ลุงสำราญยันชัดหากเก๋มางานศพคงต้องมีปัญหาแน่นอน ขอตัดปัญหาสั่งห้ามผ่านช่อง 8 ไม่ต้องมาเพราะกลัวงานศพวุ่นวาย
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยลุงสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พี่ชายของเสี่ยหมาส โดยลุงสำราญ ได้บอกกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า หลังจากที่มีการพบศพเสี่ยหมาส น้องชายแล้ว ก็รู้สึกดีใจที่ในที่สุดก็พบเสียที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตนเองและครอบครัวก็ถอดใจกันไปบ้างแล้วว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสที่จะพบกับเสี่ยหมาส น้องชายแล้วก็ตาม ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสื่อมวลชน ที่ช่วยกันตามหาเสี่ยหมาส น้องชายตนจนเจอและมีโอกาสจัดงานศพในวันนี้
ส่วนคนที่อยู่ในขบวนการอุ้มฆ่า ตนไม่มีอะไรจะคุยด้วยหรืออยากจะเข้าถามกลุ่มคนเหล่านี้เลยว่าทำไมถึงต้องทำกับเสี่ยหมาส น้องชายตนเช่นนี้ เพราะไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมกันอีกต่อไป แต่ก็มีเรื่องเดียวที่ติดใจ คือเรื่องของนายชัย เนื่องจากนายชัย ถือว่าเป็นเพื่อนรักของเสี่ยหมาส น้องชายตน ทำไมถึงกล้าทำกับเพื่อนเช่นนี้ อย่างไรก็ตามตนก็คงไม่ไปถามนายชัยตรงๆ แต่อยากจะให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายชัยต่อไป และให้กฎหมายลงโทษนายชัยเองดีกว่า
และสำหรับเรื่องของนางเก๋ ที่จะมาหรือไม่มางานศพของเสี่ยหมาสนั้น ตนก็ไม่รู้ใจตนของนางเก๋ ว่าตอนนี้คิดอย่างไร แต่ภายในครอบครัวเอง ก็ได้มีการพูดคุยปรึกษากันเรื่องของนางเก๋ ว่าจะเอาอย่างไรดี โดยตนก็ยอมรับว่าภายในครอบครัวหลังจะคุยกันเรื่องนี้ก็มีเสียงแตก โดยพี่น้องบางคนก็อยากให้มา เพราะยังไงเสี่ยหมาสก็รักนางเก๋ พี่น้องบางคนก็ไม่อยากให้มาเพราะเชื่อว่านางเก๋คือตัวปัญหาที่ทำให้เรื่องราวบานปลายจนเป็นแบบทุกวันนี้ หากมาจะก็ขอชี้หน้าด่ากันสักตั้ง ดังนั้นแล้วในฐานะที่ตนเป็นผู้ดูแลงานดังกล่าว จึงมองแล้วว่าหากนางเก๋ เดินทางมาที่งานศพ ก็เชื่อว่าจะต้องมีเรื่องราววุ่นวายด่าทอตบตีกันอย่างแน่นอน จึงขอบอกให้นางเก๋ ทราบเลยว่านับตั้งแต่นี้ไป ตนไม่ต้องการให้นางเก๋ เดินทางมาที่งานศพเสี่ยหมาสเด็ดขาด เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา เพราะหากมาแล้วเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้น ตนคงจะรับผิดชอบไม่ไหว อีกทั้งคนที่มาร่วมงานก็คงจะมองครอบครัวตนไม่ดีแน่ๆหากเกิดอะไรขึ้น หรือหากอยากจะมาจริงๆ แนะนำให้ไปจัดงานเอาเองน่าจะดีกว่า
นอกจากนี้เรื่องของการเชิญดวงวิญญาณเหตุใดถึงมาเชิญที่บ้านเจ๊อ้วน เรื่องนี้ตนเป็นตัวตั้งตัวตี เนื่องจากตนเชื่อว่าเสี่ยหมาส น้องชาย น่าจะเสียชีวิตภายในบ้านแน่นอน เพราะว่าการที่จะมัดมือมัดเท้าได้ มันต้องมีการทำร้ายกันตั้งแต่ที่บ้านจนเสียชีวิต แล้วค่อยเอาศพไปฝังที่อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนเรื่องที่ลูกๆของเจ๊อ้วน ถูกเจ๊อ้วนสั่งไม่ให้มางานศพเสี่ยหมาสก่อนหน้านี้นั้น เมื่อวานที่ผ่านมาลูกๆของเจ๊อ้วน ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตน โดยโทรมาขอบคุณที่ดูแลแม่ตนเป็นอย่างดี ถึงแม่ตนจะเป็นคนสั่งฆ่าเสี่ยหมาสก็ตาม และขอโทษที่ตัวเองมองว่าตนนั้นหวังผลประโยชน์กับแม่ เนื่องจากชอบมาทำดีด้วย ซึ่งตนก็ได้ตอบกลับไปว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยคิดร้ายกับเจ๊อ้วนเลยแม้แต่น้อย และเจ๊อ้วนเองก็เป็นคนช่วยเหลือญาติพี่น้องตนเป็นอย่างดีเช่นกัน ดังนั่นตนก็ต้องดูแลเจ๊อ้วนให้ดีที่สุด ถึงแม้จะทำผิดพลาดลงไป อีกทั้งเรื่องดังกล่าวตนก็ไม่อยากจะโทษเจ๊อ้วนอย่างเดียว เพราะตนก็มองว่าเรื่องนี้พอกันทั้งเจ๊อ้วนและเสี่ยหมาส เนื่องจากเสี่ยหมาสก็ผิดที่นอกใจเจ๊อ้วน ไปหานางเก๋แบบนี้
วันนี้ (2 เม.ย.) มีนายมัส (นามสมมติ) ชาวบ้านมาแจ้งเบาะแสกับทีมข่าวว่า ตอนเองอยู่ในละแวกหมู่บ้านเดียวกันกับนายวีรภัทร หรือเหลน ซึ่งเหลนใช้ชีวิตคู่กับภรรยาคนล่าสุดและย้ายมาอยู่ที่บ้านพักของภรรยาได้ประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าตัวเป็นคนสุภาพเรียบร้อยและตั้งใจขยันทำงาน โดยตื่นแต่เช้าไปกรีดยาง บางครั้งก็จะเห็นเจ้าตัวปลูกแปลงผักสวนครัวหน้าบ้านพัก ในส่วนภรรยาก็เป็นคนขยันเช่นกันทำงานอยู่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งทำคู่หลังเลิกงานก็จะอยู่ติดบ้านตลอดเวลา ไม่เคยหายตัวออกจากบ้านพัก
แต่ก่อนเจอศพเสี่ยหมาส ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ได้เจอทั้งเหลนและภรรยาที่งานศพ เหลนมีท่าทีปกติไม่ได้เครียดอะไรและก็ใช้ชีวิตปกติไปกรีดยางและปลูกผักสวนครัว
แต่มีเหตุการณ์ปกติหลังจากพบศพเสี่ยหมาสที่ปรากฏตามข่าวช่อง 8 พอเช้าวันต่อมาก็ปรากฏว่าไม่เห็น “เหลน” อยู่ที่บ้านพัก ขณะที่ภรรยาก็ไม่เห็นอีกเช่นกัน โดยไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปอยู่ที่ไหน ซึ่งผิดปกติมากๆเพราะทั้งคู่จะอยู่บ้านตลอด
ตนตกใจมากที่ทราบว่าเหลนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเสี่ยหมาส ซึ่งหลังเจอศพก็มีตำรวจมาวนเวียนในพื้นที่นี้คาดว่าคงเอาหมายจับมาที่บ้านพักภรรยาของเหลน ไม่เคยคาดคิดว่าเหลนจะไปเกี่ยวข้อง ส่วนที่ชาวบ้านเขาลือกันว่า “เหลน” ไปทำงานที่กรุงเทพ ตนก็มองว่าก็เป็นแค่ข่าวลือ
ตนไม่คิดว่าที่เคยเห็นว่าดูภายนอกเป็นคนดี แต่ลับหลังคือฆาตกร ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีตำรวจเข้ามาหาอีกแต่ก็ไม่เจอตัว ก็คิดว่าเหลนคงจะหนีไปแล้ว เพราะหากบริสุทธิ์ใจก็คงไปมอบตัวกับตำรวจแล้ว ในส่วนที่ถามตนว่า “เหลน” เคยมีประวัติก่อนหน้านี้หรือไม่ตนก็ไม่เคยเห็นเจ้าตัวถูกจับคดีอะไร แต่เมื่อไม่นานมานี้มีรุ่นพี่ของเหลนถูกตำรวจจับเกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติด
ขณะที่นายภพ (นามสมมติ) พ่อของนายวีรภัทร หรือ เหลน ผู้ต้องหาในคดีซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังตามตัวอยู่ บอกว่า ในส่วนที่เพื่อนบ้านลูกสะใภ้บอกว่าเหลนไปทำงานที่กรุงเทพ ตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่เพราะยังไม่ได้ยินจากปากเจ้าตัวและยังติดต่อไม่ได้ ตนก็อยากให้ลูกติดต่อมาแต่ก็ไม่รู้ว่าลูกจะสะดวกติดต่อตนเองหรือไม่ เพราะก็อยากให้ลูกมามอบตัว
ตนไม่ทราบว่าลูกสร้างปัญหาดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาลูกไม่เคยสร้างปัญหาหรือสร้างความหนักใจให้พ่อแม่เลย ลูกเป็นคนตั้งใจทำงาน ทำงานกรีดยางพาราและรับเหมาซื้อไม้ยาง เพื่อเก็บเงินให้ที่บ้าน จนกระทั่งสามารถซื้อที่ดินและสร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่ เขาสร้างฐานะมาด้วยตัวเอง
และประเด็นที่ลูกชายตนสนิทกับเสี่ยชัยหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะลูกชายไม่ได้อยู่บ้านพักเดียวกันกับตน ซึ่งตอนนี้ครอบครัวตนก็ไม่ได้ติดต่อกับลูกสะใภ้ อยากจะบอกว่าที่ลูกชายถูกออกหมายจับพ่อแม่ก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา ก็อยากให้ลูกชายออกมาพูดคุยกับตนเองจะได้แก้ปัญหาต่อไปได้ถูก