จากกรณี นายขนบ สมหวัง หรือ เสี่ยหมาส อายุ 56 ปี เจ้าของสนามไก่ชนชื่อดัง ใน อ.สวี จ.ชุมพร ได้หายตัวไปอย่างปริศนาจากบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ช่วงคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 67 พร้อมรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ไปพบศพของเสี่ยหมาสถูกฝังอยู่ในพื้นที่ป่า เขต อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช จนล่าสุดตำรวจได้ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมดแล้ว มีจำนวน 5 คน
ล่าสุดวันนี้ที่สำนักสงฆ์น้ำตกพระยืน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ครอบครัวของเสี่ยหมาส ได้ร่วมกันทำพิธีสวดบำเพ็ญกุศลศพเสี่ยหมาสเป็นครั้งสุดท้าย โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 10 รูป สวดพุทธมนต์ สวดบังสุกุล พร้อมแสดงพระธรรมเทศนา
จากนั้นครอบครัวพี่น้องของเสี่ยหมาสทั้งหมด 14 คน ได้ยืนด้านหน้าโลงศพของเสี่ยหมาส เพื่อไว้อาลัยกับการจากไปของเสี่ยหมาส พร้อมกับขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาร่วมงาน ยังมีการเปิดเพลง “ไม่เคย” ของวง 25 hour เพื่อระลึกถึงเสี่ยหมาสอีกด้วย ซึ่งทันทีที่เพลงถูกเปิดพี่น้องของเสี่ยแต่ละคนได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
กระทั่งเวลา 14.00 น. ครอบครัวได้ช่วยกันยกโลงศพของเสี่ยหมาสขึ้นรถและเดินทางไปยังเมรุวัดเขาค่ายเจริญธรรมเพื่อทำพิธีฌาปนกิจศพ โดยสัปเหร่อได้เปิดโลงศพให้ญาติดูเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะมีพิธีเผาศพ
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับลุงสำราญ สมหวัง พี่ชายของเสี่ยหมาส บอกกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้ตนเองรู้สึกดีใจและเสียใจไปพร้อมกัน ส่วนที่ดีใจคือครอบครัวของตนเองได้นำร่างของน้องชายมาทำพิธีฌาปนกิจศพได้สำเร็จแล้ว พบศพของน้องชายแล้วหลังจากที่ตามหามานานเกือบ 2 เดือน แต่ส่วนที่เสียใจคือ ต่อไปนี้ครอบครัวสมหวังจะไม่มีน้องชายอีกต่อไปแล้ว
ตลอดระยะเวลากว่าสองเดือน ยอมรับว่า ตนเองเหนื่อยมากในการออกติดตามหาตัวน้องชาย ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่พบศพของน้องชายเหมือนกับคดีเสี่ยโกศล ที่หายตัวปริศนาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว แต่สุดท้ายก็เพราะความช่วยเหลือจากบรรดาผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ทั้งตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ที่ติดตามคดีให้อย่างต่อเนื่อง ตำรวจกัดไม่ปล่อย จนทำให้พบศพของน้องชายจนได้ และที่มากไปกว่านั้น สามารถจับคนร้ายในคดีได้เกือบทั้งหมด
ส่วนความรู้สึกตอนนี้ที่มีกับเจ๊อ้วน ตนเองขออโหสิกรรมให้กับเจ๊อ้วน และเชื่อว่า เจ๊อ้วนก็คงเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานเหมือนกันที่ไม่มีโอกาสได้มางานศพของน้องชาย ตนเองรู้สึกสงสารเจ๊อ้วนมาก เจ๊อ้วนเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารที่สุดของเรื่องนี้ เจ๊อ้วนทำไปด้วยความแค้นเจ๊อ้วนจึงต้องแบบนี้ ซึ่งตอนนี้เจออ้วนก็ได้รับกรรมที่ตัวเองก่อแล้ว ส่วนน้องชายของตนเอง ก็ได้รับกรรมไปแล้วเช่นกัน ซึ่งคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าก็มาจากน้องชายของตนเอง ที่เลือกที่จะมีโลกสองใบเอง เอานางสาวเก๋เข้ามาในชีวิตให้เกิดปัญหา
สุดท้ายตนเองขอให้น้องชายตนเองไปสู่สุขคติ และอยากให้น้องชายไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว วันนี้ตนเองได้ทำหน้าที่ของพี่ชายอย่างสุดความสามารถแล้ว อยากให้น้องชายรับรู้ว่า พี่ชายคนนี้และครอบครัวสมหวังจะรักและคิดถึงน้องชายตลอดไป
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางเก๋ ผ่านวิดีโอคอล เนื่องจากวันนี้นางเก๋ เมียเบอร์ 2 มีธุระที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยนางเก๋เมียเบอร์ 2 ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ไว้อาลัยเสี่ยหมาส ตนก็เสียใจในที่สุดแล้วตนก็ไม่ได้ไปร่วมงานศพของเสี่ยหมาส บุคคลอันเป็นที่รักของตน อย่างไรก็ตามตนก็ทำเต็มความสามารถที่สุดของตนที่จะทำให้เสี่ยหมาสแล้วหลังจากที่พบศพ แต่ตนก็เชื่อว่าเสี่ยหมาสก็คงรับรู้อย่างดีว่าเหตุใดตนถึงไม่ยอมไปงานศพ
สำหรับเมื่อวานที่ผ่านมาตนก็ฝันว่าเสี่ยหมาสมาลาตนเป็นครั้งสุดท้าย โดยเสี่ยหมาสนั้น มาเตือนตนว่าอย่าลืมไปหาหมอด้วยเป็นห่วงจะไปแล้วและนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาหาแล้ว อีกทั้งตอนนี้งานศพก็เสร็จสิ้นพิธีไปแล้ว แต่ตนมีความรู้สึกว่าเสี่ยหมาส ต้องตามไปอาฆาตและเอาคืนบุคคลที่ทำร้ายตัวเองจนตายแน่นอน เพราะตอนที่มีชีวิตอยู่เสียหมาสก็เป็นคนที่ไม่ยอมคนเลยแม้แต่น้อย จึงอยากให้เสี่ยหมาสอโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการอุ้มฆ่าไม่ว่าจะเป็นเจ๊อ้วนหรือนายชัยหรือคนอื่นๆที่ร่วมขบวนการก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้วการจองเวรจองกรรมต่อไปอีกไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
และสุดท้ายถึงแม้ว่าคดีนี้ตำรวจจะมีการแถลงจบคดีไปแล้วก็ตาม แต่ในใจลึกๆแล้ว ก็ยังคงมีเรื่องที่ตนยังสงสัยและค้างคาใจมาจนถึงตอนนี้ นั่นก็คือเรื่องของนายชัยซึ่งเป็นเพื่อนรักของเสี่ยหมาส ทำไมคนที่เป็นเพื่อนกันมีอะไรก็พึ่งพากันและเสี่ยหมาสก็ช่วยเหลือนายชัยมาโดยตลอดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ทำไมนายชัยต้องลงมือฆ่าเสี่ยหมาสแบบโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างนี้ด้วย และถ้ามาถามใจตนอีกทีตนก็ไม่เชื่อว่านายชัยจะเป็นคนลงมือใช้อาวุธทำร้ายเสี่ยหมาสจนตาย เนื่องจากตนเชื่อว่านายชัยคงไม่กล้าลงมือกับเพื่อนรักแบบเสี่ยหมาสอย่างแน่นอน