ตำรวจลุยค้นสระน้ำ "สุทีป" ผู้ต้องสงสัยคดีเสี่ยไก่ชนหายตัว หลังพบเบาะแสทิ้งรถในสระน้ำสวนปาล์มของญาติ เร่งสูบน้ำหาข้อเท็จจริง

ความคืบหน้าคดีเสี่ยหมาสวันนี้ ทางตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามภาค 5 เร่งคลี่คลายหลังพบเบาะแสใหม่ โดยเช้าวันนี้ชุดตำรวจเข้าตรวจค้นบริเวณสระน้ำในสวนปาล์มของญาตินายสุทีป ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

 

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มคนก่อเหตุขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เทามาพร้อมกับเสี่ยหมาสที่สระน้ำแห่งนี้ โดยขับเข้าสวนปาล์มแม้จะเป็นเส้นทางลูกรังและขรุขระ ก่อนตัดรั้วลวดหนามที่แบ่งอาณาเขตสวนปาล์ม แล้วใช้อุปกรณ์ตัดชำแหละชิ้นส่วนรถ แล้วทิ้งโครงรถ ชิ้นส่วนรถขนาดใหญ่และโครงรถทิ้งลงสระน้ำแห่งนี้ ส่วนชิ้นส่วนรถที่มีขนาดเล็กก็นำมาเผาข้างขอบสระ

 

การตรวจค้นพื้นที่พบว่า เป็นสวนปาล์มขนาดใหญ่และมีสระน้ำ 4 บ่อ ซึ่งจุดที่ทิ้งเป็นสระน้ำใหญ่มีต้นกล้วยปลูกล้อมรอบอีกทั้งยังอยู่ในสวนปาล์ม ห่างจากถนนหน้าปากทางประมาณ 300 เมตร โดยเป็นสระน้ำขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ลึกประมาณ 4 เมตร จุดขอบสระน้ำพบดินที่มีร่องรอยเผาทำลายหลักฐาน พบชิ้นส่วนรถเก๋งถูกเผา และจุดนี้ยังพบรองเท้าข้างหนึ่ง สายไฟฟ้าที่ถูกเผาอีกด้วย

 

ทางตำรวจได้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากสระ เพื่อหารถเก๋งที่กลุ่มคนร้ายนำมาทิ้ง เมื่อสูบน้ำออกได้สักปริมาณหนึ่งก็นำรถแม็คโครมาที่สระน้ำเพื่อนำสิ่งขีดขวางออกจากสระ โดยพบกิ่งต้นไม้ขนาดใหญ่ คล้ายถูกตัดและโยนลงไปในสระเพื่อปิดบังบางอย่างไว้ ประมาณ 4-5 กิ่งใหญ่ จากนั้นก็สูบน้ำต่อ จนกระทั่งพบของรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เงินถูกชำแหละทิ้งที่สระน้ำดังกล่าว จึงเรียกอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่เพื่อเร่งงมหาหลักฐานในสระน้ำ แล้วมีการนำโพลิสไลน์มากั้นพื้นที่เพราะทางชาวบ้านตกใจที่เห็นตำรวจมาตรวจค้นจึงแห่กันมาดู

 

ในวันนี้ตั้งแต่ช่วง 09.00 -13.30 น. รวมทั้งสิ้น 4.30 ชั่วโมง ทางตำรวจได้ปฏิบัติการค้นหาหลักฐานในสระน้ำของญาตินายสุทีป เพื่อคลี่คลายคดีเสี่ยหมาส โดยพบชิ้นส่วนรถ ประกอบด้วย ประตูรถ ฝากระโปรงหน้าและท้ายรถ หลังคารถ และพบโครงสร้างรถ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหน้าพื้นรถและโครงท้ายรถที่ยังไม่ชำแหละถูกทิ้งน้ำ เมื่อพบจึงต้องนำชิ้นส่วนซึ่งเป็นหลักฐานในคดีทุกชิ้นขึ้นมาจากน้ำและนำมาไว้ข้างบนเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน

 

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบหลักฐานทุกชิ้นเบื้องต้น พร้อมทั้งตรวจสอบตัวโครงซากรถที่ถูกชำแหละแต่ยังไม่หมดและทิ้งไว้ในสระ พร้อมทั้ง ให้ทางอาสาสมัครกู้ภัยงมก้นสระน้ำอย่างละเอียดเพื่อจะเจอชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์แต่สุดท้ายไม่พบ จากการตรวจสอบหลักฐานชิ้นส่วนรถที่ถูกชำแหละและทิ้ง พบเกือบทุกชิ้นมีการพ่นสีสเปรย์เคลือบสีรถ และยังพบทะเบียนรถคันนี้ก็ถูกเอาสีเปรย์พ่นทับเพื่อปกปิดเช่นกัน

 

ซึ่งบริเวณข้างขอบสระน้ำ ก็มีการเก็บหลักฐานชิ้นส่วนรถที่ถูกเผาอำพรางหลักฐาน เป็นคอนโซลหน้ารถ และอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถที่มีขนาดเล็ก แล้วยังพบรองเท้าหนึ่งข้างและสายไฟฟ้า

 

แล้วทางตำรวจยังได้ไปค้นบ้านผู้ต้องสงสัยเพิ่มและมีการยึดอุปกรณ์ที่ใช้ชำแหละรถมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจ โดยจะมีอุปกรณ์ตัดเหล็กและถังแก๊สรวมทั้งเครื่องมือ

 

ตามรายงานการสืบสวนสอบสวน พบว่า รถคนร้ายมีสองคัน เป็นรถเก๋งฮอนด้าสีขาว และรถฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เงิน ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจเจอชิ้นส่วนและซากรถรถฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เงินที่ทิ้งน้ำแล้ว กำลังเร่งตามยึดรถเก๋งฮอนด้าสีขาวอีกคัน

 

แต่ในส่วนลักษณะก่อเหตุ คนร้ายขับรถเก๋งฮอนด้าสีขาว และรถฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เงิน แล้วอุ้มตัวเสี่ยหมาสขึ้นรถฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เงิน ก่อนให้คนในทีมขับรถเสี่ยหมาส ในพื้นที่จ.ชุมพร คาดขับมาจุดอ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ก่อน จากนั้นแวะมาที่จุดทิ้งสระน้ำในอ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อชำแหละรถเสร็จ ก็นำรถของเสี่ยหมาสไปขาย

 

ด้านพล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สืบภาค 8 บอกว่า สำหรับความคืบหน้าเรื่องคดีเสียไก่ชนหายตัวปริศนา ทางชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนพบหลุมปริศนาที่อาจคาดว่าอาจจะเป็นจุดที่ฝังศพในอ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช แต่ก็ปรากฏว่ายังไม่พบความผิดปกติ

 

และล่าสุดวันนี้ได้เบาะแสใหม่ พบรถเก๋งของคนร้ายอาจถูกมานำทิ้งไว้ที่สระน้ำภายในสวนปาล์มของผู้ต้องหารายหนึ่ง จากการสืบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่ารถเก๋งคันนี้มีลักษณะที่ตรงกันกับที่ชาวบ้านในอำเภอบางขันที่เห็นมีรถเก๋ง นอกพื้นที่ขับมาในช่วงประมาณคืนต้นเดือนกุมภาพันธ์ จึงมาตรวจสอบเพื่อให้สิ้นสงสัย

 

ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 5 ราย เป็นผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มตัวบุคคลที่สูญหายขึ้นรถจากนั้นอาจจะนำพาไปประทุษกรรม แล้วจากการตรวจค้นสระน้ำพบรถเก๋งของคนร้ายที่ถูกชำแหละ ก่อนเผาอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถ และบางส่วนเผาไม่ได้ก็โยนทิ้งน้ำ

 

คดีนี้ต้องแบ่งคนที่ก่อเหตุเป็นสองส่วน คือคดีอุ้มตัวเสี่ยหมาสขึ้นรถก่อนหายตัวปริศนามีทั้งหมด 5 คน ซึ่ง 1 ใน 5 รู้จักกับเสี่ยหมาส ส่วน 4 ใน 5 คาดเป็นคนที่รู้จักกับนายชัย โดยอุ้มจากพื้นที่จ.ชุมพร ก่อนมาที่จ.นครศรีธรรมราช มีการแวะสองจุดคือ อ.บางขันที่พบสัญญาณโทรศัพท์สุดท้ายของเสี่ยหมาส และจุด อ.ทุ่งสง ที่มาค้นวันนี้ จุดอำพรางรถเก๋งของคนร้ายที่อุ้มเสี่ยหมาส ส่วนจะเป็นกระบวนการจ้างวานหรือไม่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบ เบื้องต้นดำเนินคดีอีกคือโจรกรรมรถผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้แล้ว

 

คนก่อเหตุอีกกลุ่มคือคนรับซื้อรถที่ถูกโจรกรรมมา ทั้งขบวนการมีประมาณ 3-4 คน โดยชายที่ใส่แว่นตาขับรถของเสี่ยหมาสที่ปรากฏในภาพวงจรปิดที่เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้อยู่ในขบวนการรับซื้อรถที่ถูกโจรกรรมมา ทุกคนที่เกี่ยวข้องขบวนการนี้ได้เรียกมาสอบสวนเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยแล้วและถูกดำเนินคดีแล้ว

 

และในส่วนประเด็นที่เจ๊อ้วนขายบ่อนไก่ชนหลังจากที่สามียังหายตัวไปเป็นปริศนา ทางตำรวจได้มีการเรียกตรวจเจ๊อ้วนมาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว

 

ซึ่งในส่วนประวัติคดี นายชัย เคยก่อคดีมากถึง 17 คดี , ส่วนนายพฤหัส และนายสุทีป เพิ่งถูกดำเนินคดีมีอาวุธปืนครอบครองโดยไม่ได้รับรับอนุญาต ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

ต่อมาเราได้พูดคุยกับนายสุพล อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บอกว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของญาตินายสุทีป พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลทำให้ไม่มีชาวบ้านสัญจรผ่านไปมาเส้นทางนี้ ไม่ได้มีถนนที่ตัดเข้าสวนปาล์มเป็นกิจจะลักษณะทำให้ไม่สะดวกต่อการขับเข้ามา จึงทำให้พื้นที่นี้เปลี่ยวไม่ค่อยมีคน

 

ในส่วนที่เกิดเหตุการณ์มีกลุ่มคนก่อเหตุชำแหละรถและทิ้งรถ รวมทั้งเผาอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถ ยืนยันไม่มีชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นและแจ้งตน รวมทั้งไม่มีรายงานเข้ามาว่ามีรถแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ และยืนยันอีกว่าตนไม่ได้รับรายงานตอนที่ตำรวจมาคุมตัวนายสุทีปและนายพฤหัสไปสอบปากคำ

 

ปกติแล้วนายพฤหัสมีบ้านส่วนตัวที่นี่ก็จะพักอยู่ที่นี่ แต่นายสุทีปมีลักษณะไปๆมาๆ ส่วนตัวก็ตกใจที่พบซากรถถูกชำแหละและทิ้งไว้ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นฝีมือใคร

 

ขณะที่นางสาวเพชร (นามสมมติ) ลูกสะใภ้นายสุทีป เล่าว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 8 ได้เข้ามาที่บ้านพัก และได้พาตัวพ่อสามีคือนายสุทีป และนายพฤหัส หลานเขย และสามีตนเอง ไปสอบปากคำถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ ขณะนั้นมีเพียงนายสุทีป พ่อสามีที่โดนดำเนินคดีเกี่ยวกับพรบ.อาวุธปืน

 

ภายหลังได้ประกันตัวออกมาพ่อสามีกับหลายเขย ก็ออกจากบ้านพักและบอกกับตนเพียงว่าจะไปทำงาน ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ถามว่าไปทำงานที่ไหน จากนั้นก็ติดต่อทั้งคู่ไม่ได้อีกเลย

 

ส่วนช่วงวันที่ 1 -2 กุมภาพันธ์ ห้วงเวลาที่ตำรวจบอกว่าเสี่ยหมาสหายตัวไปนั้น ตนเองเห็นพ่อสามีและนายพฤหัสอยู่ในบ้านพักช่วงเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืนตนเองอยู่กับสามีในบ้าน ส่วนนายสุทีปและนายพฤหัสอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง จึงไม่รู้เห็นอะไรว่าทั้งคู่อยู่ในบ้านพักหรือไม่

 

ขณะที่รถที่มาปรากฏอยู่ในสระน้ำหลังบ้านตนเองไม่รับรู้ถึงความผิดปกติแต่อย่างใด และไม่รู้เห็นอะไรเลย ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะมีคนมากลั่นแกล้งเพราะว่ามีทั้งคนรักและคนเกลียด แต่ไม่อยากพูดถึงว่าทำไมคนถึงไม่ชอบพ่อตาตนก็คือนายสุทีป ซึ่งสวนปาล์มและสระน้ำทั้งหมดเป็นของนายโย ก็คาดว่าเป็นญาติกับพ่อตาตน

 

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับนายสำราญ พี่ชายของเสี่ยหมาสอีกครั้ง โดยลุงสำราญยังยืนยันกับทีมข่าวว่า สิ่งที่ตนเองพูดเป็นความจริงทุกอย่าง ยืนยันว่าเจ๊อ้วน ได้เรียกตนเองมาหาที่บ้าน พร้อมกับพูดถึง นายชัย ว่าอยู่ในคืนวันเกิดเหตุจริง โดยบอกว่า นายชัยมาเคาะประตูหน้าต่าง และบอกว่าจะมาเอารถของเสี่ยหมาดไป จากนั้นเจออ้วนได้อ้างว่าตัวเองหลับ และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ ซึ่งตนเองสงสัยว่าทำไมเจ๊อ้วน ถึงเพิ่งมาสารภาพกับตนเอง

 

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตัวนายชัยกับตัวน้องชาย ตนเองรู้เพียงแค่ว่าเพื่อนสนิทสมัยอยู่ในคุกด้วยกัน แต่ตนเองไม่เคยพูดคุยกับนายชัย แต่เจ๊อ้วนค่อนข้างสนิทและรู้จักกันอยู่แล้ว

 

และหากถ้าถามตนเองตอนนี้ว่าสงสัยใครมากที่สุด ตนเองยอมรับว่า เทน้ำหนักไปที่เจ๊อ้วนมากที่สุด เนื่องจากคำพูดของเจ๊อ้วน พูดไม่เคยตรงกัน พูดกลับไปกลับมา เชื่อถือไม่ได้

 

นอกจากนี้ตนเองยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวลับอีกด้วยว่าในคืนวันที่น้องชายหายตัวไป เจ๊อ้วนมีการโทรศัพท์หานายชัย 15 ถึง 20 สาย ซึ่งตนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า เจ๊อ้วนโทรศัพท์คุยกับนายชัยเรื่องอะไร และมีการโทรศัพท์หากันจริงหรือไม่

 

ตนเองยังเชื่อว่า การหายตัวไปของน้องชายนั้น ต้องมีคนร้ายมากกว่า 1 คน และต้องทำกันเป็นขบวน ซึ่งก่อนหน้านี้ คนงานค่ายไก่ของน้องชายยังได้มาเล่าให้ตนเองฟังว่า ช่วงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ก่อนน้องชายจะหายตัวไปได้มีรถปริศนามาจอดอยู่แถวค่ายไก่ของน้องชายอีกด้วย

 

ตนเองดีใจมากที่ล่าสุดวันนี้ตำรวจไปพบเบาะแสซากรถที่ถูกทิ้งลงในบ่อกลางสวนปาล์มที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และเท่าที่รู้น้องชายไม่เคยเดินทางไปแถวนั้น ยกเว้นบ้านของนายชัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบซากรถ โดยตนเองเชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะได้เบาะแสของน้องชาย ส่วนน้องชายจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ตนเองเชื่อว่าไม่น่าจะมีชีวิตอยู่และน่าจะกลายเป็นศพแล้ว

สูบบ่อกลางสวนปาล์ม พบรถเอี่ยวอุ้มเสี่ยหมาส พี่เสี่ยมั่นใจคนใกล้ตัวบงการ