จากกรณีเพจ Social Hunter Reborn V3 มีการแชร์ข้อความที่โพสต์ของรุ่นพี่ผู้เสียหายระบุข้อความว่า “ผู้ช่วยสส.ยิงวัยรุ่นชาย .. เอาแล้ว ว่าแล้ว น้องผมโดนยิงนะครับ ไม่ได้โดนไม้จิ้มฟันแทง ผมขอความยุติธรรมให้น้อง ผมทีครับ คนก่อเหตุเป็น ผู้ช่วย สส. ท่านหนึ่ง คุณคิดว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ หรอครับ กร่างไปทั่ว จะยิงใครก็ได้งั้นหรอ ถ้าอย่างงี้ ผมมีเงิน ผมมีสี ผมไม่ต้องติดคุกอ้ะ ดิ่”

จากนั้นโพสต์ภาพผู้เสียหายซึ่งเป็นวัยรุ่นชายมีบาดแผลที่บริเวณขมับด้านซ้ายโดยมีเลือดไหลออกมา หลังจากถูกคนก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ช่วยสส. ใช้ปืนตบที่บริเวณดังกล่าว

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ยังได้หลักฐานคลิปและวงจรปิดเพิ่มเติม โดยเป็นคลิปเหตุการณ์ขณะก่อนเกิดเหตุที่นายปลื้มจะถูกจ่อยิง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นคลิปเหตุการณ์สั้นสั้นที่เพื่อนของนายปลื้มแอบอัดถ่ายไว้แต่ไม่กล้าถ่ายนานเนื่องจากกลัวความปลอดภัย

ในคลิปจะเห็นวัยรุ่นจำนวนมากที่จอดรถเคลียร์ใจกันซึ่งฝั่งตรงข้ามกับมุมที่ถ่ายจะเห็นตัวผู้ช่วยสส.นั่งอยู่ที่รถจักรยานยนต์และมีภรรยาผู้ช่วยสส.ยืนอยู่ข้างข้าง และส่วนที่ใกล้กับที่ถ่ายจะเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหาย ในรัศมีกล้องที่ถ่ายจะไม่เห็นผู้เสียหายในคลิป แต่ผู้เสียหายยืนอยู่ข้างจักรยานยนต์สีขาว

จากนั้นกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 เป็นกล้องของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งอยู่ในจุดเกิดเหตุ จะเห็นหลังเกิดเหตุการณ์ผู้ช่วยสส.ยิงปืนขึ้นฟ้า ทางกลุ่มผู้ช่วยสส.ก็รีบขี่รถจักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุทันที ในส่วนกลุ่มผู้เสียหายก็ขี่รถตามจากนั้นก็เปลี่ยนใจไม่ขี่รถตามเพื่อยุติเรื่อง

และกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 เป็นกล้องของเทศบาล จะเห็นนาทีที่ ขบวนรถของกลุ่มผู้ช่วยสส. ขับหนีโดยมุ่งหน้าไปยังอำเภอปราณบุรี ซึ่งจากกล้องจะเห็นผู้ช่วยสส.เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์สีแดงดำและมีภรรยาเป็นคนซ้อนท้าย

ต่อมาเราเดินทางไปพูดคุยกับนายปลื้ม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งยังมีร่องรอยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าโดยที่ขมับซ้ายยังคงมีรอยแผลเล็กๆหลังจากถูกคนก่อเหตุใช้ปืนตกที่บริเวณดังกล่าว และยังมีรอยปูดบวมที่บริเวณศีรษะแต่เห็นได้ไม่ชัดเจน ส่วนที่มือเป็นบาดแผลที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ล้มก่อนหน้านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล่าสุด

นายปลื้ม เล่าว่า ตอนที่ตนเองทะเลาะกับภรรยาของผู้ช่วยสส.ในที่เกิดเหตุ ภรรยาผู้ช่วยสส. ด่าว่าตนด้วยถ้อยคำที่หยาบคายคล้ายกับว่าใครมีปัญหาอะไร จากนั้นต้นก็มีปากเสียงคืนแล้วทั้งตนกับผู้ช่วยสส. ก็ทะเลาะกัน ก่อนที่ผู้ช่วยสส. จะออกตัวมาจ่อยิงตนแต่ไม่สำเร็จเพราะกระสุนปืนขัดลำกล้องก็เลยยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่ ทั้งหมด 3 นัด แล้วใช้คำพูดข่มขู่อีกว่า “อยากตายก็ตามมา” ก่อนผู้ช่วยสส. จะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุไป

ที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้ช่วยสส. เพิ่งขึ้นเป็นตำแหน่งผู้ช่วยสส. มาได้ประมาณปีกว่า ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือไม่ดีมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเองเห็นที่เข้ามาทำร้ายตน ยืนยันไม่มีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อนหน้านี้

หลังเกิดเหตุผู้ช่วยสส.ส่งพ่อแม่มาเคลียร์ใจกับพ่อแม่ตน โดยขอร้องให้ตนถอนแจ้งความ พร้อมกับเสนอจ่ายค่าเสียหายให้ แต่ส่วนตัวทั้งตนและครอบครัวไม่อยากได้เงินอยากได้ความยุติธรรมมากกว่า ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามฆ่า เคราะห์ดีที่กระสุนขัดลำกล้องถึงสองครั้ง คาดเป็นเพราะห้อยพระหลวงพ่อกวยเลยแคล้วคลาด

ด้านนายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 62 ปี พ่อของผู้ช่วยสส. เล่าว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเนื่องจากลูกชายไปเคลียร์ปัญหาให้กับหลานของภรรยา โดยหลานภรรยานัดเคลียร์ปัญหากับคู่กรณีที่จุดเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลานัดทางคู่กรณีของหลานภรรยาก็มากันประมาณ 20 คน จากนั้นก็ให้หลานของภรรยาไปเคลียร์กับทางคู่กรณีซึ่งก็เคลียร์จบลงด้วยดีและจับมือกันว่าไม่มีอะไรกันแล้วนะ แล้วลูกชายก็กำลังจะขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน

ปรากฏว่านายปลื้ม ผู้เสียหายก็มาถึงที่เกิดเหตุและตะโกนถามว่า “ มีอะไรกันวะ” จากนั้นก็มาด่าภรรยาของลูกชายตนด้วยถ้อยคำที่หยาบคายมาก แล้วจะเข้ามาต่อยภรรยาของลูกชาย ลูกชายก็เลยตะโกนบอกว่า “ เฮ้ยนี่เมียกูนะ เบาได้ก็เบาบ้าง” แล้วนายปลื้มก็เลยเปลี่ยนใจจะมาต่อยลูกชายแทน ลูกชายตนก็เลยคว้าปืนตบนายปลื้ม พอตบเสร็จเห็นหนึ่งในกลุ่มของนายปลื้มกำลังจะชักปืนออกมา ลูกชายก็เลยตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด ยืนยันแค่เอาปืนตบหน้าไม่ได้มีการจ่อยิงนายปลื้มตามที่ฝ่ายนั้นกล่าวอ้าง

ตนไม่ได้ปฏิเสธเพราะลูกชายตนก็ไปตบหน้าผู้เสียหายจริงและก็มีการยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืน .9 มม. มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ชื่อคนครอบครองคือชื่อของตนเองผู้เป็นพ่อ หลังเกิดเหตุตนพยายามไปเจรจากับครอบครัวผู้เสียหายยื่นเงินให้ 100,000 บาท แต่ผู้เสียหายจะเอาเงิน 500,000 ถ้าอย่างนั้นก็ไปตกลงกันที่ศาลไปจบที่ศาล และตนก็รู้มาอีกว่าเมื่อไปที่ศาลเสร็จทางผู้เสียหายจะเรียกเงินเพิ่มอีก

ซึ่งเมื่อวานนี้ตนพาลูกชายของตนไปมอบตัวแล้ว ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น