จากกรณีเมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 20 มีนาคม 2567 นางจิตรดา อายุ 39 ปี ได้ขอความช่วยเหลือมากับทางช่อง 8 เนื่องจากมีหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านมักจะคลั่งอาละวาดชาวบ้าน ถ้าทำกับคนไม่ได้ก็จะใช้ปืนและมีดทำร้ายหมาของเพื่อนข้างบ้านแทน ซึ่งบางครั้งก็จะใช้ปืนยิงเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามกัน และก่อนหน้านี้ตำรวจก็ไม่เคยจับคนก่อเหตุได้ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ยอมเดินออกมาจากบ้าน และอ้างว่ายิงปืนในเขตบ้านของตัวเอง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านในพื้นที่ ต.โอโล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านได้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ภูเขียว แจ้งว่า วันที่ 20 มีนาคม เวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีนายมานพ อายุประมาณ 49 ปี คู่กรณีที่มีบ้านอยู่ติดกันกับผู้เสียหาย ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ไม่ทราบขนาดยิงสุนัขของผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณขาหน้า ผู้เสียหายจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบเหตุให้ถึงที่สุดต่อไป
จากนั้นเมื่อเวลา 20.30 น. ของวันเดียวกันตำรวจจึงไปดักซุ่มนายมานพ คนก่อเหตุที่ข้างทาง กระทั่งเมื่อนายมานพ ผู้ก่อเหตุ กำลังเดินเข้าบ้านจึงรวบตัวนายนานพ เอาไว้ได้
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุขณะที่นายมานพ ผู้ก่อเหตุ ยิงหมาบาดเจ็บ จะไม่มีภาพที่สามารถจับภาพได้ แต่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด ในเวลา 18.30 น. ซึ่งก่อนเสียงปืนจะดังขึ้น จะได้ยินเสียงหมาเห่านายมานพ จากนั้นเมื่อสิ้นเสียงปืนก็จะได้ยินเสียงหมาเห่าอีกรอบ
ส่วนวงจรปิดเหตุการณ์ต่อมา จะเป็นภาพที่นายมานพ คนก่อเหตุ พยายามเดินออกมาจากบ้านและตามหาเจ้าของหมา ที่ไปแจ้งความ ซึ่งจะเห็นนายมานพ พยายามเดินส่องไฟไปตามถนนแต่ยังไม่โวยวาย จนกระทั่งเวลา 19.49 น. เมื่อนายมานพรู้ว่าเจ้าของหมาไปแจ้งความนายมานพ ก็เลยมาตะโกนถามกับเจ้าของบ้านว่า "มึงแจ้งตำรวจมาจับกูทำไม แม่มึง"
จากนั้นในเวลา 20.18 น. ก็จะเห็นรถตำรวจเข้ามาจับกุมตัวนายมานพ ตามในคลิปต้นเรื่อง ซึ่งจะได้ยินเสียงนายมานพ โวยวายใส่ตำรวจว่ามาจับผมข้อหาอะไร จากนั้นตำรวจก็จับตัวขึ้นรถนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ภูเขียว
ล่าสุดวันนี้ (21 มี.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ที่หมู่บ้านในพื้นที่ ต.โอโล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยลักษณะจุดเกิดเหตุจะเป็นบ้าน 3 หลังติด ๆ กันที่อยู่ตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งบ้านของนายมานพ ผู้ก่อเหตุ จะอยู่หลังแรก ส่วนบ้านของผู้เสียหายที่เคยถูกนายมานพ ยิงปืนเข้าไปในบ้านจะอยู่ตรงกลาง และบ้านของเจ้าของหมาก็คือบ้านของนางจิตรดา จะอยู่หลังที่ 3
ทีมข่าวได้พบกับนางจิตรดา เจ้าของสุนัขที่ถูกยิง บอกว่า บ้านพักในระแวกนี้เป็นเครือญาติกัน โดยตนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับนายมานพมาก่อน แต่นายมานพเคยมีปัญหาทะเลาะกันกับบ้านข้าง ๆ ที่อยู่ติดกัน ซึ่งนายมานพชอบไปก่อกวนบ้านข้าง ๆ โดยโยนขวดเหล้าใส่บ้าง และเดือนที่แล้วก็ยิงปืนใส่ตัวบ้านข้าง ๆ แต่ไม่มีพยานที่เห็นว่านายมานพเป็นคนก่อเหตุเลยเอาผิดไม่ได้
ก่อนหน้านี้ทางตำรวจเคยจะเข้ามาจับกุมตัวนายมานพแล้ว แต่ไม่สามารถจับกุมได้เพราะนายมานพกำลังคลุ้มคลั่งอยู่ภายในบ้านพัก ซึ่งนายมานพก็หัวหมอคุยกับตำรวจขณะที่นายมานพอยู่ในบ้านพัก ตำรวจก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้าบ้านพักเพื่อไปจับ เหตุการณ์นี้ทำให้นายมานพย่ามใจและอวดอ้างว่า ตำรวจมาเยอะขนาดนี้ยังไม่สามารถจับกุมเขาได้เลย
และเหตุการณ์ก่อนที่นายมานพจะยิงสุนัขของตน นายมานพคุยอยู่คนเดียวในบ้านพัก โดยจินตนาการว่านายมานพมีเมียอยู่ด้วยในบ้านพัก แล้วมีการพูดด่าเมียว่า “มึงจะร้องไห้ทำไม กูจะทำให้กินอยู่” คล้ายการจินตนาการว่ามีคนอยู่ในบ้านด้วย จากนั้นไม่นานตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วก็มีเสียงหมาร้องด้วยความเจ็บปวดตนจึงวิ่งออกไปดู เห็นหมาพี่ตนเลี้ยงล้มเลยอุ้มกลับเข้ามาในบ้าน แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าหมาตัวเองถูกยิง แต่มาเอะใจว่ามีเลือดออกมาจากหมาที่ตนเลี้ยงก็เลยก้มดู และพบมีรูที่ขาประมาณ 6 รู และตนก็หันไปมองนายมานพซึ่งเจ้าตัวอยู่ในบ้านพักไม่ได้อยู่ด้านนอก ตนก็รีบพาหมาไปหาหมอทันที แล้วก็มาแจ้งความที่โรงพัก แต่ทางตำรวจบอกว่าให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน แต่ถ้าคนก่อเหตุมาโวยวายอีกที่บ้านพักให้รีบโทร. มาที่โรงพักแล้วจะมีสายตรวจไปตรวจสอบ
และเมื่อตนเดินทางกลับจากโรงพักมาที่บ้านพักแล้ว ก็ปรากฏว่านายมานพมาโวยวายที่หน้าบ้านพักตน ลักษณะต่อว่าตนว่า “มึงไปแจ้งความที่โรงพัก ทำไม มึงโวยวายทำไม โวยวายหาพ่อมึงเหรอ แจ้งความได้ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรกูหรอก” ส่งผลให้พ่อกับพี่ชายตนไม่พอใจ ตนก็กลัวว่าพ่อกับพี่ชายตนจะไปปะทะกับคนก่อเหตุก็เลยรีบโทร. ไปที่โรงพักแจ้งตำรวจ
เมื่อตำรวจชุดสืบสวนมาถึงก็โบกมือให้คนก่อเหตุจอดรถ แล้วคนก่อเหตุก็โวยวายใหญ่ว่า “ไม่ได้ทำอะไรจะมาจับอะไร” ทางตำรวจก็ถาม “เมาหรือเปล่า เสพยาหรือเปล่า” ก่อนล็อกตัวและขอค้นรถแล้วพบมีซองบุหรี่และมีดอยู่ในรถ จากนั้นพาตัวคนก่อเหตุไปที่โรงพัก
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งวันนี้ทางตำรวจจะต้องนำตัวนายมานพ ผู้ก่อเหตุ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ ในข้อหาทารุณกรรมสัตว์, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในทางหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โดยในขณะที่ตำรวจนำตัวนายมานพออกมาสอบปากคำ เจ้าตัวก็เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่เคยอาละวาดตามที่ชาวบ้านกล่าวอ้าง และตนเองก็ไม่เคยยิงปืนมาก่อน ซึ่งทีมข่าวก็สอบถามว่า แล้วเมื่อคืนได้ไปยิงสุนัขเพื่อนบ้านหรือไม่ ซึ่งนายมานพก็ตอบว่า ไม่ได้ยิง ไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็ไม่เคยยิงใส่บ้านของเพื่อนบ้านด้วย
ส่วนที่ทางตำรวจมาล้อมบ้านของตนเพื่อจะจับตน หลายคนก็มองว่าทำไมถึงไม่ออกมามอบตัวถ้าหากไม่ผิดจริง ยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่องมาก่อนก็เลยไม่ออกมา เพราะตนก็อยู่ของตนดี ๆ หาปูหาปลาของตนไป ตำรวจมาล้อมบ้านก็เป็นเรื่องของตำรวจ
ยืนยันบ้านเจ้าของสุนัข กับบ้านของตนเองเป็นญาติกัน ส่วนเจ้าของสุนัขที่กล่าวอ้างว่าตนเป็นคนยิง ส่วนที่ญาติตนบอกว่าตนชอบถือมีด ปกติตนก็ถือมีดอยู่แล้วในบ้านของตัวเอง เพราะเอาไว้ตัดหญ้าตัดต้นไม้ ปืนที่สงสัยที่ตนมีไว้ครอบครอง ก็เป็นปืนที่มีไว้ยิงนกยิงหนู
ส่วนพฤติกรรมของตนที่พ่อแม่ก็กล่าวอ้างว่าตนเคยทำร้ายร่างกาย จนต้องหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่กระท่อมปลายนา ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ยืนยันตนไม่ได้ทำร้ายพ่อแม่ เสพยาเสพติดก็ไม่เคย กินแต่เหล้าเท่านั้น สิ่งที่ทางเพื่อนบ้าน ทั้งชาวบ้าน ทั้งครอบครัวตนกล่าวอ้างว่าตนเป็นคนไม่ดี ทุกคนอาจเข้าใจผิดไปเอง ยืนยันอีกว่าทุกคนไม่เคยทำอะไรตนและตนก็ไม่เคยทำอะไรทุกคนเช่นเดียวกัน
จากนั้นทีมข่าวก็ถามว่า เมื่อคืนนี้หลังตำรวจคุมตัวเข้าห้องขัง ทำไมถึงโวยวายในห้องขังทั้งคืน โดยนายมานพ ก็ตอบว่า เมื่อคืนที่โวยวายเพราะเจอเรื่องลึกลับ ทำให้ตนเองมีพฤติกรรมแปลกโวยวายทั้งคืน เป็นเหตุการณ์ที่ตัวเองเจอและทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ คล้ายมีคนมาทำของใส่ แน่นหน้าอกทั้งคืน ยืนยันตนเองไม่ได้หลอนเพราะไม่เคยเสพกัญชาและไม่เคยเสพยาเสพติด สูบแต่บุหรี่เท่านั้น