ผู้เสียหายร้อง ปคบ. ซื้อ "ทัวร์ทิพย์" เที่ยวเกาหลี-ญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ไป มูลค่าเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 เม.ย.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พากลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัททัวร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลอกขายตั๋วทริปท่องเที่ยวแล้วถูกลอยแพ เพราะบริษัทปิดกิจการหนี โดยบางส่วนไม่มีตั๋วเดินทาง ขณะที่บางส่วนมีตั๋วและเดินทางแล้ว แต่กลับถูกลอยแพขณะท่องเที่ยวอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่มีที่พัก และไม่มีรถบริการใด ๆ
นายสันติชัย สิกุล อายุ 51 ปี กล่าวว่า ตนและคณะจำนวน 31 คนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24-29 มี.ค. 67 โดยทั้งคณะเสียค่าใช้จ่ายไปกว่า 400,000 บาท จนกระทั่งวันที่ 26 มี.ค. จะต้องย้ายที่พักและเดินทางไปท่องเที่ยวยังหัวเมืองต่างๆ ปรากฏว่าทางหัวหน้าทัวร์ บอกว่า ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้โอนเงินมาให้ในส่วนที่จะไปต่อ ทำให้ตนเองต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือคณะที่ตนเองเป็นคนติดต่อหมดเงินไปอีก 500,000 กว่าบาท โดยหัวหน้าตัวเองก็บอกว่า ค่าแรงของเขาก็ยังไม่ได้รับ เกรงว่าคณะจะไม่ได้ไปต่อ จึงต้องชักเนื้อจ่ายค่าท่องเที่ยว เพื่อให้การเดินทางสามารถไปต่อได้ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยติดตามตัวเจ้าของบริษัทรายนี้มาดำเนินคดีให้ด้วย
นางวิมลวรรณ กล่าวว่า ตนได้จองตั๋วทัวร์กับบริษัท แห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง โดยเตรียมเดินทาง ภายในครอบครัว 6 คน ในเดือนเม.ย.นี้ หลังจ่ายเงินจำนวน 1,198,000 บาท และเตรียมตัวเดินทางใน วันที่ 9-17 เม.ย.67 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัว เคยใช้บริการท่องเที่ยวกับบริษัทนี้มาแล้ว 2 ครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วจู่ๆ ตนทราบจาก Agency หลายๆบริษัท ว่าบริษัทดังกล่าว ปิดกิจการไปตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. ตนเองพยายามติดต่อเจ้าของคือคุณแนตตี้ ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงต้องสูญเงินและไม่ได้ไปท่องเที่ยวกับครอบครัวตามที่ตั้งใจไว้
น.ส.เบญญาภา บุญวัฒนสิทธิ อายุ 42 ปี เล่าว่า ตนเองทำกิจการด้านท่องเที่ยว โดยมีสัญญา MOU กับประเทศเกาหลี และจะมีหน้าที่คอยดูแลความเป็นอยู่ support ให้กับนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวประเทศเกาหลี เพิ่งจะร่วมงานครั้งแรกกับบริษัททัวร์ดังกล่าว โดยตนประสานจองโรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวให้กับกลุ่มทัวร์ที่จะไป หมดเงินไป 4 แสนกว่าบาท แต่ไม่สามารถติดต่อกับทางบริษัทได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงต้องรวมตัวกันมาร้องทนายรณณรงค์ เพื่อขอความช่วยเหลือ
นายเอ. ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า ตนทำธุรกิจค้าขายส่วนตัว ได้จองตั๋วทัวร์กับบริษัทดังกล่าว โดยเตรียมเดินทางภายในครอบครัว 6 คน ในเดือน เม.ย.นี้ หลังจ่ายเงินจำนวน 1,198,000 บาท และเตรียมตัวเดินทางในวันที่ 9-17 เม.ย. 67 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวเคยใช้บริการท่องเที่ยวกับบริษัทนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วจู่ๆ ตนทราบจากเอเจนซี่หลายๆ บริษัท ว่าบริษัทดังกล่าว ปิดกิจการไปตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 67 ตนเองพยายามติดต่อเจ้าของบริษัท ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องสูญเงินและไม่ได้ไปท่องเที่ยวกับครอบครัวตามที่ตั้งใจไว้
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนพาผู้เสียหาย ซึ่งตอนนี้ทราบว่ามีเป็นร้อยราย ค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่ บก.ปคบ.ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ฝากเตือนผู้ที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ให้ศึกษา สืบเสาะให้ดี ว่าบริษัทที่จะไปมีความน่าเชื่อถือเพียงใด มิฮะนั้นอาจจะต้องมาเสียใจโดนเทในต่างประเทศแบบผู้เสียหายกลุ่มนี้ได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนปากคำผู้เสียหาย ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป