จากกรณีนายขนบ อายุ 56 ปี หรือ “เสี่ยหมาส” และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 และภายหลังตำรวจทางหลวงพบยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวของเสี่ยหมาส ผู้สูญหายจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะริมแม่น้ำโขง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวนายขนบ จนถึงวันนี้นานร่วม 2 เดือนแล้ว ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร

 

เปิดวงจรปิดนาทีแก๊งอุ้มเสี่ยชนไก่ แบ่งหน้าที่อุ้มหาย

ภายหลังขบวนรถผู้ต้องสงสัยขับเข้ามาในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ช่วงดึกวันที่ 1 เข้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จากรายงานของชุดสืบสวนสอบสวนทราบว่าขบวนรถที่ขับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีทั้งหมดสำคัญคือหนึ่งรถที่มาดูลาดเลาเป็นรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของนายสุทีป คัน 2 เป็นรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของเสี่ยหมาสที่มีลักษณะเหมือนกันกับนายสุทีป และคันที่สามเป็นรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีบรอนซ์เทา ที่คนร้ายใช้อุ้มเสี่ยมาขึ้นรถคันนี้

 

กล้องตัวที่ 1 และ 2 ช่วง 01.03 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ บริเวณ บริเวณถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 4151 ใน ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ปรากฏภาพรถรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวขับผ่านที่บริเวณนี้ ซึ่งบริเวณนี้อยู่ห่างจากจุดที่พบซากรถในสระน้ำของนายสุทีป ผู้ต้องสงสัยเพียง 3.5 กิโลเมตร / โดยจากข้อมูลยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าเป็นรถของนายสุทีปหรือรถของเสี่ยหมาส

 

กล้องวงจรปิดตัวที่ 3 ช่วง 01.57 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ บริเวณถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 4116 ใน หมู่ 8 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากเวลาที่ปรากฏในภาพวงจรปิด 01.58 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะปรากฏรถเฟอร์จูนเนอร์สีขาวคันแรกคา เป็นรถที่ใช้ดูลาดเลาของผู้ต้องสงสัย ซึ่งนายสุทีปเป็นเจ้าของรถ แต่ยังไม่มีข้อมูลระบุว่าใครเป็นคนขับตอนที่ก่อเหตุ โดยขับผ่านบริเวณนี้

 

และกล้องวงจรปิดตัวที่ 4 ถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 4116 ใน หมู่ 8 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากเวลาที่ปรากฏในภาพวงจรปิด 02.01 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะปรากฏรถเฟอร์จูนเนอร์สีขาวคันแรกคาดเป็นรถที่ใช้ดูลาดเลาของผู้ต้องสงสัย ขับผ่านบริเวณนี้

 

กล้องวงจรปิดตัวที่ 5 บริเวณตรงถนนในชุมชนหมู่ 8 ห่างจากจุดสวนปาล์มของญาตินายสุทีปที่ตำรวจพบซากรถเก๋งผู้ต้องสงสัย 8.9 กิโลเมตร โดยช่วงเวลา 02.16 น. ( เวลาที่ปรากฏในภาพวงจรปิดไม่ตรง ที่ระบุในสคริปต์เวลาจริง) จะปรากฏรถเฟอร์จูนเนอร์สีขาว ขับผ่านบริเวณนี้ ก่อนจอดรถในซอย

 

ภรรยาเปิดปาก “พฤหัส”ไม่เกี่ยวข้องคดี ส่วน “สุทีป” ไม่รู้เกี่ยวหรือไม่ ยืนยันนายพฤหัสทำงานรับซื้อน้ำยางช่วงกลางวันที่นี่และกลางคืนก็อยู่ภายในบ้านพักกับภรรยาตลอด

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับครอบครัวนายพฤหัส ที่กำลังทำงานเป็นลูกจ้างได้รับซื้อน้ำยางสด โดยเราพบกับนายพฤหัส ผู้ต้องสงสัยคดีเสี่ยหมาส แต่ปรากฏว่าพอเห็นทีมข่าวไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเก็บภาพและปฏิเสธให้สัมภาษณ์ อ้างเพียงกำลังเร่งทำงาน และตอบสั้นๆเพียงว่าไม่ได้หนีไปไหน อยู่ในพื้นที่ตลอด

 

ต่อมาทางนางสาวอ้อม (นามสมมติ) ภรรยาของนายพฤหัส ออกมาชี้แจงแทนสามีว่า ตนเองและสามีไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ยืนยันที่ผ่านมาสามีอยู่กับตน ติดต่อได้ตลอด ไม่ได้หนี ซึ่งวันนี้เจ้าตัวก็มาทำงานกับครอบครัว เพราะครอบครัวเป็นลูกจ้างรับซื้อน้ำยาง

 

ตั้งแต่มีคดีนี้พ่อแท้ๆของนายพฤหัสก็พาเจ้าตัวไปให้การกับตำรวจ ก็ให้การกับตำรวจไปทั้งหมดแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องหนีแล้วก็ไม่ได้หนี จึงไม่ต้องกลัวอะไรเพราะก็ไม่จำเป็นต้องประกันตัวเช่นกัน ในส่วนวันที่ 1 และ 2 กุมภาพันธ์สามีตนเองก็มาทำงานที่นี่พอเลิกงานแล้วก็กลับไปอยู่กับตนเองที่บ้านพัก ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ส่วนพ่อตาสามีจะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ตนไม่รู้ และพ่อตาสามียังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ตนก็ไม่รู้อีกเช่นกัน

 

ครอบครัว “ชัย” ปิดปากเงียบ ไม่ให้ข้อมูลอยู่ในพื้นที่หรือไม่ / ขณะที่เพื่อนบ้านเห็นความผิดปกติตั้งแต่นายสุทีปเข้ามาอยู่ในชุมชนเมื่อไม่นานมานี้ เพราะปกติแล้วเจ้าตัวทำธุรกิจต่างอำเภอ น่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างก็เลยย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านพัก

 

ต่อมาเราเดินทางไปที่บ้านพักของชัยซึ่งอยู่ในพื้นที่ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีลักษณะยกสูง มีขนาดใหญ่และมีรั้วรอบขอบชิด บริเวณในบ้านมีเต็นท์และเก้าอี้จำนวนมากหลังจากมีพิธีบายศรีสู่ขวัญลูกสาวของชัยเมื่อวานนี้ ทีมข่าวพยายามสอบถามครอบครัวว่าเมื่อวานนี้ชัยมาที่งานหรือไม่แต่ปรากฏว่าไม่มีใครให้ข้อมูลปิดปากเงียบทุกคำถาม และเราพยายามจี้สอบถามอีกว่า ชัยยังอยู่ในพื้นที่หรือออกนอกพื้นที่แล้วก็ไม่มีใครตอบคำถามนี้เช่นกัน จากการสังเกตไม่พบชายและภรรยาของชายที่เป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนอยู่ภายในบ้านพัก

 

ขณะที่นายนะ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านบอกว่า ตนรู้จักทั้งนายพฤหัสและนายสุทีป ส่วนได้ชายเป็นคนในในพื้นที่เดียวกันแต่ไม่ได้สนิท นายพฤหัสเป็นคนเรียบร้อยไม่เกเรตั้งใจทำมาหากิน โดยจะช่วยแม่รับซื้อน้ำยาง ครอบครัวของนายพฤหัสมีนายสุเทพที่เป็นเจ้าของกิจการรับซื้อน้ำยางและมีเมียนายสุทีป ลูกสาวและลูกเขยเป็นลูกจ้าง ในสวนนายสุทีปตนไม่อยากพูดถึง แต่มองว่าผิดปกติ เพราะว่าปกติแล้วนายสุทีปที่จะทำธุรกิจที่ อ.ท่าศาลา แต่ไม่นานมานี้ย้ายกลับมาพักที่บ้านก็เลยมองว่าน่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ถามทั้งนายพฤหัสและนายสุทีปเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

 

ด่วน ตำรวจรุดคุ้มกันเจ๊อ้วนหวั่นถูกฆ่าปิดปาก

ขณะที่เวลาประมาณ 21.10 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวน 2 คน เดินทางมาที่บ้านของเจ๊อ้วน เท่าที่พูดคุยกับญาติเจ๊อ้วนเบื้องต้น ทราบว่า เจ๊อ้วนเป็นคนร้องขอเองเพื่อให้มาดูแลความปลอดภัย เนื่องจากกังวลว่าหากเสี่ยหมาสยังมีชีวิตอยู่ อาจจะมาทำร้ายตน เพราะเสี่ยหมาสเคยก่อเหตุทำร้ายภรรยาคนเก่ามาแล้ว

ที่แรก! เปิดหลักฐานขบวนอุ้ม "เสี่ยหมาส" ช่อง 8 บุกบ้านแก๊งอุ้มปิดปากเงียบไม่จ้อสื่อ