จากกรณีคลิปเด็กสาวถือถุงซิปล๊อกมียาบ้า 5 เม็ดไปค้าขายให้กับลูกค้าของแม่ และรับเงินมา โดยภาพแชตจะเห็นว่าเด็กสาวทักข้อความมาหาทาง กัน จอมพลัง ขอความช่วยเหลือ ระบุว่าจะเอาคนมาข่มขืน จะฆ่าลูกทั้งหมด ถ้าไม่ค้ายา อีกทั้งแม่เสพยาเสพติดให้เห็นในบ้าน และพ่นควันใส่หน้า ร้องขอความช่วยเหลือ หนูอยากออกห่างจากครอบครัว อยากหนีจากที่นี่ไว ๆ ไม่อยากเกี่ยวข้องกับการค้ายา ไม่อยากให้น้อง ๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ “หนูอยากไปอยู่กับพ่อ”
วันนี้ (29 มี.ค. 2567) ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน จังหวัด อุดรธานี พร้อม กัน จอมพลัง และ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย และทนายโนบิ รวมถึง เจ้าหน้าที่ พม. จ.อุดรธานี และ ป้องกันจังหวัด ปลัดอำเภอ เดินทางมายังพื้นที่เพื่อตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งไม่มี เลขที่บ้าน ในพื้นที่ ต.บ้านชัน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมปกครองลงพื้นที่ได้ ตามควบคุมตัว ป้องกันการหลบหนี โดยได้มีการล้อมบ้าน และตามหาตัว นางสาวกัลยา อายุ 37 ปี แม่เด็กที่หลบอยู่ในห้องน้ำ
ในระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงคนใช้ห้องน้ำ จึงได้เข้าไปเคาะประตูเรียก ก่อนที่นางสาวกัลยา (แม่เด็ก) จะขานตอบ บอกยังไม่เสร็จกิจ จนกระทั่งได้ยินเสียงเทน้ำลงโถ ก่อนจะเปิดประตูออกมา ซึ่งทางด้านแม่เด็กเองนั้นอยู่ในสภาพเหงื่อท่วมตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แสดงตัวและขออนุญาตตรวจค้นบ้านเนื่องจากทราบว่า มียาเสพติดในพื้นที่ โดยในระหว่างนั้นทางด้าน นางสาวกัลยา (แม่เด็ก) เองได้ยอมรับสารภาพว่าได้ มีการเสพยาเสพติดจริง และให้อนุญาตตรวจค้น เบื้องต้นทางด้านแม่เด็กเองนั้นไม่ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าซุกซ่อนยาอยู่ที่ใด
โดยในระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปลัด เจ้าหน้าที่ปกครอง ลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านทั้งหลัง ทั้งห้องน้ำ ราวตากเสื้อผ้า เตียงนอน หมอน และตามจุดตามมุมต่าง ๆ และในห้อง เมื่อตรวจค้นในห้องเองให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้มียาซุกซ่อนเอาไว้
ภายหลังกระทั่ง กัน จอมพลัง ได้เดินเข้าไปตรวจสอบในห้องน้ำอีกครั้งหนึ่ง กระทั่งจนพบว่ามี ห่อกระดาษทิชชู่เปียกซ่อนแอบเอาไว้ในถังน้ำที่คว่ำเอาไว้ โดยมีไม้วางปิดทับเอาไว้ จนตรวจพบ และเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จนพบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในห่อกระดาษทิชชู่เปียกจริง เป็นยาจำนวนกว่า 30 เม็ด โดยมีซองถุงซิปล็อกกว่าหลายถุงบรรจุอยู่ภายในห่อทิชชู่เปียก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นางสาวกัลยา (แม่เด็ก) มายังห้องน้ำเพื่อชี้จุด ตรวจพบจุดซุกซ่อนยาเสพติดติดและยอมรับสารภาพ เมื่อย้ำถามนั้นว่าลูกได้ขายส่งงานให้จริงหรือไม่ ภายหลังก็ยอมรับว่าจะให้ลูกส่งผักให้กับลูกค้าโดยในผักจะมียาซุกซ่อนอยู่ ลูกไม่รู้ว่าในผักมียา จนกระทั่งลูกมาทราบในภายหลังว่ามียาอยู่ภายในผัก
ต่อมา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบและยืนยัน และนางสาวกัลยา แม่เด็กรับสารภาพ ก็ได้ขอตัวไปเปลี่ยนชุดแต่งตัวเพื่อที่จะได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.บ้านดุง เพื่อดำเนินคดีต่อไป ในระหว่างนั้นแม่เด็กเองได้ขอเจ้าหน้าที่มากราบลาคุณพ่อ ซึ่งเป็นตาของเด็ก โดยระหว่างนั้นได้เดินเข้ามาใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ร้องไห้เสียใจ เนื่องจากเป็นการกราบลาพ่อที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน ซึ่งทางด้านแม่เด็กเองไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ร้องไห้โฮ ได้เพียงเดินเข้าไปโอบกอดพ่อ และก้มลงกราบแทบเท้า ซึ่งคุณตาเอง ได้พูดว่า "บอกแล้วว่ามันไม่ดี อย่าไปทำ" ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวแม่เด็กขึ้นรถเพื่อนำตัวไปสอบปากคำ และขยายผลเพิ่มเติม เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ที่ สภ.บ้านดุง ต่อไป
ทางด้าน กัน จองพลัง ระบุว่า บ้านหลังนี้พักอาศัยรวมทั้งหมด 5 คน แม่เด็ก ตา (เคยค้ายามาก่อน) เด็กหญิง 17 ปี เด็กหญิง 13 ปี เด็กหญิง 5 ขวบ โดยเด็กหญิงวัย 17 ปี และ 13 ปี ร้องขอให้ตนเองช่วยเหลือเนื่องจากว่า แม่ของเด็กเองนั้น ข่มขู่บังคับให้เด็กค้าขายยาเสพติดให้กับลูกค้าของแม่ โดยมีการแพ็กยาบ้าเป็นถุง ๆ ซิบล็อกแบบโปรโมชั่น 1 เม็ด 50 บาท 3 เม็ด 100 บาท 5 เม็ด 200 บาท
โดยแม่เด็กจะทำเป็นหลาย ๆ ห่อ ถ้าใครอยากรับมากกว่า 5 เม็ดนั้นต้องมารับที่บ้าน โดยลูกค้ามีอายุหลากหลาย ต่ำสุดคืออายุ 15 ปี สูงสุด 55 ปี แต่ในลูกค้าที่มาซื้อนั้นมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียนสวมใส่ชุดนัดเรียนมาซื้อ ในความหวังดีของแม่ที่ค้ายาก็ได้บอกว่าใส่ชุดนักเรียน มาซื้อยาบ้าให้เกียรติสถาบันด้วย ไม่ควรใส่มาซื้อให้ใส่ชุดนอกมา ซึ่งหากเด็กไม่ทำตามที่แม่สั่งนั้น แม่ได้ข่มขู่ฆ่าเอาชีวิตน้อง และตนเองมองว่าถ้าเป็นเช่นนี้ น้องจะอยู่ในสังคมที่ไม่ดีกลัวเด็กจะเป็นแม่ค้าค้ายาบ้า เพราะอยู่ในสังคมค้าขายยาบ้าเช่นนี้มานาน
ล่าสุดตนเองประสานทางผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดร ผกก.สืบสวน จังหวัดอุดรธานี ปลัดจังหวัด เนื่องจากประสานของใช้ทีมงานส่วนกลางทั้งหมดลงพื้นที่ เนื่องจากว่ากังวลถึงความไม่โปร่งใสหากใช้ทีมในท้องถิ่นท้องที่อาจจะมีการบกพร่อง หรือจะมีการฮั้วกันหรือไม่ จึงเน้นความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก ข้อมูลที่รวบรวมได้จากน้องนั้นคือ มีภาพแม่นั่งนับยาบ้า เอายาบ้าให้น้องไปส่ง ส่งยาบ้าที่บ้าน สภาพจิตใจน้องเกินกว่าที่เด็กจะรับไหวแล้ว
จากข้อมูลของครอบครัวนี้ น้องเองมักจะโดนขู่บังคับให้ค้าขายยาบ้าอยู่เสมอ ถ้าไม่ทำนั้นจะทำร้ายร่างกายหรือไม่ก็ข่มขู่ ว่าจะให้คนมาข่มขืนตัวน้อง น้องเลยกลัวกังวลมาก ส่วนคุณตาที่ป่วยติดเตียงนั้น เคยเป็นคนค้ายามาก่อนและแม่เด็กเองก็ป้อนยาให้ คุณตาเสพด้วย และที่สำคัญแม่ไม่เคยบังคับให้น้องเสพ แต่แม่จะเสพยาบ้าและพ่นควัน ระหว่างเสพยาใส่หน้าน้อง หวั่นว่าเหตุนี้จะทำให้น้องมีโอกาสติดยาได้ในอนาคต
ตนเองอยากตั้งคำถามว่าเป็นแม่ประสาอะไรที่หาผลประโยชน์ให้ตัวเอง เอาลูกมาค้ายา ขายยา เพราะเป็นเด็กอายุ น้อยกฎหมายทำอะไรไม่ได้ โทษเบา อีกทั้งค้ายาไม่เกิน 5 เม็ด ไม่นับว่าเป็นผู้ค้าขายยา อีกด้วยต้องการให้ลูกค้ายาเพื่อเอาเงินมาใช้เพื่อการส่วนตัว มองว่าไม่มีความเป็นแม่เหลืออยู่แล้ว ตอนนี้ยืนยันประสานทีมงานพร้อมแล้ว เพื่อเข้าตรวจสอบตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
ขณะที่น้องปิงปอง (นามสมมติ) เด็กอายุ 17 เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ปกติแล้วแม่ตนจะขายอยู่ที่บ้าน โดยจะมีคนแวะเวียนมาเอา และมีให้ตนไปส่งบ้าง โดยในแต่ละวันจะมีคนเข้ามาซื้อยาที่บ้าน 3-4 คนต่อวัน ซึ่งหากมีคนมาตนก็จะอยู่ในห้องกับน้อง ๆ ซึ่งเวลาที่แม่ให้ตนไปส่ง ตนก็จะถามเขาว่าทำไมถึงไม่ไปส่งเอง เขาก็จะมีต่อว่าข่มขู่ตนบ้าง ซึ่งไม่ถึงกับให้ตนไปส่งบ่อย พึ่งเริ่มให้ตนไปส่งเมื่อช่วงเดือนนี้ ตอนนี้ตนก็รู้สึกดีใจที่พี่กันเข้ามาช่วย ได้หลุดออกมาจากตรงนี้ น้อง ๆ จะได้ปลอดภัย
ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับนางสาวกัลยา แม่เด็ก เผยว่า มีเด็กอยู่ที่บ้านนี้ 4 คน เป็นลูกตนหมด ผู้หญิง 3 คน ผู้ชาย 1 คน ปกติแล้วตนไม่ได้ทำงานอะไรเนื่องจากเป็นมะเร็งปากมดลูก ไม่สามารถยกของหนักได้ ตนก็มีเงินใช้จากการขายยา โดยตนขายเม็ดละ 40 บาท ตนเพิ่งเริ่มทำได้ 7-8 เดือน โดยจะมีคนมาส่งยาให้ที่บ้าน ซึ่งก็เป็นคนที่เที่ยวไปมาหาปลาแถวนี้
ตนเองก็ใช้ลูกส่งยาโดยที่ตนจะซ่อนไว้ในผัก แล้วให้ลูกนำไปส่งตามที่ต่าง ๆ ตนไม่ได้บังคับอะไร โดยทีมข่าวได้ถามว่าอยากฝากอะไรถึงพ่อตนเอง กับลูก ๆ ทั้ง 4 หรือไม่ นางสาวกัลยาก็ไม่ตอบอะไร มีเพียงส่ายหัวปฏิเสธเท่านั้น