"สันติ" บอกยังไม่รู้ลูกชายเมาแล้วขับ ติดภารกิจลงพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่รู้เรื่องคดี ขอตรวจสอบก่อน ลั่นลูกแต่ไม่ช่วยเหลือ เดินหน้าไปตามกฎหมาย
จากกรณีชายวัย 46 ปี ซิ่งรถหรู เมาแล้วขับฝ่าด่านตำรวจ และถูกเชื่อมโยงเป็นลูกชาย รมช.กระทรวงหนึ่ง
ทีมข่าวของเราติดต่อไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้อนถามว่า ลูกชายทำอะไรหรอ ส่วนตัวยังไม่ทราบ เดี๋ยวต้องขอเช็กกับเขาอีกที เพราะปกติไม่ค่อยเจอกัน เพราะเขาเป็นลูกชายคนโต แยกครอบครัวไปแล้ว เขาไม่ได้มาหาตั้งนานแล้ว และวันที่เกิดเหตุตนก็อยู่ต่างจังหวัดเลย ยังไม่ทราบข่าว ช่วงนี้ ออกงานชาวบ้านเยอะ จึงยังไม่ได้ติดตามข่าว
ทั้งนี้ นายสันติ ย้อนถามว่าไม่มีอะไรร้ายแรงใช่หรือไม่ ข่าวจึงเล่ารายละเอียดให้ฟัง ว่า เขาเมาแล้วขับฝ่าด่าน นายสันติ จึงกล่าวว่า หนุ่มๆพวกนี้เทศกาลมันแย่มาก แต่ปกติแล้วเขาเป็นเด็กดี ก่อนจะยืนยันว่า แม้จะเป็นลูกของตนหรือเป็นลูกรัฐมนตรีก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เพราะหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป่าแอลกอฮอล์ปริมาณสูงทุกอย่าง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายช่วยเหลืออะไรไม่ได้ จะมายกเว้น เป็นไปไม่ได้ และที่จริงต้องขอบคุณตำรวจด้วยเพราะหากไปเมาแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ เดี๋ยวก็ได้นั่งร้องไห้กันบ้างล่ะ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่จะส่งผลถึงการปรับคณะรัฐมนตรี นายสันติ มองว่า ไม่หรอก ไม่เกี่ยวกันหรอก เมื่อถามว่า เรื่องคดีในฐานะพ่อ จะช่วยดูอย่างไร นายสันติ ย้ำว่า เดี๋ยวจะถามเขาดู ก่อนจะย้ำว่า ไม่มีอะไรหรอก เราต้องเคารพกฎหมายอยู่แล้ว
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 18 เม.ย 2567 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.จร. ได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ อยู่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 31 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. ได้มีรถ BMW ขับชะลอเข้าจุดตรวจ ท่าทีมีพิรุธต้องสงสัย เมื่อถึงจุดตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกให้หยุดแต่คนขับรถไม่ยอมหยุดรถ และได้ขับรถฝ่าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้แผงเหล็กเลื่อนมากันเพื่อหยุดรถ แต่คนขับไม่ยินยอมหยุด และขับชนแผงเหล็ก
เจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันจับกุมคนขับลงมาจากรถ เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งคนขับไม่ยินยอมให้ตรวจวัด ด.ต.พัชรพล จึงใช้เครื่องตรวจวัดเบื้องต้น แบบไม่สัมผัสจ่อใกล้ปากและจมูก วัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลวัดได้ 183 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า "ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น"
ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดี
ในชั้นสอบสวน เบื้องต้นคนขับให้การปฏิเสธ และอาการเมาโวยวาย ไม่รับทราบในข้อกล่าวหา และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุม รวมถึงได้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลักเอาทรัพย์สินของตนไป เจ้าหน้าที่จึงใช้กำลังบังคับ ควบคุมตัวเข้าห้องควบคุมของ สน.ประชาชื่น
ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้วางหลักทรัพย์ 2 หมื่นบาท ยื่นประกันตัวออกไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำหรับชายที่เมาแล้วขับรายนี้ อายุ 46 ปี เป็นลูกชายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ แห่งหนึ่ง