จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 เม.ย. 2567) ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งเหตุพบเด็กหญิงถูกแทงเสียชีวิตปริศนาภายในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ต่อมาตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทราบว่า เด็กหญิงที่เสียชีวิต คือ เด็กหญิงนภัส หรือ น้องมิว วัย 9 ขวบ สภาพศพถูกคลุมด้วยผ้าห่มนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนในห้องพัก
จากนั้นตำรวจได้ตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่เข้าเช็กอินห้องพักดังกล่าวจนไปพบว่า เด็กหญิงที่เสียชีวิตเดินทางมาเข้าพักกับผู้เป็นพ่อ คือ นายสิทธานันท์ หรือ บาส อายุ 25 ปี แต่หลังจากเกิดเหตุ นายสิทธานันท์ ได้หายตัวไปจากที่เกิดเหตุ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตัวเอง
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงพบว่า ห้องพักที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโซนด้านหลังของรีสอร์ต ด้านหลังห้องพักอยู่ติดกับทุ่งนา เมื่อไปถึงพบว่า ห้องพักถูกทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วและถูกปิดเงียบ
ต่อมาทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามพนักงานของรีสอร์ต ให้ข้อมูลเพียงว่า เมื่อช่วงเช้าพนักงานได้เข้าไปตรวจห้องพักและพบศพของเด็กหญิงรายหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน จากนั้นจึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหลังจากเกิดเหตุตำรวจได้ยกเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดนำไปตรวจสอบแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไรตนเองไม่ทราบ เนื่องจากพวกตนเองเพิ่งเข้ามาเปลี่ยนเวรเมื่อ 5 โมงเย็นที่ผ่านมา
ส่วนพ่อลูกที่เดินทางมาเปิดห้องพัก เข้ามาตอนเวลากี่โมง พวกตนเองไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากตำรวจขอให้ปิดเป็นความลับก่อน กลัวจะเสียรูปคดี แต่ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพ่อลูกคู่นี้เดินทางมาเปิดห้องพักมาก่อน ส่วนราคาของห้องพักที่พ่อลูกมาเปิดต่อ 1 คืน พบว่า ราคา 595 บาท และหลังเกิดเหตุ พบว่า พ่อของเด็กได้หายตัวไป
ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้เชิญตัวพ่อกับแม่ของนายสิทธานันท์ หรือ บาส มาสอบปากคำ ซึ่งถึงขณะนี้ยังคงสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายอนุชิต พ่อของนายบาส ผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ลูกชายของตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานแล้ว โดยจะมีอารมณ์ 2 ขั้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เป็นไบโพล่า
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ลูกชายได้เลิกกับแฟนสาวได้ประมาณ 1 ปีก่อน โดยทิ้งน้องมิวที่เสียชีวิตให้กับลูกชายเป็นคนดูแล แต่ที่ผ่านมาลูกชายทำงานเป็นคนรับส่งพัสดุทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงลูก ส่วนใหญ่ตนเองและภรรยาจะเป็นคนดูแลหลานสาวเอง
เมื่อคืนนี้ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายได้พาน้องมิว หลานสาวของตนเอง ขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกไปนอกบ้าน โดยบอกว่า จะพาลูกสาวไปหาข้าวกิน แล้วจะพาลูกสาวไปดูหนัง ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เวลาผ่านไปเที่ยงคืนกว่าก็แล้ว ตี 1 ก็แล้ว ตนเองพยายามโทรศัพท์ไปหาลูกชาย กลับติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่า หลานสาวถูกฆ่าเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักของรีสอร์ต ยอมรับว่าตกใจมาก และเชื่อว่าเป็นฝีมือของลูกชาย ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนเองอยากให้ลูกชายกลับมามอบตัวกับตำรวจ โดยยังเชื่อว่าลูกชายยังคงขี่รถวนเวียนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล
ส่วนความเครียดของลูกชายทราบว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยรวบรวมเงินได้ประมาณแสนกว่าบาท และได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดอะไร ทำให้ลูกชายถูกส่งตัวกลับไทย และเงินที่เสียไปก็ทำให้ลูกชายหมดกำลังใจ และเครียดหนัก ประกอบกับพักหลัง น้องมิว ลูกสาวของลูกชายป่วย ไม่สบาย เข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ อาจจะต้องใช้เงิน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ลูกชายตัดสินใจก่อเหตุ ส่วนพฤติกรรมลูกชายที่ผ่านมา ลูกชายรักหลานสาวมาก เลี้ยงดูอย่างดี แทบไม่เคยตี และไม่เคยทำร้ายหลานสาวเลย ซึ่งตนเองและครอบครัวตกใจมากที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
ล่าสุดเมื่อช่วงหนึ่งทุ่มที่ผ่านมา หลังจากตำรวจได้สอบปากคำพ่อกับแม่ของนายบาสผู้ต้องสงสัยเสร็จแล้ว ได้ปล่อยตัวกลับบ้าน ทีมข่าวพยายามสอบถาม นางก้อย (นามสมมติ) แม่ของนายบาสผู้ต้องสงสัย ให้ข้อมูลว่า ตนเองยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือฆ่าหลานสาว คงหนีไม่พ้นลูกชายของตนเอง ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนเองยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกเลย
โดยก่อนจะเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายของตนเองได้จับหลานสาว อาบน้ำ แต่งตัวสวย บอกกับตนเอง เดี๋ยวจะพาน้องมิวไปดูหนัง แล้วจะพาไปกินข้าว ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อตนเองเห็นว่าเที่ยงคืนผ่านไปลูกชายก็ยังไม่พาหลานสาวกลับมาที่บ้านจึงได้พยายามติดต่อทั้งคืน แต่ลูกชายก็ไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์จนกระทั่งช่วงเช้า มีคนมาแจ้งว่าพบศพของหลานสาวเสียชีวิตอยู่ในรีสอร์ตถูกฆ่าปาดคอ ตนเองตกใจมากและไม่คิดว่าลูกชายจะทำกับลูกสาวตัวเองได้ถึงขนาดนี้
ยืนยันที่ผ่านมาลูกชายเป็นเด็กดี พูดจามีหางเสียงทุกครั้ง พูดครับตลอด แต่ยอมรับว่าลูกชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับช่วงนี้เครียดเรื่องงานหนัก จึงไม่แน่ใจว่าสาเหตุใดลูกชายเธอก่อเหตุแบบนี้ นอกจากนี้ นางก้อยยังเปิดข้อความแชตทางไลน์ให้กับทีมข่าวดู โดยพบว่าเวลาประมาณ 00.57 น. เมื่อคืนนี้เธอได้ส่งข้อความไปหาลูกชายเพื่อถามว่า “พาน้องมิวไปไหน ?” แต่พยายามโทร. หาแต่ลูกชายไปตอบ
กระทั่งเวลา 10.14 น. ช่วงสายวันนี้ หลังพบศพ นายบาส ได้ส่งข้อความมาหาแม่ว่า “บาสขอโทษนะครับแม่ หลังจากนี้แม่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจเรื่องของบาส และมาเหนื่อยกับเรื่องของบาสอีกแล้วนะครับ บาสรักแม่นะครับ” ทั้งนี้ หากลูกชายได้ดูข่าวอยู่ ตนเองอยากให้ลูกชายรีบติดต่อมามอบตัวกับตำรวจ มีอะไรให้กลับมาคุยกันดี ๆ ไม่ใช่มาทำแบบนี้