จากกรณีคดีพบศพ ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม ซึ่งทางครอบครัวติดใจลักษณะการตาย และต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เจอหลักฐานพลิกคดีที่คาดว่าการตายของ ผอ. เป็นการจัดฉากฆาตกรรม หลังพบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะมีภาพวงจรปิดหญิงปริศนาซ้อนท้ายรถ จยย. ที่โผล่บริเวณลานดินในคืนเกิดเหตุ รวมถึงไทม์ไลน์ของหญิงคนสนิท ของ ผอ.ระพิน ซึ่งอาจเอี่ยวในคดีนี้ นั้น


ล่าสุด (9 เม.ย. 2567) มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ช่วงบ่าย ทางครอบครัวของนางสาวฝน (นามสมมติ) หญิงคนสนิท จะเดินทางไปที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อแจ้งความดำเนินเอาผิดกับสื่อ เกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องราวของนางสาวฝน คนสนิท ที่ทำให้เกิดความอับอาย โดยย้ำว่าจะมีการดำเนินการกับสื่อที่นำเสนอเรื่องนี้ แล้วทำให้ครอบครัวเสียหาย


วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหว และรวมถึงเบาะแสของนางสาวฝน คนสนิท ที่ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดจากห้องแถวแห่งหนึ่ง ว่ามีการอยู่อาศัยกับ ผอ.ระพิน ก่อนเกิดเหตุ และถูกระบุว่าเป็นคนที่ ผอ. อยู่อาศัยด้วย


โดยตัวของนางสาวฝน เป็นข้าราชการของ อบต. แห่งหนึ่ง ในพื้นที่กำแพงเพชร โดยวันนี้เป็นวันเปิดทำการหลังหยุดราชการ 3 วัน ซึ่งเจ้าตัวจะต้องเดินทางมาทำงานตามปกติ เพราะเปิดทำการแล้ว แต่ปรากฏว่าทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึง ได้รับข้อมูลยืนยันจากทาง อบต. ต้นสังกัด ระบุว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ตัวของนางสาวฝน ได้เดินทางมาเพื่อยื่นใบลากิจเอาไว้ 3 วัน ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย. ซึ่งในเหตุผลอ้างว่า “เดินทางกลับต่างจังหวัด” และนอกจากนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักงานนโยบายและแผนของ อบต. ดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคารด้านหลังของสำนักงาน ก็พบว่าบริเวณโต๊ะทำงานของนางสาวฝน ยังมีเอกสารราชการวางอยู่ แต่ก็ไม่ปรากฏตัวของเจ้าตัวมาทำงานตามที่มีข้อมูลว่ายื่นใบลาเอาไว้


จากนั้น ทีมข่าวยังได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรย้อนกลับไปในวันที่พบศพ ผอ.ระพิน คือวันที่ 4 เม.ย. หลังจากที่ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพว่ารถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝนขับออกจากหอพักช่วงเวลาประมาณ 08.23 น. เจ้าตัวเดินทางมาทำงานที่ อบต.




ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในเช้าวันเดียวกัน จับภาพรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝนขับเข้าที่ อบต. เวลาประมาณ 08.50 น. โดยเห็นว่าเจ้าตัวขับรถเข้ามาจอดที่ด้านหลังสำนักงาน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปเซ็นชื่อตามระเบียบของราชการ หลังเซ็นชื่อ เจ้าตัวเดินออกด้านหลังสำนักงานเพื่อที่จะไปอาคารนโยบายและแผน โดยจะเห็นว่าเจ้าตัวยังมีท่าทีนิ่งเฉย มาทำงานตามปกติ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวทราบหรือไม่ว่าวันดังกล่าว ผอ. คนสนิทผูกคอตายไปแล้ว


และหลังจากที่เดินออกจากอาคารสำนักงานหลังเซ็นชื่อเพื่อจะไปทำงานที่อาคารนโยบายและแผน ปรากฏว่าเจ้าตัวเห็นแมวที่นอนเล่นอยู่ด้านหน้าห้อง เจ้าตัวได้นั่งลงลักษณะยอง ๆ นั่งเล่นอยู่กับแมวประมาณ 1-2 นาที ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปเริ่มทำงานอยู่ภายในห้องทำงาน


และกล้องวงจรปิด จับภาพต่อเวลา 10.08 น. ของเช้าวันเดียวกัน 4 เม.ย. ซึ่งหลังจากรับแจ้งว่า ผอ.ระพิน ผูกคอตายที่บ้านพัก ห่างจาก อบต. ประมาณ 2.6 กิโลเมตร ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานนโยบายและแผนของ อบต. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของนางสาวฝนคนสนิท และในฐานะกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกับ ผอ. คนตาย ได้ขับรถออกจาก อบต. เพื่อที่จะไปดูที่เกิดเหตุ แต่ในรถคันแรกที่จอดรับเจ้าหน้าที่นั้นไม่ได้มีนางสาวฝนขึ้นรถไปด้วย มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ผู้ชาย


จากนั้นอีกประมาณไม่ถึง 30 นาที ปรากฏว่าเห็นรถสีดำ ซึ่งทราบภายหลังเป็นรถของญาตินางสาวฝน คาดว่าน้องสาวเป็นคนขับ ขับเข้ามาที่บริเวณหน้าอาคารนโยบายและแผน เพื่อที่จะรับนางสาวฝนขึ้นรถ โดยมีเพื่อนร่วมงานหญิงคนอื่นเดินมาส่งขึ้นรถ ก่อนที่จะมีการพูดคุยกันอยู่สักระยะ แล้วขับออกไปจาก อบต. แต่รถคันดังกล่าว ยังไม่ถูกระบุว่าเข้าดูที่เกิดเหตุหรือไม่ หรือเพียงแค่หลังทราบข่าวรับออกจาก อบต. เพื่อไปที่อื่นหรือไม่ เพราะมีเพียงภาพวงจรปิดปรากฏว่ามีการมารับนางสาวฝนออกไปหลังทราบข่าวว่า ผอ. ตาย


และวันเดียวกันนี้ช่วงที่ทีมข่าวเดินทางไปที่ อบต. ต้นสังกัดของนางสาวฝน คนสนิท ของ ผอ.ระพิน คนตาย ได้พบกับคนรู้จักกับทั้งตัวนางสาวฝน และ ผอ. ได้มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าว โดยมีการส่งแชตวันที่ 5 เม.ย. เวลา 11.37 น. ซึ่งมีการพูดคุยกับนางสาวฝนหญิงคนสนิท เกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยและการเข้าไปเกี่ยวข้องกับตัว ผอ. โดยเป็นคนที่สามารถติดต่อและพูดคุยกับนางสาวฝนเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะปิดเฟซฯ และปิดมือถือขาดการติดต่อไป




ซึ่งข้อความในวันที่ 5 เม.ย. เป็นการพูดคุยโดยฝั่งซ้ายจะเป็นนางสาวฝน ฝั่งขวาจะเป็นคนสนิทของทั้งคู่ โดยมีการพูดคุยทำนองว่า “ฝนไปเกี่ยวข้องหรืออยู่ในไทม์ไลน์ของการโทร. กับ ผอ. ระพินได้อย่างไร แล้วมีตำรวจมาตามหาฝนได้คุยกับเขาหรือยัง” โดยทางด้านฝน จะมีการตอบทำนองว่า “ติดต่อกับ ผอ. เรื่องงาน เป็นการโทร. และเมื่อวาน (4 เม.ย.) ตำรวจได้โทร. มาหาแล้ว และในโทรศัพท์ก็มีเสียงผู้หญิงคุยด้วย คาดว่าเป็นเมียเขาใช่หรือไม่”


นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติม กรณีที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถเก๋งของนางสาวฝนมีการขับออกจากห้องแถว ในคืนวันที่ 3 เม.ย. เวลาประมาณ 20.31น. ซึ่งเป็นคืนที่คาดว่าเป็นคืนที่ ผอ. เสียชีวิต และจากนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพรถเก๋งของนางสาวฝน ขับกลับเข้ามาที่ห้องแถว เข้าสู่คืนวันที่ 4 เม.ย. เวลาประมาณ 01.08 น. เพราะเนื่องจากข้ามคืนเข้าสู่วันใหม่แล้ว โดยมีข้อสงสัยว่าเป็นช่วงเวลารอยต่อที่ ผอ. เสียชีวิต นางสาวขับรถออกไปไหน


โดยเบื้องต้นทีมข่าวตรวจสอบไปยัง กับทางพนักงานสอบสวนในคดี ของชุดจังหวัดกำแพงเพชร โดยให้ข้อมูลว่า หลังจากที่นางสาวฝนเป็นหนึ่งในหญิงคนสนิทและตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเนื่องจากมีประเด็นเรื่องของปมชู้สาว หนึ่งในประเด็นที่ตำรวจตั้งธงเอาไว้ จึงได้มีการโทรศัพท์ไปสอบถาม ก่อนที่จะเรียกมาสอบปากคำ 1 ครั้ง โดยนางสาวฝนยืนยันว่า เป็นเพียงแค่คนสนิท รู้จักกัน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนช่วงเวลาที่ออกจากหอพักในคืนวันเดียวกันกับที่ ผอ. เสียชีวิต ได้เดินทางไปเลี้ยงหลานซึ่งเป็นลูกลูกของน้องสาว อยู่แถวเลี่ยงเมือง


จากนั้นทีมข่าวได้พยายามติดต่อกับทาง ครอบครัวของนางสาวฝน ซึ่งให้ข้อมูล แต่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ โดยให้ข้อมูลเพียงว่า “ได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว และยืนยันว่ามีการมาเลี้ยงหลานจริง ที่หมู่บ้านย่านเลี่ยงเมือง” ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นพิกัดที่ทราบว่านางสาวฝนได้เดินทางไปเพื่อที่จะเลี้ยงหลานในคืนที่ ผอ. เสียชีวิต ตามเวลาที่พบว่ามีการออกจากหอพักช่วงเวลา 20.31 น. และกลับเข้ามาช่วงเวลา 01.08 น.


โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านทางของบ้านน้องสาวนางสาวฝน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถเก๋งสีดำ มีการขับเข้าออกจริง แต่ไม่สามารถระบุหรือชี้ชัดได้ว่าใช่รถของเจ้าตัวหรือไม่ เพียงแค่เห็นลักษณะเป็นรถเก๋งสีดำขับผ่านกล้องเข้าไปในหมู่บ้าน และขับกลับออกมาในหมู่บ้านดังกล่าว ห่างจากห้องแถวของนางสาวฝนประมาณ 11 กิโลเมตร โดยขับเข้าหมู่บ้าน วันที่ 3 เม.ย. เวลา 20.38 น. และขับออกหมู่บ้าน วันที่ 4 เม.ย. เวลา 00.58 น.


และจากกรณีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถกระบะสีต้องสงสัย ซึ่งมีลักษณะลักษณะขับวนผ่านบ้านของ ผอ. และลานดิน ในคืนวันเกิดเหตุ 3 เม.ย. เวลาประมาณ 23.58 น. โดยรถคันดังกล่าวมีการนำเสนอผ่านสื่อเพื่อตามหาเบาะแสมาหลายวัน จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเจอตัวรถกระบะคันดังกล่าวแล้ว และถูกนำรถไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับในคดีหรือไม่ โดยทางด้านของ พฐ. ได้มีการตรวจรถคันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว นั้น




วันนี้ (9 เม.ย.) ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของเจ้าของรถกระบะ เจอกับนายเครฟ (นามสมมติ) คนขับรถกระบะที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งเจ้าตัวได้พาทีมข่าวไปดูรถ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ กับที่ตำรวจมีการตรวจไปเมื่อวานนี้ และเป็นรถคันเดียวกันกับที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจร แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นรถคันที่ขับผ่านกล้องวงจรปิดช่วงแรก ของกล้อง อบต. คือเวลา 23.58 น. แต่รถที่ขับผ่านช่วงเวลาตี 1 เป็นรถลักษณะคล้ายกันแต่ไม่ใช่รถของตนเอง ซึ่งตำรวจกำลังตามหาอีกคัน และการตรวจสอบรถเมื่อวานนี้ ตำรวจได้มีการเก็บเศษตัวอย่างดินทั้ง 4 ล้อ ภายในรถและท้ายรถ เพื่อที่จะนำไปเทียบเคียงกับลานดินและรวมถึงเหตุการณ์บ้าน ผอ.


นายเครฟ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ที่ตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บุกมาที่บ้านไม่ต่ำกว่า 10 คน และมีการเชิญตนเองรวมถึงแม่ไปให้การในฐานะรถต้องสงสัย ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ตกใจ ว่ารถไปทำอะไรผิดมา จนกระทั่งไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดในข่าว ก็พบว่าเป็นรถของตนเองที่ขับผ่านที่เกิดเหตุ ช่วงเวลาคาบเกี่ยว และยังพบว่ารถของตนเองมีการขับตามหลังขบวนรถของ ผอ. คนตาย และยังขับตามหลังแต่ทิ้งห่างเล็กน้อยจากรถของนายอำเภออุ้มผาง


หลังจากที่ตนเองได้เห็นรถที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดบริเวณถนนเลี่ยงเมืองกำแพงเพชรด้านนอก จนกระทั่งกล้องวงจรปิดของ อบต. จึงได้นำหลักฐานไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในวันนั้นตนเองไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน บริเวณแถวพานิชการ ในเมืองกำแพงเพชรกำแพง ซึ่งมีภาพถ่ายที่นั่งอยู่กับเพื่อนยืนยันว่าในวันนั้นตนเองไปดื่มกินกับเพื่อนจริง จากนั้นมีการขับรถออกมาเพื่อที่จะกลับบ้าน แล้วบังเอิญที่มีการขับรถตามหลังขบวนรถคนตายและรถนายอำเภอ แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะขับตามหลัง เพียงแค่บังเอิญขับผ่านช่วงเวลาเดียวกัน และบังเอิญที่ตนเองใช้ถนนเลี่ยงเมืองผ่านบ้าน ผอ. ไม่ออกถนนใหญ่ เพราะกลัวว่าถนนใหญ่จะมีรถพ่วงหรือรถบรรทุก กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ


และในคืนที่ตนเองขับผ่านบ้าน ผอ. หรือแม้แต่ลานดินที่เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยว ตนเองก็ไม่พบความผิดปกติ โดยเฉพาะรถบนถนน ไม่ว่าจะเป็นรถที่ขับสวนทางหรือขับรถใช้ทางเดียวกัน มีเพียงรถตนเองเพียงคันเดียวที่ขับบนถนนที่โล่งมาก แต่หากถามว่าเห็นรถ ผอ. จอดอยู่ที่ลานดินหรือไม่ ขอย้ำว่า “ไม่ได้สังเกต” และไม่ขอตอบว่า “เห็นหรือไม่เห็น” เพราะมัวแต่มองทางไม่ได้มองสิ่งอื่น




ส่วนตัวแม้ว่าจะขับรถออกมาจากซอยเดียวกันกับหอพักของนางสาวฝน แต่ไม่ได้ไปที่หอพักของนางสาวฝนแน่นอน เพราะไปกินกับเพื่อนแถวพานิชการ เพียงแค่ผ่านซอยดังกล่าวออกมา แล้วบังเอิญที่ไปขับรถตามหลังรถ ผอ. เท่านั้น ฉะนั้นจึงยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเชื่อว่าการตรวจของตำรวจจะสามารถคลี่คลายประเด็น และเชื่อได้ว่าตนเองบริสุทธิ์ และไม่ได้กังวลใจ แม้จะตกเป็นรถต้องสงสัยก็ตาม


ซึ่งจากประเด็นที่รถกระบะของนายเครฟ ถูกกล่าวหาว่าเป็นรถที่ขับตามหลังรถ ผอ. และยังขับออกจากซอยหอพักของนางสาวฝน ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อคลี่คลายประเด็นข้อสงสัยดังกล่าว โดยทีมข่าวดูภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณปากซอยทางเข้า-ออกของหอพักนางสาวฝน พบว่า คืนวันที่ 3 เม.ย. เวลา 23.59 น. รถกระบะของนายเครฟ กระบะต้องสงสัย มีการขับออกถนนกลางซอยของนางสาวฝนจริง แต่มีลักษณะขับผ่านห้องแถว ซึ่งไม่ได้มีการออกจากห้องแถว จึงเป็นคำยืนยันที่ตรงตามการให้สัมภาษณ์ กับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวของนายเครฟไม่ได้เข้า-ออกหอพักของนางสาวฝน และไม่ได้มีเจตนาขับรถตามหลังของรถ ผอ.


และภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายเครฟ คนขับระบะต้องสงสัย ยังได้มีการส่งภาพนิ่งซึ่งเป็นภาพในคืนวันเกิดเหตุ ที่เจ้าตัวอ้างว่า ไปนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อน โดยได้มีการส่งภาพนิ่งมาให้กับทีมข่าวเพื่อยืนยันว่าไปนั่งกับเพื่อนจริง อีกทั้งเจ้าตัวยังได้มีการส่งแชต ซึ่งเป็นแชตที่มีการพูดคุยกับแฟนสาว โดยเป็นเวลาที่ยืนยันว่ากลับถึงบ้าน เวลาประมาณ 00.19 น ซึ่งได้มีการวิดีโอคอลคุยกับแฟนสาว และคุยกับแฟนสาวต่อจนกระทั่ง 00.44 น. จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบ้านของ ผอ.

 

ฝนไม่มาทำงาน! ช่อง 8 เจอรถปริศนา รับตัวหลัง ผอ.งบฯ ตาย