จากเหตุการณ์ที่ แจ๊ส สปุ๊กนิก หรือ แจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินตลกชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.มีนบุรี หลังถูกคนร้ายบุกบ้าน ย่านถนนสุวินทวงศ์ มีนบุรี พร้อมขโมยรองเท้าที่สะสมไปหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท เกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา
จากนั้น แจง ปุณณาสา ภรรยา แจ๊ส โพสต์ภาพตำรวจเข้ามาตรวจบ้านหลังถูกโจรขึ้นบ้าน และพบอุปกรณ์เสพยา โดยระบุว่า “วันนี้ได้เข้ามาตรวจบ้านที่หมู่บ้านที่มีนบุรี บ้านเราไม่ได้อยู่และปิดมานานแล้ว เราได้แจ้งข่าวว่ามีบุคคลบุกรุกเข้ามาอยู่ในบ้านและรองเท้าของพี่แจ๊สหาย จึงได้แจ้งไปที่สถานีตำรวจมีนบุรี เพื่อเข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่าประตูบ้านแตก และ รองเท้าคอนเวิร์ส ที่พี่แจ๊สสะสมไว้หายเป็นจำนวนหลายคู่ พบอุปกรณ์เสพยา ขอบคุณทีมท่านผู้กับกับ กฤษ ก้อมน้อย และพี่ ๆ ตำรวจ สน.มีนบุรี เข้ามาถ่ายและเก็บรายละเอียด การสูญหายของพี่แจ๊สในวันนี้ด้วยนะคะ ใครพบเห็นรองเท้า เดี๋ยวแจงจะลงให้อีก 1 โพสต์ สามารถแจ้งรายละเอียด มาได้เลยนะคะ ส่วนที่ใครรับซื้อไป รบกวนติดต่อ คืนได้ที่ สน.มีนบุรีแล้วเราจะไม่เอาเรื่องค่ะ”
ต่อมาได้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายภูมิพัฒน์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ แจง ภรรยาของแจ๊ส หลังได้ไลฟ์สดใน TikTok ว่า ได้พังประตูบ้านแล้วเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ คือรองเท้าที่แจ๊ส สะสมไว้ไปแจกจายให้กับบุคคลภายนอก พร้อมบอกว่า "ข้อหาหมั่นไส้เมียมึง"
จากนั้นผู้เสียหายได้ตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่า รองเท้าผ้าใบรุ่นที่หายาก สูญหายไปจำนวน หลายคู่ ราคาประมาณ 300,000 บาท พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ พฐ. เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับไปขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายภูมิพัฒน์ และอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้พบว่า ผู้ต้องหาเป็นคนใกล้ชิดกับแจ๊ส และเคยมีปัญหากับแจง ภรรยาแจ๊สมาก่อนด้วย
ล่าสุดวันที่ 26 มีนาคม 2567 แจ๊ส ชวนชื่น ได้โพสต์อัปเดตเจอรองเท้าบางส่วนแล้วว่า “เจอแล้วครับ 2 คู่ มีน้องคนหนึ่งรับซื้อ 2 คู่นี้ มาจากผู้หญิงคนนี้ครับ น้องเห็นข่าวออกเลยเอามาคืนผมที่ สน.มีนบุรี น้องซื้อมาจากผู้หญิงคนนี้ น้องเขาถ่ายรูปเก็บไว้ ใครซื้อจากผู้หญิงคนนี้มาที่ สน.มีนบุรี ได้เลยนะครับ ใครรู้จักผู้หญิงคนนี้ บอกเขาทีนะครับว่ารองเท้าผมอยู่ที่ไหนบ้าง ขอบคุณ สน.มีนบุรี ด้วยครับ สืบสักพักน่าจะเจอตัวคนร้าย ขอบคุณทุกคนนะครับ”
วันนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของแจ๊สกับแจง ที่ถูก นายบู๊ ก่อเหตุลักทรัพย์ นำทรัพย์สินออกไป พบว่าบ้านดังกล่าวไม่มีใครอยู่ภายในบ้านมีแต่สุนัขสองตัว มีกุญแจล็อกและโซ่คล้องทางประตูด้านไนและด้านนอก และพบร่องรอยของการรื้อข้าวของเหมือนกับขนย้ายออกไปจากบ้าน
ทีมข่าวได้พบกับ นายชัย (นามสมมติ) พนักงานทำความสะอาดของหมู่บ้าน เปิดเผยว่า แจ๊สกับแจงได้ฝากให้ตนเองดูแลบ้าน ซึ่งปกติแล้วบ้านหลังนี้จะมีนายบู๊ ผู้ก่อเหตุ จะอยู่และเข้า-ออกเพียงคนเดียว เพราะทั้งแจ๊สและแจงได้ไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้จะใช้ไว้เก็บของส่วนตัว แต่ก่อนหน้านี้นายบู๊คาดว่าจะถูกดำเนินคดีและจำคุก จนหายไประยะหนึ่ง ก่อนที่จะกลับเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ เมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็จะพบว่าไม่ได้อยู่ประจำ
จนกระทั่งเมื่อวานนี้แจ๊สและแจงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณบ้านจึงทราบว่ามีข้าวของถูกขโมยไป และคนที่ก่อเหตุคือเป็นพี่ชายของแจง ที่เคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ ได้มีการงัดประตูด้านบนของบ้าน นำทรัพย์สินที่มีค่าของแจ๊สไปโพสต์แจกจ่ายและจำหน่ายในโซเชียล
โดยเมื่อวานนี้ทั้งแจ๊สและแจงได้เก็บข้าวของมีค่าออกจากบ้านไปทั้งหมดแล้ว ก่อนที่จะฝากตนเองคอยให้ข้าวและน้ำกับสุนัขซึ่งเป็นของผู้ก่อเหตุ ซึ่งตนเองสังเกตว่าเมื่อวานนี้หลังจากที่มีการเคลียร์พื้นที่ไปหมดแล้ว ตนเองได้เก็บสุนัขเข้าไปไว้ในกรง แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมาเมื่อตนเองมาถึงก็พบว่าสุนัขถูกปล่อยออกมานอกกรง จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุได้ย้อนกลับมาในช่วงกลางดึกกลับมาที่บ้านหลังนี้ ก่อนจะแอบมาให้อาหารสุนัขและปล่อยสุนัขออกจากกรงและกลับออกไป และที่นายบู๊เข้ามาก่อเหตุได้ เพราะไม่มีใครสงสัยเพราะเป็นคนในบ้านอยู่แล้ว
ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม นายปรีชา อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ที่ตนเองปล่อยให้ นายบู๊ ผู้ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านของแจ๊สได้นั้น เป็นเพราะเห็นว่านายบู๊เป็นญาติพี่น้องและอยู่ที่บ้านหลังนี้มาเป็นเวลานานก่อนจะหายไปแล้วกลับมาซึ่งก็ไม่มีใครมาแจ้งกับตนเองว่าห้ามนายบู๊เข้ามาที่บ้านหลังนี้ ซึ่งนายบู๊ก็เข้า-ออกอยู่ทุกวัน บางวันก่อนหน้านี้เคยพากลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาเสพติดกันภายในบ้าน จนประธานหมู่บ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่มามั่วสุมกันอีก ปกติแล้วนายบู๊ ที่ก่อเหตุมีพฤติกรรมนิ่งเฉยและก็ดูเป็นคนปกติ
ล่าสุดเมื่อประมาณไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ยังเห็นขี่รถจักรยานเข้า-ออกกลางดึก ก่อนที่จะมาก่อเหตุลักทรัพย์สินของแจ๊สออกไป แต่หลังเกิดเหตุยังไม่พบว่านายบู๊กลับมาที่บ้านหลังนี้แต่อย่างใด ปกติแล้วคนที่จะเข้าหมู่บ้านถ้าเป็นบุคคลภายนอกก็จะมีการตรวจสอบ แต่หากเป็นลูกบ้านที่อยู่เป็นประจำ ก็จะปล่อยให้เข้า-ออกแบบปกติ ซึ่งตนเองเข้าใจว่านายบู๊เป็นญาติพี่น้องของเจ้าของบ้าน จึงได้ปล่อยให้เข้าออกตามปกติ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลมีนบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับ นายภูมิพัฒน์ หรือ บู๊ ผู้ที่ก่อเหตุแล้วในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยการทำอันตรายกับสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ซึ่งตำรวจได้ประสานไปยังผู้ต้องหาเพื่อจะให้เข้ามอบตัว แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธ อ้างว่า หากเข้ามอบตัวแล้วจะไม่ได้ประกันตัว ซึ่งตำรวจถึงได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามตัวอยู่ และพบเบาะแสล่าสุดคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่นอกกรุงเทพมานครแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหากไปอยู่พื้นที่ไหน ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ทันที