สรุปปิดยอด 7 วัน สงกรานต์ 2567 คุมประพฤติ 7,388 คดี กรุงเทพฯครองแชมป์อันดับหนึ่ง
วันนี้ (18 เมษายน 2567) นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ มอบหมายให้ พันตำรวจโทมนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสรุปปิดยอดสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติในวันสุดท้ายของ 7 วันควบคุมเข้มข้นสงกรานต์ 2567 (17 เมษายน 2567) โดยมีสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,602 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 1,541 คดี , คิดเป็นร้อยละ 96.20 และคดีขับเสพ 61 คดี คิดเป็น ร้อยละ 3.80
ยอดสะสม 7 วัน (วันที่ 11 – 17 เมษายน 2567) มีจำนวนทั้งสิ้น 7,388 คดี จำแนกเป็น
- คดีขับรถขณะเมาสุรา 7,130 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.51
- คดีขับรถประมาท 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.04
- คดีขับเสพ 255 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.45
จังหวัดที่มีคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 664 คดี ,อุบลราชธานี จำนวน 550 คดี และเชียงใหม่ จำนวน 389 คดี
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมทั้ง 7 วันที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 8,575 คดี กับ ปี พ.ศ. 2567 จำนวน 7,130 คดี พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา มีจำนวนลดลง 1,445 คดี คิดเป็นร้อยละ 16.85
สำหรับในช่วง 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชนตามสถานที่ต่างๆ โดยให้บริการประชาชนแจกน้ำดื่ม ผ้าเย็น เครื่องดื่ม อำนวยความสะดวกจราจร ที่จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น รวมทั้งสิ้นจำนวน 882 จุด ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ผู้ถูกคุมความประพฤติ และประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 30,215 คน
รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่ามาตรการคุมประพฤติที่มีต่อผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราทุกราย จะต้องผ่านการคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สำหรับมาตรการทางกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม ที่ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเมาแล้วขับ เช่น การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุในโรงพยาบาล และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียต่อตนเองและครอบครัว รวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข กรมคุมประพฤติจะรายงานกลับไปยังศาล เพื่อนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษมาบังคับใช้