตูลับที่ทำไว้เพื่อให้นักพนันหลบหนีเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ ประตูลับดังกล่าวต้องเปิดออกจากด้านในบ่อนเท่านั้น

นอกจากนี้ประตูหลังของบ่อน ยังมีเส้นทางที่บ่อนได้ทุบกำแพงปูนออก 1 ช่อง ทำให้นักพนันสามารถหนีออกด้านหลังไปทะลุเชื่อมกับหน้าบ้านของชาวบ้านได้ด้วย หรือ จะหนีข้ามกำแพงของที่ดินหมู่บ้านจัดสรร ออกทะลุไปยังชุมชนแอดอัดของชาวบ้านได้อีก


ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางสำรวจบริเวณโดยรอบของบ่อนพบว่า มีชายฉกรรจ์ 3-4 คน ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่หน้าบ่อน ได้บอกให้ทีมข่าวขยับรถออกจากพื้นที่ฝั่งตรงข้ามบ่อน โดยอ้างว่าเป็นที่จอดรถส่วนบุคคล จากนั้นทีมข่าวพยายามสอบถามกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เฝ้าอยู่หน้าบ่อนว่า ทำไมถึงจอดรถฝั่งตรงข้ามบ่อนไม่ได้ มีชายฉกรรจ์หนึ่งคน ได้บอกกับทีมข่าวว่า “พวกพี่จอดรถตรงนั้นไม่ได้ เจ้าของที่ไม่ให้จอด” ทีมข่าวจึงถามต่อชายฉกรรจ์ว่าใครเป็นเจ้าของพื้นที่ เป็นเจ้าของเดียวกับเจ้าของบ่อนใช่หรือไม่ ชายฉกรรจ์เสื้อดำมีท่าทีอ้ำอึ้ง และอ้างว่า “ผมไม่รู้ว่าใครเจ้าของที่ แต่เขาจ้างผมมาให้ดูแลวันละ 300 บาท ผมเป็นแค่เด็กวัด เลยไม่รู้” ทีมข่าวจึงถามต่ออีกว่า “แล้วใครเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้” เจ้าตัวกลับตอบ “ผมก็ไม่รู้”

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังถามชายฉกรรจ์อีกว่า รู้หรือไม่ว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นบ่อน เพราะเห็นชาวบ้านบอกว่า เป็นค่ายมวย โดยชายเสื้อดำบอกว่า “ก็เป็นบ่อนจริง ๆ” แต่อ้างว่า “ตนเองไม่เคยเข้าไปในบ่อน เป็นแค่คนเฝ้าพื้นที่จอดรถเท่านั้น” ทีมข่าวถามต่อ ที่ผ่านมา ตำรวจไม่เคยแวะมาตรวจเลยหรอว่าคือบ่อน เพราะอยู่ห่าง สภ.บางใหญ่ เพียง 5.8 กิโลเมตร เจ้าตัวตอบ “ผมเป็นแค่เด็กวัด มาเฝ้าที่จอดรถให้เจ้าของ ผมไม่รู้”

เช่นเดียวกับชายฉกรรจ์อีก 1 คน ที่บอกกับข่าวว่า ตนเองเป็นเพียงพ่อค้าขายอาหารตามสั่งด้านหน้าบ่อนเท่านั้น ไม่ใช่ชายฉกรรจ์ที่เป็นข่าวว่ามานั่งเฝ้าบ่อนแต่อย่างใด ทีมข่าวจึงได้สอบถามว่า ด้านในเป็นบ่อนมานานหรือยัง แล้วรู้หรือไม่ว่า ข้างในเป็นบ่อนขนาดใหญ่ ชายเสื้อแดง อ้างว่า ตนเองก็เพิ่งมาอยู่ รู้ว่า มีการสร้างบ่อนมาได้ประมาณ 4 เดือนกว่าแล้ว แต่ตนเองไม่เคยเข้าไปด้านใน

ยอมรับว่าที่ผ่านมามีนักพนันจำนวนมาก เข้าออกบ่อนจำนวนหลายร้อยคน และส่วนใหญ่จะขับรถไปจอดด้านใน โดยจะมีแต่รถหรู ๆ คนรวย ๆ ไฮโซแต่งตัวดี ๆ ส่วนตนเองไม่มีสิทธิจะได้เข้าไปอยู่แล้ว ยกเว้นเข้าไปแค่ด้านหน้าบ่อน เพื่อเข้าไปส่งข้าวให้นักพนันเท่านั้น

ชายเสื้อแดงยังบอกอีกว่า ข้างในบ่อนมีของกินของใช้บริการครบทุกอย่าง ไม่จำเป็นจะต้องออกมาซื้อข้าวด้านนอกก็ได้ แต่ข้าวด้านในบ่อนจะราคาคูณ 2 เท่า เช่น ข้าวร้านตนเองขายจานละ 50 บาท ข้างในจะขายจานละ 100 กว่าบาท

ส่วนเจ้าของพื้นที่ที่บ่อนมาเช่าเปิดนั้น ตนเองไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ และตนเองก็ไม่ใช่ลูกจ้างบ่อนที่มาเฝ้าบ่อนด้วย แค่มาขายข้าวเฉยๆ จากนั้นทีมข่าวได้ขอสั่งข้าวกินแก้หิว แต่ชายเสื้อแดง อ้างว่า “ตอนนี้ร้านปิดแล้ว” แต่ที่ยังนั่งอยู่แค่มานั่งเล่นเฉย ๆ

ยังไม่จบเท่านี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้แกล้งรายงานสดสถานการณ์ด้านหน้าบ่อนที่มีชายฉกรรจ์เฝ้าหน้าบ่อนอยู่เพื่อดูปฎิกิริยาของชายกลุ่มนี้ ซึ่งแต่ละคนมีท่าทีเลิ่กลั่ก และอ้างว่า ตนเองแค่มาขายข้าว (แต่ร้านข้าวปิด) และมานั่งเล่นเท่านั้น ซึ่งชายฉกรรจ์บางคนจะเห็นว่า ได้ใส่หูฟังคล้ายกับกำลังฟังอะไรบางอย่างเพื่อสื่อสารตลอดเวลา

ซึ่งจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า ลักษณะกล้องวงจรปิดของบ้านของชาวบ้านบริเวณใกล้กับบ่อนดังกล่าว เป็นกล้องวงจรปิดยี่ห้อ และมีลักษณะเดียวกับกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบบ่อนอีกด้วย

รวมไปถึงเมื่อทีมข่าวเดินไปด้านหลังของบ่อนซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่กำลังสร้างแต่ยังไม่เสร็จ พบว่า บริเวณเสาไฟฟ้าใกล้บ้านในหมู่บ้านดังกล่าง ก็ใช้กล้องวงจรปิดรุ่นและยี่ห้อเดียวกับที่บ่อนใช้อีกเช่นกัน

นอกจากนี้ระหว่างที่ทีมข่าวเดินสำรวจบริเวณด้านหน้าบ่อน ระหว่างนั้นได้มีหญิงคนหนึ่งนั่งแท็กซี่มาลงด้านหน้าบ่อน พร้อมกับจะเดินเข้าไปภายในบ่อน อ้างว่ารถจอดอยู่ด้านใน ระหว่างนั้นชายฉกรรจ์ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าบ่อน ได้รีบเข้าไปสะกิดบอกนักพนันหญิง ว่า “รอก่อน ใจเย็น ๆ เดี๋ยวเคลียร์เรื่องเสร็จค่อยว่ากัน” ทีมข่าวพยายามเดินเข้าไปสอบถามนักพนันหญิงคนนี้ ว่า มาทำอะไร แต่เธอไม่ได้พูดอะไร และรีบขึ้นรถแท็กซี่บอกคนขับให้รีบออกรถไปทันที

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองนำกำลังบุกจับบ่อนใหญ่ ในหมู่บ้านพระปิ่น 3 ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรีว่า จากที่เราลงพื้นที่ได้ตรวจพบของกลางจำนวนมาก ซึ่งจะต้องดำเนินคดีไปตามขั้นตอน การจะไปจับสถานที่ที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะมีคิวต้องจับอยู่แล้ว ซึ่งเราจะต้องมั่นใจว่าเมื่อไปแล้วจะพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับเพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมถึงการปราบปรามสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งบ่อนการพนัน ยาเสพติด สถานบันเทิงที่ไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นหนึ่งในความผิด สร้างความเสียหายให้กับสังคม ซึ่งเราทำตามหน้าที่และคำสั่งของนายกฯ

เมื่อถามว่าการจับบ่อนในครั้งนี้ได้ส่งสัญญาณไปถึงบ่อนอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สัญญาณก็คือห้ามทำผิดกฎหมาย ถ้าทำผิดกฎหมายก็ไม่มีสัญญาณอะไรนอกจากถูกดำเนินคดี