จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 เมษายน 2567 มีเหตุชายวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงใส่ศูนย์กู้ภัยชาลีกรุงเทพฯ ภายในซอยวัดกู้ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นจุดสแตนด์บายของกู้ภัยชาลีกรุงเทพฯ พบว่า บริเวณหลังคาถูกกระสุนยิงทะลุเป็นรูโบ๋ นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนชนิดลูกซองตกอยู่ที่พื้น 1 ปลอก ส่วนบริเวณกลางถนนด้านหน้าพบปลอกกระสุนลูกซองตกอยู่อีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ทราบสาเหตุเบื้องต้นคือกลุ่มผู้เสียหายเบิ้ลรถใส่กันกับคนในซอย แล้วผู้ก่อเหตุขี่รถผ่านมาได้ยิน เกิดไม่พอใจ คิดว่าเบิ้ลรถใส่ตนเอง ก่อนจะจอดรถด่าทอ และกลับไปรับเพื่อนพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวและมีด มายังศูนย์กู้ภัยหวังทำร้าย

สอบถามนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุได้รวมตัวเล่นน้ำสงกรานต์กันที่หน้าศูนย์ ขณะเล่นน้ำกันอยู่มีวัยรุ่นขี่ จยย. ผ่านมาแล้วเบิ้ลเครื่องรถ จยย. พวกตนก็เบิ้ลเครื่องใส่ตอบโต้ไป แต่คนที่ก่อเหตุเขากำลังซื้อน้ำแข็งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาคิดว่าพวกตนเบิ้ลเครื่องใส่เขา ก็เลยตะโกนด่ากลับมา ก่อนที่เขาจะขับรถออกจากร้านไป หลังจากนั้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เขาก็ขับรถ จยย. มากับเพื่อนโดยมีมีดยาวกับปืนลูกซองยาวมาด้วย เมื่อมาถึงเขาก็เดินเข้ามาในศูนย์แล้วยิงปืนใส่หลังคา 1 นัด ทำให้กลุ่มพวกตนที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่พากันวิ่งหนีแตกกระเจิง แล้วเขาก็เดินไปยิงที่ด้านหน้าศูนย์อีก 1 นัด ก่อนพากันขี่จยย.หลบหนีไป

กล้องวงจรปิด pakkret cctv มุมที่ 1 จับภาพชายวัยรุ่น 1 คนขี่จยย.จอดกลางถนนลักษณะด่าทอกลุ่มที่เล่นน้ำ จากนั้นกล้องวงจรปิดมุมที่ 2 อีกตัวก็จะเห็นชายวัยรุ่นคนเดิมขี่ จยย. มากับเพื่อนแล้วจอดหน้าศูนย์ที่เป็นจุดสแตนด์บาย ไม่นานก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นวิ่งหนีแตกกระเจิง กล้องตัวแรกจับภาพชายวัยรุ่นกับเพื่อนขี่ จยย. หลบหนี และยังมีคลิปมือถือจากพลเมืองดีถ่ายไว้ได้อีก 1 มุม

ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องจรปิดเพิ่มเติม บริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร พบกลุ่มผู้เสียหายจากหน่วยกู้ภัยวิ่งหนีตายกรูกันเข้ามา ก่อนที่ชายผู้ก่อเหตุจะนั่งซ้อนท้ายมากับเพื่อนผ่านบริเวณนี้ หลังจากก่อเหตุบริเวณศูนย์กู้ภัยเสร็จ แล้วรีบขี่รถหนีออกไป

ช่วงเที่ยงวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทั้งยังย้ำชัดขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว กำลังติดตามตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตรวจสอบจากเส้นทางการหลบหนีตามกล้องวงจรปิด ตามตัวได้ไม่ยาก เพราะจากรูปพรรณสัณฐานแล้วคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากนี้อาจจะมีมาตรการในการดูแลอย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งวอนให้ทุกคนเล่นสงกรานต์กันอย่างมีสติ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการแต่งตัวล่อแหลม

ความคืบหน้าทางด้านเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ นายสมเกียรติ และนายมนัส พร้อมหลักฐานรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 คัน พร้อมอาวุธปืนลูกซอง รวมทั้งชุดที่ใช้ใส่ในการก่อเหตุ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุย้ำชัด “ผมเป็นคนดี ไม่ได้ทำ” พร้อมด้วยท่าทีไม่ได้ดูเคร่งเครียดแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงจริง ๆ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นางปราง (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เผย ตอนนี้สามีว่างงานอยู่ ไม่มีลูก ปกติสามีตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แต่ไม่เคยทำร้ายคนอื่น ในขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพราะแยกกับสามีไปเล่นน้ำ สั่งสามีบอกแค่ว่าจะไปเล่นน้ำกับเพื่อน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร และแวะซื้อน้ำแข็งก่อนถึงจุดเกิดเหตุ สามีบอกเพียงว่า กลุ่มเด็กบริเวณกู้ภัยกวนสามีก่อน ทั้งยังมีคำพูดท้าทาย และแสดงท่าทีในการยั่วโมโห จึงเป็นเหตุให้สามีก่อเหตุดังกล่าว แต่รายละเอียดต่าง ๆ ตนก็ไม่ทราบเช่นกันเพราะสามีไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง เขาเป็นคนเงียบ ๆ ส่วนเพื่อนที่ก่อเหตุด้วยกันตนก็ไม่รู้จัก ในส่วนอาวุธมีดและปืนก็ไม่ทราบว่าสามีเอามาจากไหน แต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นของสามี เพราะตนไม่เคยเห็น

ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ สอบถาม นส.แพรว (นามสมมติ) อายุ 20 ปี และ นส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เพื่อนกลุ่มกู้ภัยซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เผยว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุได้รวมตัวเล่นน้ำสงกรานต์กันที่หน้าศูนย์ ขณะเล่นน้ำกันอยู่มีวัยรุ่นในซอยขี่ จยย. ผ่านมาแล้วเบิ้ลเครื่องรถ จยย. ใส่พวกตนจึงเบิ้ลเครื่องใส่ตอบโต้ไป แต่คนที่ก่อเหตุเขากำลังซื้อน้ำแข็งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาคิดว่าพวกตนเบิ้ลเครื่องใส่เขา ก็เลยตะโกนด่ากลับมา ว่า เบิ้ลรถทำไมพร้อมท้าทาย พวกตนนิ่งไม่ตอบโต้ ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป พวกตนก็คิดว่า ไม่น่าจะมีอะไร

หลังจากนั้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้ก่อเหตุก็ขับรถ จยย. มากับเพื่อนพร้อม มีมีดยาวกับปืนลูกซองยาวมาด้วย เมื่อมาถึงผู้ก่อเหตุคนแรก เดินลงมาพร้อมมีด เข้ามาข่มขู่และด่าทอ ทำให้กลุ่มพวกตนที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่พากันวิ่งหนีแตกกระเจิง จากนั้นผู้ก่อเหตุเดินกลับไปหาเพื่อน พร้อมเอาปืนที่เพื่อนมา ยิงเข้ามา 1 นัด โดนหลังคา แต่ไม่โดนใคร แล้วเขาก็เดินไปยิงที่ด้านหน้าศูนย์อีก 1 นัด โดนต้นไม้ข้างหน้า ก่อนจะกลับมาขึ้นมอเตอร์ไซต์และพากันขี่ จยย. หลบหนีไป