จากกรณี นายอาทิตย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างอำเภอซึ่งทราบว่าเป็นลูกหลานนักการเมืองท้องถิ่น โดยมีแก๊งฉายาว่า "แก๊งปีโป้" รุมทำร้ายจนเสียชีวิต และมีคนที่เจ็บสาหัสอีก 2 ราย จากการไปเล่นน้ำสงกรานต์ เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา นั้น

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ของ จ.ราชบุรี ซึ่งมีการบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยคลิปตัวที่ 1 ถูกถ่ายออกมาจากนอกรถพลเมืองดี จะเห็นว่านายอาทิตย์ถูกแก๊งปีโป้ นับสิบคนรุมทำร้าย ซึ่งทางพลเมืองดีพยายามบีบแตรรถเพื่อให้แก๊งนี้หยุดทำร้ายคนเจ็บ แต่ก็ไม่เป็นผล ส่วนคลิปตัวที่ 2 เป็นคลิปที่บันทึกได้จากญาติของนายอาทิตย์ ที่พยายามวิ่งไปหาร่างของนายอาทิตย์ที่หมดสติ หลังโดนทำร้าย โดยในคลิปจะได้ยินญาติผู้หญิงวิ่งร้องไห้ไปด้วย

จากนั้นคลิปตัวที่ 3 มาจากญาติ ๆ ที่ร้องไห้โฮ พร้อมพยายามร้องตะโกนห้ามว่า "พอแล้ว พี่ พอแล้ว ช่วยด้วย!!" เพื่อไม่ให้แก๊งปีโป้เข้ามากระทืบซ้ำ ทั้งที่นายอาทิตย์หมดสติไปแล้ว ก่อนที่จะมีเสียงผู้หญิงฝั่งแก๊งปีโป้ตะโกนกลับมาว่า "เฮ้ย ทีหลังอย่ามาต่อยเพื่อนกู อยู่ดี ๆ มาต่อยเพื่อนกูได้ยังไง" ต่อมาคลิปตัวที่ 4 เป็นภาพที่ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ของนายอาทิตย์และคนเจ็บอีก 2 คน พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยนายอาทิตย์และคนเจ็บออกไปจากจุดเกิดเหตุ

วันนี้ 17 เมษายน 2567 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.บางแพ จังหวัดราชบุรี ได้พูดคุยกับนางสาวลลิตา อายุ 28 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนจะเกิดเหตุ สามีได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับกลุ่มเพื่อนและเครือญาติ ในพื้นที่อำเภอบางแพ ตอนนั้นตัวเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเห็นว่าสามีก็ไปเล่นน้ำปกติ แต่หลังจากเกิดเหตุมีคนที่ไปด้วยกันโทรศัพท์มาบอกว่าสามีถูกทำร้ายจนสาหัส ตัวเองก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กระทั่งพบว่าสามีอาการสาหัส หน้าตาปวดบวม ซึ่งแพทย์ก็บอกว่าให้ทำใจ เนื่องจากมีเลือดออกจากเยื่อหุ้มสมองจำนวนมาก โดยสามีน่าจะเสียชีวิตมาตั้งแต่จุดเกิดเหตุแล้ว แต่เนื่องจากแพทย์ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ส่วนปมก่อเหตุตัวเองไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร เนื่องจากตัวเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ตัวเองขอยืนยันว่า สามีตัวเองเป็นคนนิสัยดี ที่ฝั่งคู่กรณีไปให้การกับตำรวจว่าสามีไปด่าพวกเขาก่อนหน้านี้นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะสามีไม่เคยด่าใครก่อน

การขาดสามีครั้งนี้ ถือว่าตัวเองขาดเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาสามีเป็นคนที่ทำงานคนเดียวเพื่อเลี้ยงครอบครัวตลอด และลูกสาววัย 7 ขวบ ก็ต้องกำพร้าพ่อ แล้วสามีก็เคยบอกตัวเองตลอดว่า “พี่จะไม่ให้น้องเหนื่อย ไม่ให้น้องลำบาก พี่จะทำงานเลี้ยงน้องเอง” แต่สุดท้ายสามีก็ต้องมาจากไป โดยตัวเองก็อยากให้กลุ่มผู้ก่อเหตุเขาได้รับโทษสูงสุด ซึ่งตัวเองได้ยินข่าวมาว่าตอนนี้เขาถูกปล่อยตัว และประกันตัวไปแล้ว แล้วทางนั้นก็ยังไม่ติดต่อมาเยียวยาครอบครัวตัวเองแต่อย่างใด แต่ตัวเองขอยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ฝั่งนั้นมากราบขอขมาศพสามีแน่นอน

นอกจากนี้ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ยังให้ข้อมูลกับทีมข่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองตั้งใจจะมีลูกอีกหนึ่งคน โดยตัวเองก็ปล่อยให้ท้อง และประจำเดือนก็ไม่มาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว หลังจากนี้คาดว่าน่าจะไปตรวจครรภ์ประมาณช่วงสิ้นเดือน ซึ่งหากตัวเองตั้งครรภ์ขึ้นมา ลูกอีกหนึ่งคนที่กำลังจะเกิดก็ต้องมากำพร้าพ่อเช่นเดียวกัน

ส่วนนายโอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี น้องชายของนายอาทิตย์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะถูกแก๊งปีโป้รุมกระทืบ ก็ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุคนตายได้ชักชวนกันไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่คลองชลประทาน ซึ่งในช่วงนั้นได้นำรถปิกอัพไปจอดไว้ริมคลองและพากันลงไปเล่นน้ำในคลอง จากนั้นได้มีหญิงสาว 2 คน ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียง เดินมาขอปะแป้งและมานั่งเล่นที่ท้ายรถปิกอัพ

ต่อมาได้มีรถปิกอัพอีกคันขับมาจอดปิดท้าย และคนในรถประมาณ 5-6 คน เดินมาหาที่ท้ายรถและเข้ารุมชกต่อยผู้ตาย ซึ่งพวกตนก็พยายามที่จะเข้าไปห้ามแต่ก็ถูกรุมทำร้าย จนต้องวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง จากนั้นก็วิ่งกลับมาดูพี่ชาย แต่กลับไปพบน้องชายอีกคนนอนสลบอยู่ริมคลอง ส่วนพี่ชายคนที่ตายนั้นนอนอยู่ฝั่งหนึ่งของคลอง จึงได้ช่วยกันนำร่างของน้องชายและพี่ชายขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนรู้จักเพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล โดยที่ไม่ทราบว่าพี่ชายนั้นตายแล้ว

ส่วนตนก็ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า แขน และที่ขา ส่วนน้องชายอีกคนสลบนั้น ดั้งจมูกหัก ใบหน้าแตก ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากที่ผู้หญิงสองคนที่มานั่งท้ายรถปิกอัพ แล้วอาจจะทำให้แฟนของผู้หญิงนั้นไม่พอใจ และมารุมกระทืบพวกตนทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่พวกตนมารู้ทีหลังว่าแก๊งนี้เป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.ดำเนินสะดวก โดยมีชื่อแก๊งว่า "ปีโป้" ซึ่งทุกคนจะมีลายสักเป็นรูปปีโป้ทุกคน ก็อยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ก็กลัวว่าเป็นลูกผู้มีอิทธิพลแล้วอาจจะมีการช่วยกันติดคุกไม่นานก็จะออกมาทำร้าย ข่มขู่ คุกคามพวกตนอีก ซึ่งตอนนี้ทุกคนไม่มีใครกล้าออกจากบ้านเลย

ด้าน พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ก็ได้ให้ข้อมูลในเรื่องของคดีนี้ว่า หลังเกิดเหตุในช่วงค่ำของวันที่ 14 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแพ ได้ไปติดตามจับกุมกลุ่มคนที่มารุมทำร้ายนายอาทิตย์ กับน้อง ๆ อีก 2 คน มาสอบสวน ซึ่งมีทั้งหมด 6 คน ได้แก่

1. นายศักดิ์ชัย (เสาร์) อายุ 30 ปี
2. นายเศวตโชติ (ริว) อายุ 23 ปี
3. นายจิรายุ (ฟลุ๊ค) อายุ 24 ปี
4. นายสุธิชัย (น๊อต) อายุ 22 ปี
5. นายศิริศักดิ์ (เอิร์ธ) อายุ 22 ปี
6. นายสิทธิโชค (โชค) อายุ 22 ปี

โดยทั้ง 6 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้ปล่อยตัวชั่วคราวไป แต่ต่อมานายอาทิตย์ได้เสียชีวิตลง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเรียกผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม คือร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันฆ่าผู้อื่น และจะดำเนินการในคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพบกับนายจิรายุ หรือฟลุ๊ค หนึ่งในผู้ก่อเหตุ โดยนายฟลุ๊คเปิดใจกับทีมข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองก็ไปจอดรถที่ข้างคลองปกติ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีปากเสียงกับใคร และไม่ได้คุยกับใคร มีแค่เพียงผู้หญิงหนึ่งคนมาทักทายตัวเองเท่านั้น

จากนั้นจู่ ๆ ตัวเองก็โดนฝั่งคู่กรณีใช้เท้าถีบตัวเองจนตกไปในน้ำ แล้วตะโกนถามตัวเองว่า “มึงมีอะไรกับน้องกูหรือเปล่า” แล้วจากนั้นกลุ่มของผู้เสียชีวิตประมาณ 3-4 คน ก็ได้กระโดดน้ำตามมาทำร้ายตัวเองอีกในน้ำ ตัวเองจึงพยายามว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แล้วตัวเองขอยืนยันว่าตอนนั้นตัวเองเพิ่งไปถึงจุดเกิดเหตุและยังไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด ยังไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนฝั่งของผู้เสียชีวิตเริ่มเมากันหนักแล้ว จึงต่างฝ่ายต่างตะลุมบอนกัน โดยจังหวะที่ตัวเองโดนทำร้ายจนตกน้ำนั้น เพื่อนตัวเองที่อยู่บริเวณนั้นได้เห็นว่าตัวเองถูกทำร้าย จึงเข้ามาช่วยและเกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนดังกล่าว

ส่วนกรณีผู้บาดเจ็บฝั่งนั้นไปให้ข่าว ว่าเขาและตัวเองจูงมือกันไปเล่นน้ำ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตัวเองโดนคู่กรณีฝั่งผู้เสียชีวิตกระโดดถีบจนตกน้ำต่างหาก แล้วตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุเอาให้ถึงตาย ที่มีการรุมกระทืบก็เพราะว่าต่างฝ่ายต่างทำร้ายกัน และตัวเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุตัวเองก็ได้ไปพบกับตำรวจ และติดต่อเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจมาเชิญตัวแน่นอน

อีกทั้ง นายฟลุ๊ค ยังได้ส่งคลิปมือถือหลักฐานฝั่งตัวเองให้กับทีมข่าว โดยในคลิปจะเห็นผู้ชายสวมกางเกงขาสั้น สีฟ้าขาว ซึ่งเป็นฝั่งของผู้เสียชีวิต กำลังกระโดดไปถีบฝั่งของนายฟลุ๊คที่อยู่ในน้ำ แล้วจะเห็นภาพนายฟลุ๊คกำลังตะเกียบตะกายขึ้นอีกฝั่งของคลอง

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับแชตสุดท้ายของผู้เสียชีวิตที่พูดคุยกับภรรยาในวันที่เกิดเหตุ โดยแชตที่เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 เมษายน ก่อนเกิดเหตุหนึ่งวัน ผู้เสียชีวิตส่งภาพที่เจ้าตัวไปทำบุญสรงน้ำพระมาให้กับภรรยาดู

ส่วนที่แชตที่สองเป็นเหตุการณ์วันที่ 14 เมษายน เวลา 13.28 น. ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้ส่งภาพกับข้าวไปให้สามีดู พร้อมข้อความว่า "กลับยัง กินข้าว" แต่ฝ่ายผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ตอบภรรยากลับ เนื่องจากถูกทำร้ายจนเสียชีวิตแล้ว