"ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด แจ้งความที่ สน.เตาปูน ให้เอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา 2 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน
วันที่ 1 เมษายน 2567 ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. รวมทั้งภรรยา และบัญชีม้า โดยทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ภรรยา และบัญชีม้า 2 บัญชี ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน โดยมีการนำหลักฐานเส้นทางการเงินชุดเดียวกับที่มอบให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จำนวน 175 แผ่น มามอบให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ซึ่งหลังจากเข้าแจ้งความแล้วจะเดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอคัดคำฟ้องที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นฟ้องและถอนฟ้องไปก่อนหน้านี้ ว่ามีข้อมูลใดที่เป็นเท็จหรือไม่
ทนายตั้ม ยืนยัน ว่าการเดินทางมาแจ้งความในวันเดียวกันกับที่ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีชุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน เกี่ยวกับการออกหมายเรียก เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยหลังจากที่เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ตนได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. มีความคืบหน้าว่า ในวันพุธ หรือพฤหัสบดีนี้ จะมีการนัดพยาน เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานนางสาวพิมพ์วิไล เครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์ และสายลับ
นายษิทรา กล่าวย้ำว่า ตนมั่นใจในพยานหลักฐาน เช่น การโพสต์จากวัด ซึ่งจะสามารถยืนยันได้ว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจในการควบคุมและสั่งการบัญชีม้าซึ่งรับส่วยมา เพราะหากไม่มั่นใจคงไม่กล้ามาแจ้งความ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีกลับสูง ล่าสุดมีคนแจ้งว่า พบวัด 2 แห่งที่มีลักษณะการดำเนินการคล้ายกับวัดที่จังหวัดนนทบุรี นอกจากนี้ ยังมีเส้นเงินที่พบว่าถูกโอนให้บุคคลในครอบครัวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอีกด้วย โดยวันนี้ตนมายื่นเรื่องไว้ก่อน และจะทำคำให้การเพื่อให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นแนวทางการสืบสวนในภายหลัง
สำหรับการเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน เนื่องจากเห็นว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ไปก่อนหน้านี้แล้ว พนักงานสอบสวนจึงน่าจะมีพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วว่า พิมพ์วิไล โอนเงินไปให้ใครบ้าง
ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากคดีถูกส่งไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็อาจกังวลเรื่องความล่าช้า ที่ผ่านมา ระหว่างที่มีการออกมาเปิดโปงประเด็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตัวเองค่อนข้างกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะไม่มีใครมาดูแล มีเพียงผู้นำฝ่ายค้านทักถามมา แต่ไม่มีอำนาจในการส่งคนมาดูแล ซึ่งในวันพุธนี้ (3 มี.ค. 67) ตัวเองจะนำพยานหลักฐานไปมอบให้ผู้นำฝ่ายค้านด้วย
นอกจากนี้ นายษิทรา ยังมองว่า หาก เป็นในประเทศอื่นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงปรากฏข่าวการทุจริต ฝ่ายรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ยังคงนิ่งเฉย โดยหลังจากที่ตัวเองได้โพสต์คลิปเสียงและข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บส่วย ก็พบว่ามีบางหน่วยงานที่เริ่มตื่นตัวบ้างแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังหรือไม่