จากกรณีพบศพ ผอ.ระพิน ดิษทับ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม มีเสื้อยืดสีดำสวมอยู่ที่ปลายเท้า ด้านบนระเบียงบ้านพบเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งเป็นชุดทำงานของผู้ตายถอดวางไว้ รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายยังคงวางอยู่บริเวณดังกล่าว และจากกรณีเสียชีวิตดังกล่าวครอบครัวยังคงติดใจเกี่ยวกับลักษณะการตาย หลังพบพิรุธหลายอย่างที่คาดว่าเป็นการฆาตกรรม นั้น


วันนี้ (9 เม.ย.2567) ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดบาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ผอ.ระพิน โดยวันนี้ช่วงเช้าครอบครัวได้เดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนา มีการบำเพ็ญกุศลเช้า ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายร่างออกจากโลงเย็นขึ้นรถ เพื่อนำร่างไปฝากเก็บที่นิติเวชโรงพยาบาลกำแพงเพชร โดยญาติซึ่งมีภรรยาและลูกชาย เป็นคนร่วมประกอบพิธีในการเคลื่อนย้ายร่างไปฝากเก็บ




โดยทันทีที่ร่าง ผอ. ถึงโรงพยาบาล ก็ได้มีการยกเข้าไปภายในห้องนิติเวช เพื่อมีการจัดเก็บตามขั้นตอน จากนั้นภรรยาได้มีการจุดธูปเพื่อบอกกล่าวเจ้าที่ และดวงวิญญาณของสามี ก่อนที่จะเดินทางกลับออกจากโรงพยาบาล โดยทางครอบครัวยังคงยืนยันว่า หากผลการตรวจ 20 วันปรากฏและยังไม่เป็นที่น่าพอใจหรือมีการตรวจไม่ชัดเจน จะให้ลูกชายซึ่งเป็นหมอประสานกับอาจารย์หมอจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ หรือธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต มีการรับร่างไปตรวจชันสูตรอีกครั้งอย่างละเอียดเพื่อให้เป็นที่น่าพอใจ


และหลังจากที่นำร่างของสามีไปฝากเก็บไว้ที่นิติเวชของโรงพยาบาลกำแพงเพชรเสร็จแล้ว ได้เดินทางกลับมาที่วัดบาง เพื่อที่จะเคลียร์ศาลาสวด พร้อมกับเคลียร์ค่าใช้จ่าย และมีการจัดเก็บดอกไม้รวมถึงพวงหรีดที่ถูกนำมาร่วมแสดงอาลัย โดยมีการเก็บออกจากศาลา โดยมีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองกำแพงเพชรมาช่วยดำเนินการจัดเก็บ


ด้าน นางรัตติกร ภรรยา ผอ. เผยว่า ในวันนี้ทางครอบครัวตัดสินใจงดพิธีบำเพ็ญกุศล เพราะถือว่าครบตามกำหนดแล้ว แต่ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างไปฝากเก็บชั่วคราวเอาไว้ที่นิติเวชโรงพยาบาลกำแพงเพชร เพื่อที่จะรอผลชันสูตรศพที่จะออกมา หรือแม้แต่ความคืบหน้าทางคดี ที่ไม่ใช่การระบุว่าสามีผูกคอตาย ซึ่งหากผลไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือไม่มีความละเอียดก็จะประสานโรงพยาบาลตำรวจหรือนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ส่งตรวจเอง เพื่อคลายประเด็นข้อสงสัย


และสำหรับวันนี้ยอมรับว่าครอบครัวไม่มีความเชื่อและไม่ไว้ใจไว้ กับการทำงานของตำรวจระดับอำเภอเมืองและระดับจังหวัด แต่ก็ต้องขอบคุณตำรวจภูธรภาค 6 ที่เพิ่งเข้ามาดูแลคดีรับมือต่อ ซึ่งยอมรับว่าตำรวจชุดภาค 6 ที่เพิ่งเข้ามา มีความนอบน้อมและมีความละเอียด มีความรอบรู้กว่าชุดแรกที่ทำ เพราะชุดแรกที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นระดับอำเภอเมืองและระดับจังหวัด ตนเองต้องเป็นคนร้องขอให้ตรวจตรงนั้น ตรงนี้ หรือแม้แต่มีการส่งหลักฐานให้ ทั้งที่ตำรวจไม่สนใจที่อยากจะเก็บหลักฐานเหล่านั้น


แต่ประเด็นที่ตนเองอยากจะวิงวอนและฝากไปถึง อยากจะให้มีหน่วยงานอย่างตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอาจเป็นที่พึ่งเดียวสุดท้าย ที่ตนเองเชื่อมั่นว่าทำงานตรงไปตรงมาและเพื่อประชาชน อยากให้เข้ามาช่วยดูแลคดีให้กับครอบครัวตนเองในเวลานี้ ซึ่งถ้าหากตำรวจสอบสวนกลางที่เชื่อมั่นว่าเป็นหน่วยงานกลางที่สุด มีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว และมีหลักฐานที่ให้ครอบครัวคลายประเด็นข้อสงสัยได้ทุกประเด็น แล้วผลปรากฏว่าการฆ่าตัวตายเอง ทางครอบครัวก็จะน้อมรับ แต่ต้องไม่ใช่ผลที่มาจากทีมชุดแรกที่ทำแล้วมีความหลวม




และในวันนี้ทางครอบครัวยังคงมั่นใจว่าตัวของ ผอ. มีแนวโน้มหรือพฤติกรรมจะฆ่าตัวตาย เพราะเนื่องจากคนฆ่าตัวตายจะไม่อ่านหนังสือ หรือไม่มีกระจิดกระใจที่อยากจะทำอะไร เพราะคนเป็นโรคซึมเศร้าหรือจะคิดฆ่าตัวตาย คงไม่มีพฤติกรรมอยากจะสอบเป็นปลัด และที่สำคัญ กรณีข้อมูลตำรวจ บอกว่า ผออาจมีความเครียดจากหญิงอื่นหรือหญิงปริศนาที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แล้วตัดสินใจก่อเหตุฆ่าตัวตาย นั้น ภรรยาบอกว่า "น้อยใจใครคงไม่มี เท่าที่ทุกคนสัมผัส ไม่เคยบอกหรือพูดให้ฟังว่า ผอ. เป็นคนขี้น้อยใจเลย หรือแม้แต่ตนเองที่เป็นภรรยา ซึ่งก็ไม่เคยมีเรื่องน้อยใจกันเกิดขึ้น ดังนั้นการที่ใช้คำว่าน้อยใจแล้วไปผูกคอตาย โดยเฉพาะผู้หญิงปริศนาอื่นนั้น จึงเป็นไปได้ยาก"


สำหรับประเด็นที่เมื่อวานนี้ทราบว่าชุดสืบสวนได้มีการไปล็อกตัวคนขับกระบะ ซึ่งยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และไม่ได้เกี่ยวข้องกับลานดินหรือบ้านของ ผอ. เพียงแค่บังเอิญขับตามหลังและขับผ่าน ส่วนตัวยังไม่เชื่อข้อมูลการสืบสวนและสอบสวนดังกล่าว เพราะรถทุกคันหรือคนที่เกี่ยวข้องทุกคนยังเป็นจุดต้องสงสัย


อีกทั้งอยากให้มีการติดตาม 2 ผัวเมีย ที่ขับรถปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุแถวละแวกบ้านและลานดิน ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เรียกสอบได้หรือไม่ และเกี่ยวข้องกับใคร รวมทั้งปริศนาเกี่ยวกับผู้หญิงคนสนิท ที่มีภาพปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับตัว ผอ. มีการอยู่อาศัยด้วยกันก่อนที่จะเสียชีวิต ตนเองก็อยากรู้ในประเด็นดังกล่าวดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ไม่ขอปรักปรำ เพียงแค่อยากจะให้ตำรวจไปตามตัวให้เจอแล้วเอาข้อมูลออกมา


ขณะเดียวกันหลังจากที่ตำรวจมีการเข้าไปตรวจสอบ ห้องทำงานของ ผอ. ที่เทศบาลเมืองกำแพงเพชรเพิ่มเติมในวันนี้ แล้วพบการเขียนข้อความลักษณะเป็นโน้ต คล้ายบทความหรือการตัดพ้อ ว่า “ เรามีชีวิตอยู่เพื่อแก้ปัญหา” นั้น


.

ทีมข่าวได้มีการสอบถามไปยังลูกชายของ ผอ.ระพิน โดยลูกชายให้ข้อมูลว่า พ่อเป็นคนใช้บทกลอนดังกล่าวในการดำเนินชีวิต และเป็นคติเตือนใจ ว่าปัญหาทุกอย่างเราต้องแก้และต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อแก้ปัญหามัน และเป็นแรงบันดาลใจเพื่อให้คนเราต้องสู้ อีกทั้งยังเป็นบทความที่ใช้สอนลูก จนกระทั่งเรียนจบเป็นหมอได้ และใช้สอนลูกน้องในสำนักงาน ดังนั้นการเขียนบทความดังกล่าวหรือคติประจำใจดังกล่าวจึงไม่ใช่การตัดพ้อ




และลูกชายของ ผอ. ยังยืนยันกับทีมข่าวอีกว่า ลายมือหรือข้อความดังกล่าวเป็นของพ่อ ที่มีการเขียนโน้ตเอาไว้ แต่ส่วนการเขียนข้อความอื่นที่ปรากฏ คาดว่าเป็นกระดาษรีไซเคิลที่ถูกนำไปเขียนทับ ไม่ใช่ลายมือของพ่อ


นอกจากนี้ ทางตำรวจที่เข้าตรวจภายในห้องทำงานของ ผอ. นอกจากจะพบเอกสารในการทำงานต่าง ๆ แล้ว ยังพบยารักษาโรคประจำตัวของ ผอ.ระพิน ทั้ง เบาหวาน ความดัน ยาคลายกล้ามเนื้อ และยานอนหลับ ซึ่งมีอยู่จำนวนหลายขนาด




จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเทศบาลเมืองกำแพงเพชร เพื่อพบกับนายแพทย์กำชัย รังสิมันต์ไพบูลย์ แพทย์ผู้ให้ตรวจการรักษาประจำโรงพยาบาลเพื่อขอทราบข้อมูลการรักษาของ ผอ.ระพิน โดยนายแพทย์กำชัย ระบุว่า ผอ.ระพิน เข้ารับการรักษาที่นี่จริง โดยหลัก ๆ จะป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน รับยาที่นี่เป็นประจำทุกครั้งที่เดินทางมาตรวจหรือมารับยาก็มีอาการปกติ ไม่มีการวิตกกังวงหรือความเครียดได ๆ ไม่มีบ่นน้อยใจอะไรทั้งนั้น


ส่วนยานอนหลับนั้นไม่ได้ให้ทานเป็นประจำ เป็นการให้เฉพาะมีอาการนอนไม่หลับเพียงเท่านั้น ซึ่งผอ.ระพิน เข้ามาตรวจและรับยารักษาโรคและยานอนหลับไปด้วยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยในการจ่ายยาแต่ละครั้ง โดยเฉพาะยานอนหลับจะให้ยาไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน จ่ายยาไป 90 เม็ด ในผู้ป่วยที่ทานยาบ่อย แต่สำหรับ ผอ.ระพิน ให้ไปเพียง 50 เม็ด เนื่องจากทานบ้างเป็นบางครั้ง

 

เก็บศพ ผอ.ระพิน ส่งนิติเวชชันสูตร เมียยันไม่เผา จนกว่าจะรู้แจ้งว่าตายเพราะอะไร!