เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดทวีการะอนันต์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานี จุดให้มีการประชุมคณะสงฆ์ โดยมีพระครูปริยัตยาคม เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีกานะอนันต์เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีและพระลูกวัดทวีการะอนันต์รวม 29 รูปเข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับประเด็นของอดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์และพระเกเร และฆราวาส ที่หากินกับวัด มีชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังการประชุมประมาณ50คน มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.เข้าร่วมประชุมพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อย

ดร.ประยุทธ์ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กรณีที่เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังมูลนิธิทนายกองทัพธรรมในหลายกรณี เป็นกรณีที่สร้างความลำบากใจให้คณะสงฆ์กับพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอคลลองหลวงก็คือกรณีที่มีข้อกล่าวหา ว่าอดีตเจ้าอาวาสรูปหนึ่งยังซึ่งต้องอธิกรณ์ ยังไม่มีการสอบสวนโดยคณะสงฆ์แต่ลาออกจากเจ้าอาวาสแล้วยังอยู่ภายในวัดแห่งนี้ แล้วมีปัญหาข้อครหาต่าง ๆ เรื่องการใช้อำนาจเรื่องเงินทอง สมัยอดีตที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส 9-10 ปีที่ผ่านมา สร้างความแตกแยกให้กับคณะสงฆ์ สร้างความลำบากใจให้แก่เจ้าอาวาสรูปใหม่ที่ต้องตั้งมาโดยชอบธรรม วันนี้จึงนำคณะทนายร่วมกับคณะสงฆ์มาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการจับระเบียบต่างๆ ซึ่งทางพระครูปริยัตยาคม เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ได้มีการทำหนังสือแต่งตั้งให้ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรมเป็นผู้จัดประโยชน์ของวัดและเป็นผู้ช่วยจัดระเบียบต่างๆภายในวัด

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า กรณีมีคลิปหลุดออกมาเป็นข่าวต่อสื่อมวลชนมากมายลงในโซเชียลวันที่ 23 ตุลาคม2566 กรณีที่อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์มีการช่วยตนเองจริงๆแล้วท่านต้องสึก ไม่ใช่มาอยู่ในวัดมาก่อความเดือดร้อนรำคาญเอาพักพวกมาคุมเงินวัดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปมูลนิธิทนายกองทัพธรรมเป็นผู้จัดการประโยชน์ของวัด วันนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการผู้จัดประโยชน์ของวัด ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องออกไป ไม่ออกตนเองจะดำเนินคดีทั้งหมด จริงๆแล้วพระเช่นนี้ต้องสึกควรสึกไม่ได้ควรอยู่คนไม่มาทำบุญจะทำเช่นไร เอกสารที่รับมาทั้งหมดจากอดีตเจ้าอาวาสทั้งหมดทำสัญญากู้ 11 ล้านบาท ทำในฐานะส่วนตัวไม่ได้ทำฐานะวัดเงินเข้าบัญชีส่วนตัวไม่ได้เข้าบัญชีวัดบัญชีรับ-จ่ายไม่มี ตนเองบอกไว้เลยว่าฝันไปเถอะ 11 ล้านตนเองจะไม่จ่ายสักบาทและตนเองจะดำเนินคดีทำเอกสารเท็จ เป็นเจ้าอาวาสต้องมีระเบียบวินัย บัญชีรายรับรายจ่ายจะต้องส่งไปยังสำนักพระพุทธศาสนาด้วยรู้หรือป่าวแล้วทำไมต้องเอาเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ทำไมไม่เอาเงินเข้าบัญชีวัด หลังจากนี้ตนเองจะนำทนายที่ประจำจังหวัดปทุมธานีเข้ามาทำงานที่นี่ทั้ง 7คน หลังจากนี้ตนเองจะตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดเงิน 11 ล้านมาได้อย่างไร ต่อจากนี้ไปวัดต้องสงบ

ด้านพระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า กรณีที่อาตมาทำผิดก็ได้ลาออก แต่ที่ไม่ยอมรับอยู่อย่างหนึ่งที่บอกว่าตนเองเป็นมาเฟีย กระด้างกระเดื่อง ตนเองถามหน่อยตนเองอยู่วัดนิ่งๆเช้ามาก็กวาดลานวัดตามปกติ ตนเองอยากให้ทนายตรวจสอบตนเองได้เลย เงินทองที่หาว่าตนเองยักยอกทรัพย์ของวัดสามารถตรวจสอบได้ และที่หาว่ามีปืนตนเองยืนยันไม่มีตนเองโดดเดี่ยวไม่เคยคิดโกงวัดตนเองรักวัดไมได้เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์แต่ตนเองรักวัดนี้ ตนเองไม่มีอำนาจไปว่าอะไรเจ้าคณะตำบล ตนเองทำอะไรรู้อยู่แก่ตัวเงินทองได้มาตนเองเคลียทั้งหมด

ขณะเดียวกันทนายทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้นำภาพที่ปรินท์ลงกระดาษเอสี่ให้อดีตเจ้าอาวาสดู ว่านี่ใช่ตัวท่านหรือป่าวทำไมท่านชักว่าว อดีตเจ้าอาวาสตอบว่าใช่ คนเราผิดพลาดไปต้องยอมรับเป็นธรรมดา ท่านลองถามดูพระทุกองค์ว่าใครไม่เคย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปอีกว่า จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกันจนเกิดเสียงดังจนต้องมีการเชิญตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดยอดีตเจ้าอาวาสยืนยันว่าจะไม่ออกจากวัดแห่งนี้ ทนายทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยังกล่าวว่าหลังจากนี้จะดำเนินการทางกฎหมายและพระธรรมวินัย พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ สุภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ยังกล่าวอีกว่า ฟังนะถ้าวัดทวีฉันอยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ไม่ได้ขู่นะตนเองขอชี้แจงบ้างนะ ตำบลพระกินเด็กพฤติกรรมท่านไม่ดีจนเกิดการโต้เถียงอยู่ครู่ใหญ่ จนนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานีต้องเข้าขอความร่วมมือให้สงบสติอารมณ์

ทางด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า การที่อดีตเจ้าอาวาสออกมาพูดเมื่อครู่นี้อยู่ในไลฟ์สดทั้งหมดพาดพิงใครดำเนินคดีหมดเราให้โอกาสท่านแล้ว การที่ตัวท่านเองมาพูดไปกล่าวหาว่าเจ้าคณะตำบลเลี้ยงเด็ก ผิดหมิ่นประมาทและดูหมิ่นคณะสงฆ์ด้วย เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนทั้งประเทศพิจารณาโดยใช้สติปัญญา อดีตเจ้าอาวาสที่ช่วยเหลือตนเองและมีการยอมรับ มีการนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัวและไม่ยอมลาสิกขาและออกไปจากวัด วันนี้คุณเป็นฮีโร่คุณเก่งคุณแน่แต่หลังจากนี้คุณจะมีแต่น้ำตา มีแต่ความทุกข์ยากลำบากเพราะมูลนิธิจะตรวจสอบทุกอย่างจะดำเนินคดีและร้องเรียน คดียิ่งกว่านี้ตนเองก็เจอมาแล้วสำหรับเคสนี้ตนเองไม่รู้สึกหนักใจ