"ผบช.สอท." ปัด ออกหมายจับ "บิ๊กโจ๊ก" โยงสนองนโยบายรัฐ ยันคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวข้อสั่งการนายกฯ 30 วัน
ตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวขอบคุณ นายกรัฐมนตรี ที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เชิญตำรวจ สอท. มาประชุมในวันนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการชัดเจนเมื่อวันที่ 1 เมษายนนี้ ให้ร่วมปฏิบัติการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะผู้กระทำความผิดรายใหญ่ โดยรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์ ได้ออกคำสั่งให้ระดมกวาดล้างเว็บไซต์และการพนันออนไลน์ทั้งหมด
ส่วนทาง สอท. ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมแผนดำเนินการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็ก ตัวกลาง ตัวใหญ่ แล้วจะรายงานผลปฏิบัติทุกสัปดาห์ โดยผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ
เมื่อถามว่าระยะเวลา 30 วันในการจับกุมรายใหญ่เพียงพอหรือไม่ พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวว่า นโยบายของนายกรัฐมนตรี เราก็ต้องพยามเต็มที่และคิดว่าสามารถทำได้
เมื่อถามว่า กดดันหรือไม่เพราะมีระยะเวลา 30 วัน พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกันอยู่แล้ว แต่เมื่อนายกให้กรอกเวลามา เราก็ต้องเอากรอบเวลาเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการทำงาน
เมื่อถามต่อว่า การออกหมายจับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล เป็นการสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ที่ขีดเส้นใต้ 30 วันหรือไม่ พลตำรวจโทวรวัฒน์ ระบุว่า ไม่เกี่ยวกับตน พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวกันเพราะประเด็นนั้นเป็นเรื่องของคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่
ส่วนได้มีการพูดคุยกับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หรือไม่ พลตำรวจโทวรวัฒน์ ระบุว่า ไม่ หากพูดคุยก็เหมือนเป็นการไปฮั้วกัน ซึ่งตรงนั้นเป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบ
เมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้หากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง พลตำรวจโทวรวัฒน์ ย้ำว่า เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ระบุ และด้วยจากการที่รัฐมนตรีดิจิทัลฯ และนายกรัฐมนตรีกำชับ ก็คงไม่มีใครกล้า
เมื่อถามต่อว่า ที่เปิดเผยว่ามีข้อมูลรายใหญ่และรายเล็ก พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวว่า ขอให้รอดู
เมื่อถามต่อว่า รายใหญ่มีชื่อ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ รวมอยู่หรือไม่ พลตำรวจโทวรวัฒน์ รีบปฏิเสธทันที พร้อมกับระบุว่าอย่านำไปโยง