จากกรณีพบศพ น้องมิว วัย 9 ขวบ มีบาดแผลถูกกรีดข้อมือนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งคนก่อเหตุคือ นายสิทธานันท์ หรือ บาส อายุ 25 ปี พ่อของเด็ก หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 เม.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ท่าปลา สามารถจับกุมตัว นายสิธานันท์ ผู้ก่อเหตุ พร้อมรถจักรยานยนต์ได้ที่บริเวณหน้าวัดท่าปลา หมู่ 1 ตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเจ้าตัวมีท่าทีอิดโรย หลังพลเมืองดีประสานทางตำรวจมารวบตัว เนื่องจากเห็นคนก่อเหตุขี่รถวนไปมาให้พื้นที่ จนกระทั่งเวลา 18.30 น. ตำรวจจับได้ที่หน้าวัดท่าปลาดังกล่าว
เบื้องต้นเมื่อตรวจสอบภายในรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ พบว่าภายในมีถุงใส่เสื้อผ้า ซึ่งคาดว่าเป็นชุดของเด็กหญิงมิวอยู่ภายในรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าปลา ได้ทำบันทึกจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ แล้วนำตัวส่งต่อไปที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดี
ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 18.02 น. โดยจะเห็นนายบาส ผู้ก่อเหตุ ได้พาน้องมิว ลูกสาว ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งคาดว่าได้พาลูกสาวไปกินข้าวและดูหนัง โดยห้างสรรพสินค้าดังกล่าว อยู่ห่างจากรีสอร์ตที่เกิดเหตุเพียง 1.8 กิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าเป็น นายบาส เวลาประมาณ 9.31 น. เช้าวันเกิดเหตุ เป็นช่วงหลังก่อเหตุได้หลบหนี โดยพบว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัย ขี่ออกจากรีสอร์ต
ขณะที่ทีมข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายบาส พบว่า เจ้าตัวไม่มีนัยยะว่าจะลงมือฆ่าลูกแต่อย่างใด เนื่องจากมีการลงภาพลูกสาวถือเค้กวันเกิดที่เพิ่งอายุครบ 9 ขวบ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมโพสต์ข้อความสุขสันต์วันเกิดลูกอยู่เลย อีกทั้งยังมีการโพสต์คลิปโมเมนต์ที่ตัวเองนอนเลี้ยงลูกสาว ซึ่งเจ้าตัวเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงน้องมาตั้งแต่ 3 ขวบ เนื่องจากแยกทางกับภรรยา
ล่าสุดเวลา ทีมข่าวช่อง 8 ได้ พบกับ น.ส.จุ๊บเเจง อายุ 25 ปี แม่เด็กที่เสียชีวิต โดยได้บอกกับทีมข่าวว่า ตนกับพ่อเด็กได้เลิกรากันไปตั้งแต่น้องอายุ 3 ขวบ โดยไม่ได้ติดต่อหากัน มีเพียงขับรถผ่านหน้าบ้านก็จะคอยแอบมองลูกว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยไม่ทราบสาเหตุว่าที่ฝั่งของพ่อเด็กไม่ให้ตนพบเจอเกิดจากสาเหตุอะไร
โดยสาเหตุที่เลิกกัน เพราะว่าเหมือนช่วงนั้นตนทำงานหนัก และตัวพ่อเด็กเลี้ยงดูลูกและมีการสังสรรค์กันคบหากันเป็นช่วงวัยเด็ก แต่จบความสัมพันธ์ผ่านมานานแล้วไม่ได้เจอลูกตั้งแต่น้อง 3 ขวบ โดยนิสัยส่วนตัวของอดีตแฟนหนุ่มเป็นคนเงียบไม่เคยทำร้ายใคร เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน ส่วนประเด็นเรื่องของที่เลิกรากันเพราะหนี้สิน ตนกล้ายืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริงเพราะตอนที่เลิกลาไม่มีปัญหาเรื่องของหนี้สิน
โดยวันนี้ตนและทางย่าจะไปคุยเรื่องจัดงานศพของลูกสาวตัวเอง โดยทางญาติของพ่อน้องที่เสียชีวิตยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับตน ทางญาติของพ่อเด็กได้บอกกับตนประมาณว่า เธอไม่สนใจลูก ไม่ดูดำดูดีลูก ว่าเป็นตายร้ายดียังไง ส่วนตัวตนที่มาหาทางญาติพ่อของน้องที่เสียชีวิตเพียงแค่อยากถามว่าจะจัดงานศพที่ไหน อะไรยังไง อย่างน้อยก็เป็นลูกสาวตน อย่างน้อยก็แอบหวังว่าทางย่าจะโทร. ติดต่อตนมาบ้าง จากนั้นตนก็เดินทางกลับบ้าน
ส่วนปมสาเหตุเบื้องต้นไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะว่าพ่อเด็กได้อยู่กับเด็กหญิงคนนี้เป็นคนสุดท้าย แต่ไม่อยากปรักปรำว่าเขาเป็นคนผิดอยากให้เขาออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนจะได้รู้ว่าความจริงมันเกิดอะไรขึ้น โดยหลังจากทราบเหตุตนรู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูก อย่างน้อยไม่ใช่ว่าตนไม่เคยเลี้ยงลูกเลย ตอนอยู่กับลูกสาวคนนี้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ สุดท้ายนี้หากลูกสาวตน ได้รับรู้อยากจะบอกลูกสาวว่า เวลาที่ผ่านมาแม่อาจจะอยู่กับหนูเพียงแค่สามขวบ แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ "แม่ก็รักหนูเสมอ"
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 9.48.59 น. บริเวณทางหลวงหมายเลข 11 โดยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 23 กิโลเมตร จากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นลักษณะคนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าเข้าจังหวัดแพร่ แต่สุดท้ายก็ขี่รถไปอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าปลา ก่อนถูกจับตัวได้
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้รับทราบข้อมูลจากทางตำรวจ ว่าพบพิกัดสุดท้ายของผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีโดยพิกัดล่าสุดอยู่บริเวณ ทางหลวงชนบทอุตรดิตถ์ ตำบลบ้านด่านนาขาม จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดดังกล่าวและได้พบกับ นายสมศักดิ์ มาใกล้ กำนันบ้านด่านนาขาม
โดย นายสมศักดิ์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนรับทราบข้อมูลว่ามีเกิดเหตุฆ่าเด็กหญิงสาวที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จากนั้นนายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง บ้านด่านนาขาม ดูแลความปลอดภัยกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีข้อมูลรายงานมาว่าจุดสัญญาณโทรศัพท์ผู้ถูกกล่าวหาอยู่บริเวณแถววัดห้วยกั้ง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ตำบลบ้านด่านนาขาม จากสัญญาณที่จับได้มีการวนเวียนอยู่แถวบริเวณนี้
โดยวัดห้วยกั้งมีพระบวชใหม่อยู่ โดยมีข้อมูลในบางส่วนพบว่า เกรงเรื่องความปลอดภัยของพระที่มาบวชใหม่ เพราะจากข้อมูลเบื้องต้นพระที่มาบวชใหม่เป็นชายคนสนิทของอดีตแฟนผู้ต้องหาในคดี
และฝ่ายปกครองในพื้นที่ประเมินสถานการณ์แล้วมองว่า ในตัวของผู้ต้องหาไม่ประสงค์ดี ที่เข้ามาในบริเวณวัด เกรงว่าจะเกิดเหตุความรุนแรงซ้ำ จึงทำให้นายอำเภอประสานฝ่ายปกครองตำบล บ้านด่านนาขาม มาดูแลความปลอดภัยภายในวัด
โดยพื้นที่ตรงนี้เต็มไปด้วยหุบเขา ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปหาลำบากมาก ตนจึงจัดหาทีมงานจักรยานยนต์ลาดตระเวนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่แต่ละจุด โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ตลอด ในส่วนของชาวบ้านในพื้นที่มีความหวาดระแวงและหวาดกลัว หลังทราบข้อมูลว่าคนก่อเหตุอยู่แถวบริเวณนี้เป็นจุดสุดท้าย แต่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่รู้สึกปลอดภัยขึ้น
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับพระที่บวชใหม่จากข้อมูลเบื้องต้น ที่เป็นแฟนหนุ่มของอดีตแฟนสาวคนล่าสุดของคนก่อเหตุ โดยได้บอกข้อมูลเบื้องต้นกับทีมข่าว ว่า ส่วนตัวไม่เคยเห็นคนก่อเหตุ และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่พอทราบว่าเคยเป็นแฟนเก่าของคนก่อเหตุ แต่เหมือนความสัมพันธ์ทางญาติของตัวผู้หญิงและคนก่อเหตุรับทราบว่าเลิกกันแล้ว
โดยส่วนตัวหลังทราบพิกัดสุดท้ายของคนก่อเหตุ ว่าอยู่บริเวณใกล้วัดที่ตนมาบวช โดยมีความรู้สึกปกติ แต่ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ เพราะว่าตนไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเพราะไม่เคยเจอและพูดคุยกัน รู้เพียงแค่เคยเป็นแฟนเก่าของตน โดยส่วนตัวหากพูดถึงความปลอดภัยตอนนี้ตนรู้สึกปกติไม่ได้หวาดกลัวอะไร โดยแฟนสาวของตนไม่เคยเล่าปัญหาอะไรเกี่ยวกับคนก่อเหตุให้ฟัง บอกแต่เพียงเลิกรากันโดยดี