จากกรณีนายขนบ อายุ 56 ปี หรือ “เสี่ยหมาส” และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 และภายหลังตำรวจทางหลวงพบยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวของเสี่ยหมาส ผู้สูญหายจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะริมแม่น้ำโขง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวนายขนบ จนถึงวันนี้นานร่วม 2 เดือนแล้ว ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
ขณะที่วันนี้ช่วงเวลาประมาณ 17:00 น. กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
โพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก เจอแล้ว เสี่ยหมาด หลังหายตัวปริศนา พบเป็นศพ สวนป่าหลังโรงเรียนไสเตาอ้อย อ.บางขัน นครศรีธรรมราช
ช่วงแรกที่ลงพื้นที่ทีมข่าวไม่สามารถขึ้นไปบนจุดพบศพได้ เนื่องจากพิกัดที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชที่พบยังมีพิกัดจุดไม่ชัดเจน จึงต้องรอทางกู้ภัย บริเวณที่ทางตำรวจได้ใช้พิกัดเบื้องต้นหลังโรงเรียนนั้นเป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มของชาวบ้านเป็นพื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่ โดย บริเวณนี้ห่างจากจุดที่พบหลุมปริศนาประมาณ 10 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่พบซากรถประมาณ 8-9 กิโลเมตร สอบถามชาวบ้านไม่มีใครพบรถแปลกเข้ามาในพื้นที่และไม่มีใครรู้เรื่อง
ช่วง 19.00 น. ตำรวจขอความร่วมมือทีมข่าวขึ้นรถตำรวจไปจุดพบศพ โดยยังไม่แน่ชัดพิกัดที่เจอศพ ตำรวจเปิดเผยข้อมูลเพียงว่า ลักษณะที่พบเป็นของเหลว ยังไม่ยืนยันเป็นศพเสี่ยหมาส
พ.ต.อ.ประภาส ศรีสังข์จร ผกก.สภ.ลานสกา คนเจอศพได้เปิดใจว่าทราบจากข่าวในพื้นที่แล้วก็ทราบข้อมูลบางส่วนจากกลุ่มของผู้ก่อเหตุที่เขาให้ความร่วมมือ แต่คนที่ให้ความร่วมมือเขาไม่ได้เอามาฝังที่เกิดเหตุ แต่เขาเป็นคนที่นำรถมาเท่านั้น ที่คิดว่าเป็นศพเสี่ยหมาส เนื่องจากเป็นจุดที่ชาวบ้านบริเวณนั้นเห็น ชาวบ้านให้ข้อมูลว่ามีรถเก๋งเข้ามาอยู่ในที่ขุดหลุมตรงนั้น ซึ่งจุดตรงนั้นรถเก๋งไม่น่าจะเข้า แล้วก็มีแสงไฟ สภาพศพเหลือแค่เสื้อผ้า และคาดว่าผู้ก่อเหตุใช้น้ำกรดราดศพ อีกทั้งตนเดินหาทั้งวันแต่บริเวณนั้นมีรอยดินถูกขุด ซึ่งตรงอื่นไม่มี ตนใช้ไม้ยาวประมาณ 2 เมตรจิ้มลงไปในหลุม และพบว่ามีกลิ่นเหม็น
ช่วงเวลาประมาณ 20.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มีการวางแผนเพื่อที่จะเข้าไปยังจุดที่พบศพเสี่ยหมาส ซึ่งจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่บอกพิกัดที่ชัดเจน ให้ข้อมูลเพียงว่าพบในสวนปาล์มของชาวบ้าน