ทนายตั้ม หอบหลักฐานพาตัว "พิมพ์วิไล" บัญชีม้า - สายลับ เข้าให้ข้อมูลตำรวจ อ้างโยงถึง ผบ.ตร. และอีกหลายกองบัญชาการ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 เม.ย.ที่สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางนำหลักฐานเข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน พร้อมพา น.ส.พิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) ผู้โอนเงินเข้าบัญชีม้า มาพร้อมกับ นายสัญญวีณ์ สาสุธรรม ทนายความ รวมถึงสายลับอีก 1 นาย เพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินโดยอ้างว่ามีความเชื่อมโยงถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และภริยา ในคดีเว็บพนันออนไลน์ "BNK MASTER"
นายษิทรา กล่าวว่า เป็นแผนผังเส้นทางการเงินที่นางพิมพ์วิไล ที่โอนเงินจ่ายค่าสินบนให้กับบัญม้าต่างๆ เกือบ 10 เส้น ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานตำรวจอีกหลายหน่วยงาน มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน โดยมี นางสาวพิมพ์วิไล และพยานบุคคลที่เป็นสายลับเจ้าหน้าที่ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในคดีที่ตัวเองฟ้องร้องเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภรรยา และบัญชีม้า รวม 4 คน ด้วย
ชมคลิป : "ทนายตั้ม" พาพยานสำคัญ ให้ข้อมูลเพิ่ม ที่ สน.เตาปูน
นายษิทรา กล่าวอีกว่า บุคคลที่พามาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ คือนางสาวพิมพ์วิไล ที่มีชื่อบัญชีเป็นบุคคลที่รับเงินจากเครือข่ายเว็บพนัน ก่อนโอนให้กับบัญชีม้าหลายบัญชี วันนี้จึงประสานให้มาให้ข้อมูล โยงถึงเส้นทางการเงินให้กับหน่วยงานตำรวจหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะบัญชีนายคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยาเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโอนจ่ายให้กับตำรวจไซเบอร์เดือนละ 1 ล้านบาท รวมถึงให้การถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเงินไปจ่ายให้กับตำรวจที่กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ หรือตำรวจคอมมานโด ด้วยว่ามีบุคคลไหนเกี่ยวข้องบ้าง
นายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า หลักฐานเส้นเงินที่นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนในวันนี้ นอกเหนือจากเครือข่ายที่โยงไปถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์แล้ว หากมีเส้นเงินไปถึงใครก็ตามแม้จะเป็นคนที่ตนเองรู้จัก หรือสนิทกับตัวเองก็ตาม โดยสายลับที่ประสานมาพบกับพนักงานสอบสวนวันนี้ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ขอไม่ให้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับพนักงานสอบสวน ของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เข้าสอบปากคำบุคคลทั้งสอง ที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูนในวันนี้ด้วยเช่นกัน
โดยสัปดาห์ต่อไป ในวันอังคารตนเองจะนำหลักฐานชุดนี้ไปยื่นให้กับ พล.ต.ท.เรวัต กลิ่นเกษร ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. โดยเช่นกัน
ขณะที่ นางสาวพิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) บัญชีม้าพยานปากสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคนโอนให้กับบัญชีม้า อย่าง คชาชาญและ ณัฐพงศ์ ฯ ซึ่งสื่อมวลชนพยายามสอบนางสาวพิมพ์วิไล ฯ ถึงการเดินทางมาให้การในวันนี้ด้วยตัวเอง และการนำข้อมูลทั้งหมดมาเปิด โดยระบุว่า วันนี้พร้อมให้ข้อมูลกับทางตำรวจทุกอย่าง โดยยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง และยอมรับว่าตนเองเป็นคนโอนเงินจ่ายหลักล้าน แต่ไม่ขอตอบว่าโอนเงินให้กี่หน่วยของตำรวจบ้าง เชื่อว่าข้อมูล สเตทเม้นท์ หรือ บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด
ส่วนประเด็นว่ามีการโอนเงินจ่ายให้กี่ปีแล้ว นางสาวพิมพ์วิไล ระบุว่า จำไม่ได้ว่ากี่ปี แต่ยอมรับว่าทำหน้าที่หลักคือโอนเงิน โดยได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนให้ทำบัญชี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย ที่มาวันนี้ไม่มีใครบังคับ และไม่มีใครข่มขู่ในการเดินทางมา และพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และเต็มใจมาเปิดข้อมูลเอง แต่ยอมรับว่าหลังจากให้ข้อมูลในวันนี้ ก็กังวลเรื่องของความปลอดภัย
นางสาวพิมพ์วิไล ยังยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้จักตำรวจคนไหน และหลังเกิดเรื่องเมื่อรู้ว่าตัวเองกระทำความผิด ก็ได้โทรศัพท์ไปต่อว่าคนที่ว่าจ้างแล้ว ส่วนสาเหตุที่ออกมาในวันนี้ ไม่ขอตอบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน
ด้านสงทนายสัญญวีณ์ ระบุว่า วันนี้ลูกความตนเองเข้ามาให้ข้อมูลตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ซึ่งหลักฐานเอกสารทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่าไม่ได้พาดพิงถึงใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เพียงแต่ให้การตามความเป็นจริงตามพยานหลักฐาน จะแพ้ชนะอยู่ที่พยานหลักฐานทั้งหมด
ซึ่งการที่ลูกความตนเองออกมาออกมาให้ข้อมูลอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในอนาคตนั้น นายสัญญวีณ์ ระบุว่า การจะดำเนินคดีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง ก็ยอมรับหากถูกแจ้งข้อหา ซึ่งก็ต้องไปสู้กันหลังจากนั้น