จากกรณีเมื่อเวลา 21.40 น วันที่ 18 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า ร.ต.อ.วิโรจน์ ปราบปรี ร้อยเวร สภ.ป่าบอน เข้าตรวจสอบที่บ้านบ้านหลังหนึ่ง ม.11 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังรับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ขณะเข้าไปก่อเหตุ พร้อมเสียงปืนดังและหลบหนีหลังก่อเหตุ

โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพนายเจศดา หรือนายแปะ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องโถงภายในบ้าน สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณลำตัวและศีรษะ จำนวน 6 แผล ใกล้ศพเจ้าหน้าที่พบเศษตะกั่วหัวกระสุน จำนวน 5 ชิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายกฤตภัค อายุ 43 ปี หรือช้าง เป็นคู่เขยของผู้ตาย โดยทั้งคู่บ้านอยู่ใกล้กัน และทั้งคู่ไม่ถูกกันมีปัญหาขัดแย้งสะสมกันมาเป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งในช่วงเช้าวันเกิดเหตุทั้งคู่ทะเลาะกันอีกครั้ง มีการด่าทอพร้อมท้าทายกัน จนสุดท้ายมาเกิดเหตุฆ่ากันตายดังกล่าว

ล่าสุดหลังเกิดเหตุ นายกฤตภัค เขยผู้พี่ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุแล้วที่ สภ.ป่าบอน พร้อมปฏิเสธไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับคนก่อเหตุ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ขณะที่พยานในที่เกิดเหตุ น.ส.เมย์ อายุ 14 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอนดูทีวีที่ห้องใกล้กับพ่อ ได้มีเพื่อนบ้านเข้ามาเรียกเพื่อที่จะยืมของ พ่อเลยเปิดประตู ก่อนที่จะหยิบของให้ ต่อมาเห็นลุงช้างเดินเข้ามาแล้วยิงพ่อจนล้มต่อหน้า ก่อนที่จะยิงซ้ำจนพ่อเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป

โดยน้องเมย์ ระบุว่า แม่กับป้าทะเลาะกันบ่อย และลุงช้างก็มาทะเลาะกับครอบครัวหนูอีก ทั้ง ๆ ที่พ่อก็ไม่เคยไปก่อปัญหาก่อน และครอบครัวหนู พ่อแม่ ก็พยายามถอยห่างไม่อยากสร้างปัญหา แต่มาวันนี้ลุงช้างกลับมายิงพ่อจนเสียชีวิต

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพหลักฐานกล้องวงจรปิด นาทีเกิดเหตุช่วง 21.13 น. วันที่ 18 เมษายน จากภาพวงจรปิดจะเห็นนายกฤตภัคเดินออกมาจากบ้านพักของตนเอง และบุกเข้ามาที่บ้านของผู้เสียชีวิต โดยเข้าไปไม่กี่วินาทีก็จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นทั้งหมด 6 นัด ก่อนมีคนวิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุและจะเห็นมีเพื่อนบ้านก็พยายามจะเข้าบ้านเพราะกลัวถูกลูกหลง จากนั้นนายกฤตภัค คนก่อเหตุก็ออกมาจากบ้านพัก โดยรีบวิ่งกลับบ้านพักตัวเอง

จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 21.41 น. จะเห็นรถกระบะของคนก่อเหตุขับออกจากบ้านพักมุ่งหน้าไปยังโรงพักเพื่อไปมอบตัว โดยเจ้าตัวไม่ได้หนีออกนอกพื้นที่ แต่ขับออกจากบ้านพักตัวเองเพื่อไปแสดงตัวกับตำรวจ และในช่วงเวลาเกือบสี่ทุ่มจะเห็นรถตำรวจออกจากที่เกิดเหตุ และมีรถของอาสาสมัครกู้ภัยที่นำร่างของผู้เสียชีวิต ไปชันสูตรศพที่โรงพยาบาล