จากกรณีเมื่อเวลา 22.49 น. วันที่ 12 เม.ย. 2567 ร.ต.อ.หญิงนาลิน ปรีชาชาญ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นคศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบหน้าร้านมีโต๊ะ เก้าอี้ ล้มกระจายเกลื่อน ส่วนคนเสียชีวิต ทราบชื่อ นายก้องเกียรติ อายุ 44 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ ส่วนคนเจ็บคือ นายสายัญ อายุ 43 ปี ถูกยิงบาดเจ็บที่หน้าท้อง และนายชัยวุฒิ อายุ 59 ปี ถูกยิงหน้าอก โดยคนเจ็บทั้งสองอาการยังสาหัสอยู่ในห้องไอซียู หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกกระจายบริเวณโต๊ะที่เกิดเหตุจำนวน 5 หัว รวมทั้งยังพบกองเลือดของคนเจ็บจำนวน 2-3 กอง
เบื้องต้นช่วงก่อนเกิดเหตุกล้องวงจรปิดร้านใกล้ที่เกิดเหตุบันทึกนาทีก่อนเกิดเหตุ มีเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น 7 นัด แล้วมีรถกระบะสีขาว และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ขี่ด้วยความเร็วออกจากที่เกิดเหตุ
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเมื่อเวลา 22.43.19 น. จะเห็นรถกระบะสีขาวของนายอภิเดช มือปืน ขับเข้ามายังร้านเหล้าที่เกิดเหตุ เพื่อมาหากลุ่มผู้เสียหาย จากนั้น 22.44.34 น. จะเห็นรถ จยย. ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขี่เข้ามาสมทบนายอภิเดช มือปืน และถัดมาหลังจากที่นายอภิเดชและกลุ่มของผู้ก่อเหตุ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น นายอภิเดชและกลุ่มของผู้ก่อเหตุ ก็ได้ขับรถหลบหนีกัน
ซึ่งเวลา 22.45.22 น. จะเห็นรถกระบะสีขาวของนายอภิเดช มือปืน ขับหลบหนีออกไปทางซ้ายมือ และถัดมาเวลา 22.45.35 น.จะเห็นรถจยย.ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขับตามออกมาติดๆ แต่ขี่หลบหนีไปทางขวามือ ซึ่งเป็นคนละทางกับนายอภิเดช มือปืน
ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมจับภาพเมื่อเวลา 22.42.28 น. จะเห็นรถ จยย. กลุ่มผู้ก่อเหตุ คันแรกขี่เข้ามายังจุดเกิดเหตุ ถัดมาไม่นานเวลา 22.43.01 น. จะเห็นรถกระบะสีขาวของนายอภิเดช มือปืน ขับเข้ามา ต่อจากนั้นเวลา 22.44.16 น. จะเห็นรถ จยย. กลุ่มผู้ก่อเหตุ คันที่สอง ขี่เข้ามายังจุดเกิดเหตุ
และหลังจากที่นายอภิเดชและกลุ่มของผู้ก่อเหตุ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น นายอภิเดชและกลุ่มของผู้ก่อเหตุ ก็ได้ขับรถหลบหนีกันออกไป โดยเวลา 22.44.54 น. จะเห็นรถกระบะสีขาวของนายอภิเดช มือปืน ขับหลบหนีออกมาคันแรก และจากนั้นเวลา 22.45.06 น. จะเห็นรถ จยย. กลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คัน ขับตามหลังรถกระบะของนายอภิเดช มาติด ๆ เพื่อหลบหนีเช่นกัน
จากการสอบสวนของตำรวจ เบื้องต้นพยานในร้าน ให้การว่า คนเจ็บและคนก่อเหตุเป็นคู่กรณีเคยมีเรื่องบาดหมางกระทบกระทั่งกันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่าย มานั่งรับประทานอาหาร ดื่มกินที่ร้าน ส่วนฝั่งคนก่อเหตุเป็นชาย 3 คน หนึ่งในนั้นมีนายอภิเดช มือยิง และอีก 2 คนเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกันมีฉายา "ตามาร"
ก่อนเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายดื่มกินกันจนเมา ก่อนที่ฝ่ายคนตายมีการแซวแฟนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ สุดท้ายนายอภิเดช ใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 3 คน ที่นั่งดื่มกินที่โต๊ะหน้าร้านจำนวน 6-7 นัด จนมีได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้นมีญาติของผู้บาดเจ็บ เดินทางมาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งทีมข่าวได้พบกับนางปิยวรรณ อายุ 60 ปี ภรรยาของนายชัยวุฒิ 1 ใน 3 ของผู้บาดเจ็บ ที่ถูกยิงหน้าอกบาดเจ็บสาหัส
โดยนางปิยวรรณ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนนั้นไม่ได้ทราบรายละเอียดมากนัก ว่าสามีเคยไปมีเรื่องกับใครยังไงมาก่อนบ้าง แต่เมื่อคืนช่วงที่สามีออกจากบ้านสามีนั้นไม่ได้บอกตนว่าจะออกไปไหนมาไหน มารู้อีกทีก็ช่วงห้าทุ่มที่ผ่านมาแล้ว ว่าสามีตัวเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และรีบไปที่ รพ. ทันที
ส่วนปกติเวลาสามีออกไปไหนมาไหนก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อนเลย ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก สุดท้ายตอนนี้สามีตนได้รับการผ่าตัดเอากระสุนออกตั้งเมื่อคืน อาการปลอดภัยแล้ว และอยากจะให้ตำรวจรีบนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะแบบนี้ถือว่าอุกอาจเกินไป
ส่วนเบื้องต้นทาง สภ.เมืองนครศรีธรรราช ได้มีการออกหมายจับ 1 ในผู้ก่อเหตุแล้ว คือนายอภิเดช อายุ 23 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันพกพาอาวุธในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังจุดเกิด ซึ่งเป็นร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยในที่เกิดเหตุนั้นยังคงมีสิ่งของกระจัดจายอยู่ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ขวดเหล้า รวมไปถึงรอยเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่ หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนรินทร์ ผู้เห็นเหตุการณ์ โดยนายนรินทร์ ได้เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ซึ่งขณะนั้นตนกำลังนั่งเล่นอยู่กับกลุ่มเพื่อน บริเวณหน้าร้านของตัวเอง
ต่อมาก็ได้มีรถ จยย. ขี่เข้ามาด้วยความรวดเร็ว และมีรถกระสีขาวขับเข้ามาอีกคัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังสนั่น และไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนรัวดังกว่า 7 นัด ทำให้ตนและกลุ่มเพื่อนต้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในร้านของตัวเอง และไม่ออกมาอีกเลยเนื่องจากกลัวลูกหลง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ค่อยเกิดขึ้นแถวนี้บ่อยนัก และไม่เคยเกิดขึ้นกับร้านเหล้าร้านดังกล่าวเลย เพราะร้านดังกล่าวเพิ่งเปิดบริการเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น อีกทั้งตอนนี้ตนก็ไม่กล้าออกไปในมาไหนในตัวเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว เนื่องจากกลัวเป็นอย่างมาก เพราะจะออกไปไหนก็มีแต่คนยิงกันทั่วบ้านทั่วเมือง
หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางจิราภรณ์ อายุ 46 ปี เป็นพี่สาวของนายก้องเกียรติ ที่ถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต โดยนางจิราภรณ์ ได้เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อวานที่ผ่านมาเวลาประมาณ 4 ทุ่ม น้องชายตนได้บอกกับตนว่ากลุ่มเพื่อนได้โทร. ตามให้ไปนั่งที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง อีกไม่นานเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว และน้องชายก็ออกไป โดยที่ตนก็ไม่ได้ผิดสังเกตอะไรเพราะปกติน้องชายก็มักจะออกไปนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อน ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว
จนกระทั่งเมื่อช่วงตี 1 ก็มีทางกู้ภัยโทร. มาบอกกับตนว่าตนคือญาติของนายก้องเกียรติใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน เพราะตอนนี้นายก้องเกียรติถูกยิง และเมื่อตนไปถึงที่โรงพยาบาลก็พบว่าน้องชายของตนนั้นนอนเสียชีวิต คลุมผ้าขาวปิดหน้าไปแล้ว ขึ้นพอตัวรู้ว่าน้องชายเสียชีวิตก็รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าตนและน้องชายสนิทกันมากอยู่กันมาไม่เคยห่างกันไปไหน แม้น้องชายจะมีครอบครัวก็ตาม
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่เชื่อว่ากลุ่มของน้องชาย จะไปมีเรื่องแซวสาวแล้วจะถูกยิงจนเสียชีวิตแบบนี้ เพราะเท่าที่ตนทราบมาเพื่อนของน้องชายแต่ละคนก็เป็นคนที่มีหน้าที่การงานดีทุกคน และแต่ละคนก็รักครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างใครจะไปแซวอะไรตนไม่ทราบ
ส่วนปกติน้องชายตนและกลุ่มเพื่อนก็มักจะออกไปดื่มกินสังสรรค์กันอยู่เป็นประจำ โดยจะพกเงินไปคนละ 100-200 บาท แล้วเอาเงินไปรวมกันเพื่อกินดื่มกันอีกที อีกทั้งไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครเลย จึงอยากให้ทางตำรวจช่วยเร่งรัดคดีและตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง 8 ได้ตรวจสอบเฟสบุ๊กของทั้งนายอภิเดช และนางเอ๋ (นามสมมติ) แฟนสาว โดยพบว่านางเอ๋ แฟนสาวของนายอภิเดช เป็นหุ้นส่วนของร้านเหล้าดังกล่าว และได้มีการลงสตอรี่เฟสบุ๊กพื้นหลังสีดำเอาไว้ว่า "ไม่รับสายใครขอโทษนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง" โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้มีการติดต่อไปยังนางเอ๋แล้ว แต่ทว่ายังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด