จากกรณีที่ทนายอนันต์ชัย เข้าตรวจสอบวัดทวีการะอนันต์ หรือ วัดสีชมพู จ.ปทุมธานี หลังจากปรากฎคลิปฉาวอดีตเจ้าอาวาสช่วยตัวเอง และมีพฤติกรรมเป็นพระมาเฟีย บริหารจัดการเงิน ซึ่งตรวจพบการกู้ยืมจจากญาติโยมหลายคนรวมเงิน 11 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้ ไม่มีการทำบัญชีวัด แต่พบว่าเป็นเงินโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส ที่อ้างว่านำมาพัฒนาวัด




ล่าสุดวันนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่สอบถาม อดีตท่านเจ้าอาสวัดดังกล่าว พระธรรมธรฐิติศักดิ์ สุพัตโต หรือ หลวงพี่ดำ เผยกับทางทีมข่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวานที่ลั่นวาจาไปว่า "พระที่นั่งอยู่ใครไม่เคยสาวหนอนบ้าง" ต้องขอโทษประชาชนทุกคนด้วย ที่อาจแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยตัวเองยอมรับในเรื่องที่ทำผิดไป แต่ก็ไม่ควรให้ถึงขั้นสึกแค่ปลงอาบัติก็พอแล้ว ยังคงยืนยันคำเดิม ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด ย้ำชัดอย่าหูเบา หลงเชื่ออะไรแค่ด้านเดียว




ในส่วนของข้อครหาว่าตัวเอง ยักยอกเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัว ตัวเองไม่เคยปิดบังเลย ด้วยโพสต์เปิดเผยกับชาวบ้านมาตลอด แต่เหตุผลที่ต้องโอนเข้าบัญชีส่วนตัวนั้น เป็นเพราะจะได้เห็นรายละเอียดและความชัดเจนของจำนวนเงินเข้า-ออก เพราะมิเช่นนั้นก็อาจก่อให้เกิดความสับสนได้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างก็เป็นข้อมูลเปิดเผย ทุกครั้งที่มีการเรี่ยไรเงินเข้าวัด ตัวเองก็จะโพสต์ข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ทุกอย่างมีหลักฐานชัดเจน มีเอกสารครบถ้วนพร้อมยืนยัน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มา ก็ไม่ได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัว ล้วนนำมาพัฒนาวัดทั้งสิ้น ทุก ๆ พื้นที่ของวัด ตัวเองเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย จนทุกวันนี้วัดก็เป็นอย่างที่เห็น พัฒนาอย่างก้าวกระโดดและเจริญขึ้นมาก




ที่ผ่านมาหลวงพี่ดำได้ร่วมกับเจ้าอาวาสรูปเก่าช่วยกันหาเงินพัฒนาวัดมาโดยตลอด 10 กว่าปี และหลังจากอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่ามรณะภาพไปในปี 2556 หลวงพี่ดำก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสแทนในปี 2557


ซึ่งหลังจากที่หลวงพี่ดำได้มาเป็นเจ้าอาวาสก็ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดินเพิ่มร่วม 10 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่วัด สร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ เช่น ศาลา สวนป่า เมรุ ศาลาสวดพระอภิธรรม ท้าวเวสสุวรรณ องค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อเป็นที่สักการะบูชาให้กับประชาชน และที่สำคัญได้ช่วยเหลือญาติโยม โรงเรียนที่ขาดแคลนทั่วไปจำนวนมาก ซึ่งนี่เป็นสิ่งดี ๆ ที่ได้ทำไว้ จนวัดเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้


ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานภายในวัด รวมถึงสร้างและปรับปรุงพัฒนาวัด จะมาบอกว่าเอาเงินเข้าบัญชีตัวเองเท่ากับการยักยอกมันไม่ถูกต้อง เพราะตนเอาไปใช้จ่ายและซื้อของในการจัดงานและปรับปรุงวัดทั้งสิ้น


ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 11 ล้านที่ถูกกว่าวหาว่ายักยอกไปนั้น หลวงพี่ดำได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ยักยอก แต่เป็นการเอาไปจ่ายหนี้ เพราะได้ไปกู้ยืมเงินเขามา คนแรกได้ไปกู้มาจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อมาจัดงานประจำปี 2566 และการจัดงานขาดทุนไป 3-4 ล้าน มีเงินไปใช้หนี้เพียง 300,000 บาท เท่ากับยังคงมียอดคงค้างอยู่ 4,700,000 บาท (ในตอนนั้น)

 


ต่อมาเมื่อปี 2565 ได้ไปยืมเงินอีกเจ้านึงมาจัดงานอีกจำนวน 1,800,000 บาท แต่ก็ขาดทุนเช่นเดียวกัน ในตอนนั้นไม่มีเงินไปคืน และอีกเจ้า ก็ได้ไปกู้มาจำนวน 1,800,000 บาท เจ้านี้ใช้ไปแล้ว 900,000 บาท จึงได้นำเงินส่วนที่พี่น้องบริจาคมานำไปใช้หนี้ และนอกจากนี้หลวงพี่ก็ยังได้ทำโรงทานเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน บางครั้งนาน 1-2 เดือน ดังนั้นเงินที่ได้รับจากการบริจากมา นอกจากจะเอาไปพัฒนาปรับปรุงวัดแล้ว ยังต้องเอาไปใช้หนี้ที่ยังคงค้างเหลืออยู่อีกด้วย ซึ่งตอนนี้หนี้ต่างๆ ก็ยังใช้ไม่หมดเลย เหลือประมาณ 300,000 บาท


และตอนนี้ถูกกล่าวหาว่ายักยอกอยากจะชี้แจงและให้เห็นว่าบริสุทธิ์ใจ เพราะหากคนไม่บริสุทธิ์ใจเค้าหนีไปแล้ว ตอนนี้หลวงพี่รู้สึกน้อยใจมากที่ถูกกล่าวหาและโจมตี เพราะที่ผ่านมาหลวงพี่คอยช่วยเหลือญาติโยม และทำนุบำรุงศาสนามาโดยตลอด


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ยุติธรรมต่อตัวเอง ในส่วนผิดก็ยอมรับ แต่ในส่วนที่คิดว่าตัวเองไม่ผิดก็จะสู้จนถึงที่สุด ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่สึกแน่นอน แม้จะมีใครเข้ามาร่วมขับไล่ก็ตาม และเชื่อว่า ชาวบ้านที่ยังศรัทธา พร้อมปกป้องตัวเองก็มีอีกมากมาย เพราะตัวเองเคยช่วยเหลือชาวบ้าน ในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าเป็นใครเดือดร้อนมา ก็ให้อาศัยที่อยู่ ที่กิน ช่วยเหลือหมดทุกคน
ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวอ้าง ว่าเป็นพระมาเฟีย ตัวเองยังงงอยู่ว่าเอามาจากไหน ด้วยไม่เคยมีพฤติกรรม ตามคำกล่าวอ้าง ไม่เคยพกปืนเดินในวัด ไม่เคยทำตัวกร่างหรือข่มขู่ใคร ทั้งยังช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด


สุดท้ายฝากไปถึงทนายอนันต์ชัย เรื่องบางเรื่องควรฟังความทั้งสองข้าง ควรคิดไตร่ตรอง และตรวจสอบทุกอย่างให้ถี่ถ้วน ทั้งควรพิจารณาความเป็นไปได้ ส่วนตัวไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่ต้องปกป้องตัวเอง ถ้าตัวเองไม่ดีจริงคงไม่มีชาวบ้านรักและศรัทธามากมายขนาดนี้ หลังจากนี้จะมีทีมทนาย เข้ามาให้การช่วยเหลือ และพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป




ด้านป้าแจ๋ว อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดใจกับทีมข่าวพร้อมน้ำตาคลอ บอกว่า ตัวเองรักและศรัทธาในตัวอดีตท่านเจ้าอาวาสเป็นอย่างมาก เพราะท่านได้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านมาเป็นเวลานาน ไม่ว่าใครมีเรื่องเดือดร้อนมาจากไหนก็พร้อมช่วยทั้งหมด เมื่อวานตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยอมรับว่าเดือดมาก เพราะสิ่งที่ทนายอนันตชัยพูด ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พระท่านถูกใส่ร้าย ในส่วนที่ท่านทำผิดพลาดไป ตัวเองมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นไปอย่างที่ท่านพูด พระท่านอื่น ๆ ก็คงต้องเคยทำ แค่ไม่มีคลิปหลุดมาเปิดเผยในที่แจ้งแบบนี้




ในส่วนของเรื่องการโกงเงิน มองว่าทนายทำหน้าที่อย่างไม่เป็นกลาง ควรสอบถามคนในพื้นที่มากกว่าไปเชื่อคนอื่น เพราะชาวบ้านย่อมรู้ดีที่สุด เงินทุกบาททุกสตางค์ ท่านก็นำมาพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปี


วันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวเองและชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมจะปกป้องท่านเจ้าอาวาสอย่างถึงที่สุด จะไม่ยอมให้ท่านศึกไปไหนเด็ดขาด ในส่วนของเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ก็ยินดีต้อนรับให้เข้ามาจำวัดได้ตามปกติ ตัวเองและชาวบ้านไม่มีใครไปขับไล่หรือต่อต้านอย่างแน่นอน ขอแค่ให้ ท่านเจ้าอาวาสองค์เก่า ได้อยู่ในวัดตามปกติในส่วนของท่านก็พอ

 

"หลวงพี่ดำ" เปิดใจ ถูกลวงถ่ายคลิปสยิว ชาวบ้านแฉ พระองค์อื่นก็ทำแต่คลิปไม่หลุด