จากกรณีบล็อกเกอร์ชื่อดัง ได้ไปเที่ยวและรีวิววันสงกรานต์กัมพูชา ว่าไม่มีความตื่นเต้น ไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ ทำให้ชาวกัมพูชาที่ได้เห็นคลิปเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากนั้น
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายคมกริช อายุ 27 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ บล็อกเกอร์รายดังกล่าว ซึ่งเดินทางมาร่วมเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว และถ่าย VLOGร่วมเล่นคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์คืนสุดท้ายในคืนนี้ด้วย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวไปมาหลายประเทศทั่วโลกแล้ว ซึ่งจุดประสงค์ที่ไปกัมพูชาครั้งนี้เพราะอยากไปดูวัฒนธรรมโดยเฉพาะสงกรานต์ เห็นเมื่อก่อนบอกว่าชื่อโจนชะนัมทะเมย แต่ปีนี้เปลี่ยนมาใช้ชื่อเดียวกันกับประเทศไทยคือวันสงกรานต์ หลังจากที่ประเทศไทยขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว จึงไปดูว่ามีการจัดงานอย่างไรบ้าง ซึ่งตนเองเดินทางไปถึงวันที่ 10 พร้อมกับเพื่อนอีกคนชาวต่างชาติ ในวันที่ถ่ายนั้นเป็นวันที่ 13 เมษายนซึ่งปกติเวลาประเทศไทยจะเล่นสงกรานต์กันแล้ว ส่วนกัมพูชานั้นหลังจากปีนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวันสงกรานต์เหมือนประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 ถึง 16 เมษายน และยังทราบอีกว่าเตรียมจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใน 1-2 ปีนี้เหมือนเราด้วย แต่เมื่อเดินทางไปถึงวันที่ 13 ช่วงประมาณ 10 ถึง 11 โมงจนตนเองก็ออกไปเดินเพราะคิดว่าจะมีการเล่นน้ำกันแล้วเหมือนที่ประเทศไทย แต่ปรากฏว่าไม่มีคนบนท้องถนนแม้แต่คนเดียว โดยโดยตนเองไปกับเพื่อนต่างชาติอีกหนึ่งคน และตกใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มีคนเลยซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดคาดมาก แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นที่ตนเองทำผิดว่าคนไหนไม่มีคนเลยทั้งเวทีก็ยังสร้างไม่เสร็จความพร้อมก็ยังยังไม่พร้อมซึ่งตนเองตามความเป็นจริงไม่มีคำพูดที่ดูหมิ่นเหยียดหยามแต่อย่างใด แต่เมื่อคลิปออกไปทำให้ชาวกัมพูชาไม่พอใจและข่มขู่เหยียดหยาม ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนกัมพูชาไม่พอใจนั้นตนเองคิดว่าจะมามาจากการที่ตนเองพูดความจริงมากเกินไป เพราะเราเป็นนักท่องเที่ยวเราก็ทราบข้อมูลในส่วนนั้นลึกๆ แต่คิดว่าขาดการประชาสัมพันธ์มากกว่าว่านักท่องเที่ยวควรไปเล่นเวลาไหนวันไหน ซึ่งแต่ละความคิดเห็นมีแต่เชิงข่มขู่ด่าทอด้วยถ้อยคำ ไม่มีการติเพื่อก่อแต่อย่างใด ซึ่งทุกคำมีแต่ถ้อยคำรุนแรง
หากถามถึงความกังวลในประเทศต่อๆไปว่ากลัวจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกหรือไม่ ส่วนตัวไม่มีความกังวลแต่กังวลว่าเราจะไม่สามารถกลับไปประเทศกัมพูชาได้อีกแล้วเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองอย่างมาก อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ข่มขู่ต่อเนื่องตอนที่ตนเองเดินทางกลับประเทศไทยมีพนักงานที่ทำงานอยู่ในสนามบิน ข่มขู่ตนเอง โดยนั้นตนเองอยู่ที่สนามบินซึ่งคาดว่าความปลอดภัยในระดับสนามบินจะต้องปลอดภัยสูงมาก และเมื่อตอนนี้มาถึงสนามบินสนามบินก็ได้โพสต์อัพเดตสถานการณ์ให้แฟนคลับชาวไทยได้ทราบว่าถึงไทยแล้วนะ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของสนามบินซึ่งไม่ทราบว่าทำงานไหน แต่ถ่ายรูปภาพในจอซีซีทีวี กล้องวงจรปิดในสนามบินพร้อมกับระบุคำพูดว่า “เฉียดหนักมากสงกรานต์ปีหน้ามาเที่ยวอีกนะ” ซึ่งคำว่าเฉียดหนักมากนั้นตนเองไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้เลย เพราะเกิดประเด็นนี้อยู่แล้วแน่นอนว่า Facebook ของบุคคลนี้มีการแชร์โพสต์ของตนเองและมีการด่าทอข่มขู่อย่างหนัก คำพูดดังกล่าวจึงคิดว่าจึงเป็นการข่มขู่เราแล้ว เหมือนลักษณะจะทำร้ายเราหากเรากลับไม่ทัน ซึ่งในเรื่องนี้เองตนเองมองว่ามันเป็นเรื่องของความปลอดภัยของทุกคนไม่ใช่เฉพาะตนเองแล้ว อยากให้เป็นเรื่องของมาตรฐานสากลซึ่งในเรื่องดังกล่าวนั้นไม่มีเลย
ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยว ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวรักประเทศกัมพูชา ชอบคนกัมพูชามากซึ่งคนในโลกออนไลน์กับความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างมาก หากมีโอกาสก็อยากจะกลับไปอีกแต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยไม่ได้รับผลกระทบด้วย แต่ตนเองได้รับผลกระทบอย่างมากซึ่งตอนนี้ก็ยังมีชาวกัมพูชาแชร์โพสต์ออกไปด่าและข่มขู่คุกคามต่อเนื่อง เพราะ Pages ใหญ่ใหญ่ก็เล่นประเด็นนี้เหมือนกันในประเทศกัมพูชาทำให้กลายเป็นไวรัล แต่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องเล่น หลายคนบอกให้แจ้งทางสถานทูต แจ้งการบินหรือสายการบินแอร์เอเชียเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และในวันนี้เดินทางมาที่ขอนแก่นเพื่อมาร่วมเล่นคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์พร้อมทั้งถ่ายคลิปท่องเที่ยวลงในช่อง YouTube ของตนเองเพื่อโปรโมตและให้เห็นถึงวัฒนะธรรมสงกรานต์ที่ขอนแก่นซึ่งเป็นเมืองรองเหมือนในกัมพูชาที่ตนเองเดินทางไปว่าวัฒนธรรมจะเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรซึ่งจะลงคลิปเต็มในวันพรุ่งนี้