"เศรษฐา" ลั่น ผมเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล จะนำชัยชนะกลับสู่ "เพื่อไทย" ในเลือกตั้งครั้งหน้า โวองค์ประกอบพร้อม "รมต." เพียบ ยอมรับ 2 วันที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ ไม่เคยคิดจะมายืนบนเวทีให้ถูกต่อว่า ต้องกัดฟันและรับรู้ แต่เมื่อมาแล้วก็ต้องทำต่อไป

นายศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้ ตนขอพูดในฐานะ "นายกฯ" มาให้ความกระจ่างเรื่องนโยบาย และพูดจากใจในฐานะสมาชิกพรรค เรื่องแรกที่ผ่านมา เราทำการต่างประเทศเชิงรุก และการส่งเสริมการลงทุน ก็ต้องบินไปต่างประเทศบ้าง แต่ตนไม่ได้ชอบบินไป จะเป็นแมลงวันหรืออะไรก็ตามทีฟังแล้วตลก ถือเป็นสีสันในชีวิต สอบถามคนที่ไปกับตนได้เพราะไม่ได้สบายเลย และการจะลงทุนเป็นแสนล้านเขาจะตัดสินใจใน 7 เดือนหรือขอให้อดทน อีก 2 ปีข้างหน้าจะเป็นสึนามิแห่งการลงทุนในทุกภาคส่วน

อย่างเรื่องแลนด์บริดจ์ หลายคนอาจมอง ว่า เราเป็นคู่แข่งสิงคโปร์ แต่เมื่อโครงการนี้เสร็จไม่ ว่าจะ 10 หรือ 15 ปี ข้างหน้า ช่องแคบมะละกาอาจไม่เพียงพอ และไม่ใช่แค่ด้านการลงทุน ซึ่งจุดยืนของไทยเป็นกลางในเวทีโลกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เมื่อโครงการแลนด์บริดจ์แล้วเสร็จจะไม่มีใครมาคอนโทรลการขนถ่ายสินค้าจากอันดามันไปอ่าวไทยได้นอกจากประเทศไทย ทุกประเทศจะต้องการการขนถ่ายสินค้าจากแลนด์บริดจ์ ทำให้เราเป็นมหาอำนาจเล็กๆ ทางเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องพึ่งพา

 

 

นายศรษฐา กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยและในฐานะน้องใหม่ที่เข้ามาที่นี่ 13 เดือน เป็นเวลาอันสั้นที่ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ตอนอายุ 60 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย และ 2 วันที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่ ไม่เคยคิดว่าจะไปยืนบนเวทีถูกต่อว่า ซึ่งหลายเรื่องไม่จริง แต่ต้องกัดฟันและรับรู้ ไม่คิดว่าจะมาตรงนี้ แต่เมื่อมาแล้วก็ต้องทำต่อไป

นายศรษฐา กล่าวว่า ตนได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราแพ้เลือกตั้งฟังแล้วบีบหัวใจ แต่มันคือความจริง 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนในฐานะสมาชิกพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็มีความเจ็บปวด ต้องยอมรับ ไม่ว่าความอ่อนหัดด้านการเมือง เข้าถึงประชาชนไม่เต็มที่ ไม่ได้ไปดีเบต ไม่เถียงอะไรทั้งสิ้น พร้อมน้อมรับทุกข้อกล่าวหา

"ขอเรียนว่าผมเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล ทักษิณบอกว่าผมเป็นนายกช่วงการเปลี่ยนผ่าน ตนไม่ใช่คนอายุน้อย ถ้าได้เห็นประวัติทุกท่านทราบชีวิตตนครบทุกอย่าง แต่ที่ก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่ตนปรารถนาในชีวิตต้องนำการเปลี่ยนผ่านที่เป็นบวก และนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนบอกเพื่อน ครอบครัว อย่างเดียวในชีวิตที่ตนต้องการคือชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรจะทำให้ตนทำไม่ได้จะทุ่มเทกายและใจใน 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา อดีตที่ผ่านมามีทั้งความขมขื่น ไม่ว่าจะถูกยุบพรรค 2 หน วาทกรรมที่ถูกต่อว่า แม้เป็นคนหน้าใหม่แต่จิตวิญญาณของตนก็เหมือนพวกท่าน อยากบอกว่าเรามองอนาคตที่สดใสดีกว่าที่เรามาร่วมในวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ เรามี 141 เสียงจาก 500 เสียง วันนี้เรามีรองประธานสภาฯ มีนายกฯ มีรองนายกฯ 3 คน ดูแลความมั่นคง มีกระทรวงคมนาคม เราควรโฟกัสเรื่องเหล่านี้หรือไม่ แทนที่จะไปโฟกัสว่าพรรคเพื่อเขาได้อะไร"

 

 

นายศรษฐา กล่าวว่า ฝรั่งมีสำนวนว่า สนามหญ้าอีกข้างของรั้วจะเขียวกว่าสนามหญ้าตัวเอง แต่เราจะเห็นสนามหญ้าบ้านเราตรงไหนมีหลุม มีมูลสุนัขจะได้ไม่เหยียบ วันนี้สนามหญ้าบ้านเราอาจไม่เขียวแต่เรามีปุ๋ย มีน้ำ มีรถตัดหญ้าที่ดีกว่า มาช่วยกันทุกคนเพื่อให้สนามหญ้าบ้านเราเขียวขจีได้หรือไม่ นี่คือบ้านเรา เราต่อสู้กับอดีตที่ขมขื่น แต่มีอนาคตที่มีแสงสว่าง มี 141 เสียงในวันนี้แต่เราจะมีเยอะขึ้นอีก

นายศรษฐา กล่าวต่อว่า เราทุกคนอยากให้พรรคเจริญก้าวหน้า มีหัวหน้าพรรคมุ่งมั่น มีคนรุ่นใหม่ มีผู้อาวุโสที่คอยประคอง มีอดีตนายกที่ป็อปปูล่ามากสุดในวงการการเมืองไทยกลับมาแล้ว และท่านมีนายกฯ ที่มีจุดประสงค์เดียวในชีวิตคือชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ เพียงพอหรือไม่ให้พรรคเราเดินไปข้างหน้าได้ ขอให้มั่นใจนายกคนนี้ ตลอดเวลา 3 ปีครึ่งไม่ว่าต่างจังหวัดหรือที่ไหน เราจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน