จากกรณีวันที่ 14 เม.ย. 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผกก.สภ.บรบือ พ.ต.ท.อำนวย เสนาหนอก รอง ผกก.สส.สภ.บรบือ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม ร่วมกันจับกุมตัว นายสมคิด อายุ 46 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน ท่อนไม้จำนวน 1 ท่อน เสื้อยืดคอกลมจำนวน 1 ตัว หลังก่อเหตุฆ่าพ่อแล้วนำศพฝังดินห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร
ก่อนที่จะเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปขุดศพบริเวณดังกล่าว พบศพผู้ตาย คือ นายไหว อายุ 75 ปี ซึ่งจุดฝังศพเป็นที่สาธารณะ ข้างกำแพงวัดป่าหนองตุหนองแวง โดยได้ขุดหลุมฝังพ่อไว้แล้วเอาดินกลบ จากนั้นวางไม้ฟืนแล้วจุดไฟเผา และเอาสังกะสีมาปิดแล้วเอาดินกลบอีกรอบ ทางกู้ภัยช่วยกันเอาดินออกแล้วรอแพทย์มาชันสูตร พบสภาพมีรอยตีด้านโหนกแก้มข้างขวา ใบหูข้างซ้าย ปากแตก แขนซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า นายสมคิด ฆ่าบุพการีและลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บรบือ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายได้ทะเลาะกับนายสมคิด ลูกชาย ต่อมานายสมคิดได้ใช้ท่อนไม้ตีที่บริเวณศรีษะของนายไหวจนเสียชีวิต แล้วนำศพขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ขี่มาที่นาทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ต.บัวมาศ แล้วได้ฝังศพไว้ใกล้กับกระท่อมนา มูลเหตุจูงใจทะเลาะวิวาทกับผู้ตายเป็นประจำ
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 15 เม.ย. 2567 พ.ต.ท.อำนวย เสนาหนอก รอง ผกก.สภ.บรบือ มหาสารคาม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมคิดไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ โดยนายสมคิดให้การว่า สาเหตุตนเองทำร้ายนายไหวเพราะตนเองได้นำเอายาให้น้องชายแต่พ่อได้เอาให้ไปแล้ว แล้วก็ทะเลาะกัน จากนั้นนายไหวก็หยิบเอาไม้มาตีตนเอง ตนเองจึงต้องป้องกันตนเองจึงได้แย่งเอาไม้จากพ่อแล้วก็ฟาดจนไม้หักไป 3 ท่อน ถ้าปกติพ่อตีตนด้วยมือ ตนก็จะไม่สู้ ส่วนที่ตนเองเอาศพพ่อไปซ่อนเพราะตกใจไม่เคยฆ่าคนตายมาก่อน ก็กลัวความผิด ส่วนที่ว่าตีนายไหวตายเพราะไม่ใช่พ่อตนแท้ ๆ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสมคิดออกมาทำแผนที่บ้าน โดยมีชาวบ้านมายืนรอดูประมาณ 100 คน ขณะที่กำลังจะเดินเข้าถึงบ้าน เจ้าหน้าที่ให้นายสมคิดไปกราบศพพ่อ ซึ่งก็มีญาติ ๆ มารอดูด้วยความโศกเศร้าและต่างก็รุมสาปแช่งนายสมคิดให้ตายในคุก จากนั้นก็มีชายวิ่งเข้ามาทำร้ายตีนายสมคิดที่หมวกกันน็อก ตำรวจจึงต้องจับออกไปได้ก่อน แล้วได้นำนายสมคิดไปจุดที่ทำร้ายนายไหว โดยเอาไม้ตีบริเวณหลังบ้านจนเสียชีวิต
จากนั้นได้นำรถ จยย. พ่วงข้างขี่เข้าไปจอดแล้วนำศพนายไหวขึ้นมาบนรถ จยย. พ่วงข้างขี่ออกประมาณ 500 เมตร นำไปทิ้งที่หลุมที่ขุดไว้เผาถ่านด้านหลังที่พัก อาศัยอยู่ในที่สาธารณะข้างวัดป่าหนองตุ-หนองแวง จากนั้นนำร่างของพ่อฝังลงหลุมแล้วก็เอาฟืนมากองไว้จุดไฟ และก็ไปล้างตัวในสระน้ำข้างวัด จนตำรวจมาจับกุมขณะที่อยู่ในสระน้ำ โดยประวัติของนายสมคิดเคยติดคุกมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ข้อหาพยายามฆ่าโดยอาวุธปืน ติดคุกอยู่ 5 ปี
ทางด้านนายอำนวย เฮียงไสนา อายุ 57 ปี ผญบ.ม.9 ไทยเจริญ กล่าวว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์ก็ได้ออกตามหา พบนายสมคิดลงจับปลาในสระน้ำข้างวัด ถามว่าพ่อไปไหนก็ไม่ตอบ เลยให้ทางตำรวจนำตัวขึ้นมา ตนเลยเดินไปอีก 100 เมตร พบรถจักรยายนต์พ่วงข้างของนายสมคิด จอดอยู่ใต้ต้นไม้ พบมีรอยเลือดจึงได้เดินมาที่พัก ก็เห็นว่าด้านหลังมีไฟลุกขึ้นก็ช่วยกันดับไฟแล้วก็เอาจอบมาเปิดดินออก ก็พบศพของนายไหว สาเหตุคือมีปัญหากันเรื่องเอายาให้น้องชายคนเล็ก ทำให้เกิดทะเลาะกัน โดยพ่อลูกคู่นี้จะได้รับแจ้งเหตุเป็นประจำว่าทำร้ายร่างกายกันตลอด แต่มาช่วงต้นปีที่ผ่านมานายไหวเริ่มป่วย แล้วไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง
จากการสอบถามนางนภัสกร อายุ 43 ปี น้องสาวนายสมคิด เผยว่า เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้โทร. แจ้งตนเองว่าพี่ชายตีพ่อ ตนเองก็รีบเจ้ามาดูพ่อที่บ้าน มาพบกองเลือดอยู่ที่หลังบ้านกับกองไม้ ที่เปื้อนเลือด แต่ไม่พบพ่อ จึงได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตามหาและโทรแจ้งตำรวจใช้เวลกว่า 30 นาที จากนั้นก็ออกตามหา จนมาพบศพพ่อโดนฝังอยู่บริเวณที่พักของพี่ชาย ที่ได้มาใช้เป็นที่เผาถ่านขาย
ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดเผยให้เห็นนายสมคิด คนก่อเหตุขี่ จยย. พ่วงข้าง ผ่านไปตามถนน ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่นายสมคิดนำร่างพ่อใส่ที่พ่วงข้างเพื่อนำไปฝังดิน
ด้านนางทองลา อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองกับนายสมคิด สามี นั่งดื่มสุรากันที่ริมสระข้างวัด พอเมาได้ที่ช่วงเย็นก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเอายาให้น้องชายที่บ้าน ก็เลยชวนกันเดินกลับบ้านพ่อสามี พอไปถึงก็จะเอายาให้น้องสามีก็บอกว่าพ่อให้แล้ว ทำให้สามีไม่พอใจจึงได้ไปหาเรื่องกัน พอเห็นแบบนั้นตนเองที่ยืนอยู่ด้านนอกบ้าน พอเห็นเขาทะเลาะกันก็เลยเดินหนีกลับบ้านตนเอง ไม่ทราบว่าเขาฆ่ากันตอนไหน จนตำรวจได้มาเรียกตนเองไปสอบปากคำ แล้วก็ปล่อยตัวออกมา