จากกรณีดรามาร้อนที่ตลกดัง “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” โดน “ป้าปูนา” ขึ้นป้ายทวงเงินคืนเกือบ 3 แสนบาทกลางห้าง จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมีเจ้าหนี้โผล่เพิ่มอีกหลายเจ้า ทำเอาเจ้าตัวถึงขั้นตัดสินใจเตรียมลาบวช เพื่อขออโหสิกรรมทั้งหมด
และในงานตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย ที่ห้างดัง “จั๊กกะบุ๋ม” ก็ได้รับโอกาสอีกครั้งจากตลกรุ่นใหญ่ “เป็ด เชิญยิ้ม” ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร ให้มาออกร้านขายปลาร้าทอด ซึ่งงานนี้เมื่ออาเป็ดเดินมาถึงหน้าบูธ จั๊กกะบุ๋มก็ได้ก้มลงกราบแทบเท้า พร้อมกับร่ำไห้ขอโทษที่ทำให้นามสกุลเชิญยิ้มต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ก่อนจะขอบคุณที่ให้โอกาสมาออกร้านขายของที่ตลาดในครั้งนี้
ทั้งนี้หลังจากมีการแชร์ภาพนี้ออกไปต่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่ และยังมีการพาดพิงว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการติดต่อไปยัง ป้าปูนา คู่กรณีของ จั๊กกะบุ๋ม ว่าอยากให้มางานนี้ เพื่อให้ได้ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน และรับเงินบางส่วนที่ติดหนี้กลับไป
ต่อมา กัน จอมพลัง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ความว่า ป้าปูนาโทร. ปรึกษาตน มีคนโทร. หาป้าอ้างว่าเป็นตัวแทนของผู้ใหญ่ในเชิญยิ้ม บอกว่าผู้ใหญ่อยากให้โอกาสตลกทีโพและอยากช่วยป้า จึงอยากให้ป้าปูนาไปยืนให้กำลังใจตลกทีโพขายของ และรอรับเงินที่บูธในห้างและจะเอานักข่าวมารอถ่ายภาพ พร้อมกับจะให้ตลกทีโพขอโทษต่อหน้า พร้อมทิ้งท้ายว่าถ้าป้าไปป้าจะเป็นแม่พระ ผมจึงถามป้าว่าหลังจากออกโหนกระแส ตลกทีโพเคยโทร. ขอใช้หนี้หรือขอโทษป้าไหม ป้าตอบว่าไม่เลย ตนถามต่อแล้วที่เขาบอกว่าขายของดีจะคืนป้าทุกวันวันนี้ได้คืนไหม ป้าตอบไม่มีค่ะ
ตนมองว่าถ้าผู้ใหญ่ของเชิญยิ้มอยากช่วยเหมือนที่มีคนมาอ้างจริง ผมแนะนำว่าผู้ใหญ่ช่วยรวบรวมเงินมาช่วยใช้หนี้ให้ตลกทีโพแล้วให้เขาผ่อนท่านเลยดีไหมครับ ตลกทีโพจะได้ไม่เป็นหนี้ป้า ป้าจะได้เอาเงินไปใช้หนี้ของเขา ป้าจะได้ไม่ต้องไปรอรับเงินรอรับคำขอโทษที่บูธ เพราะถ้าไปแล้วไม่ได้อะไรเลยจะยิ่งเสียความรู้สึกไปอีก สุดท้ายนี้ผมขอให้ FC ช่วยป้าตัดสินใจแล้วกันครับว่าป้าควรไปไหม
ต่อมา กัน จอมพลัง เขียนข้อความในคอมเมนต์อีกว่า ผู้ใหญ่ได้หน้าแล้วป้าได้ตังคืนไหม ? อันนี้ตนถามนะ การที่เชิญป้าไปเพื่อสร้างกระแสให้งานหรือเปล่า ตนยังมองไม่เห็นสิ่งที่เป็นบวกกับป้าเลย ถ้าไปไม่ได้เงินคืน ไม่ได้คำขอโทษป้ายิ่งเสียใจ ยิ่งผิดหวัง แล้วใครจะไปบังคับเขาคืน เขาขอโทษได้ เพราะถ้าจะคืนเงินหรือขอโทษ สามารถกดโอนหรือโทร. ขอโทษได้เลย โดยที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไร
จากนั้น กัน จอมพลัง ไลฟ์สด พูดถึงประเด็นดังกล่าว ตอนหนึ่งโดยวิพากษ์วิจารณ์ผู้ใหญ่เชิญยิ้ม พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอท้าเลย หลังจากนี้เป็นการการันตีคนของท่านด้วย กล้าไหม ถ้าคนของท่านติดเงินใคร ให้มาเอาที่ตัวเอง ท่านจะจ่ายเอง ถ้าจะให้โอกาสคนของท่าน ท่านก็ต้องการันตีด้วย ถ้าท่านการันตีแบบนี้ จะลงขอบคุณให้แมน ๆ แบบลูกผู้ชาย
ถ้าสมมติมีคนโดนแบบป้าปูนาอีก ท่านจะทำยังไง ตอนนี้เขาค้างป้าอยู่ประมาณ 2.8 แสน ตนไม่ตัดการให้โอกาสคน ให้โอกาสได้ไม่ได้ว่าอะไร เวลานี้เขาบอกว่าถ้าขายดีจะคืนหนี้เจ้าหนี้ทุกวัน แต่วันนี้ป้าปูนายังไม่มีคนติดต่อเลย ถ้าท่านมั่นใจก็ให้ทีโพยืมเงินมาจ่ายป้าปูนา แล้วให้ทีโพผ่อนคืนท่าน ดีไหม ป้าเขาจะได้เอาเงินไปใช้หนี้
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 จึงได้เดินทางไปหา ป้าปูนา อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจปูนาฟ้าใส พระราม 2 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งได้เผยว่า มีทีมงานติดต่อมาจริงในช่วงวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ “เป็ด เชิญยิ้ม” อย่างที่ทุกคนคิดกัน ซึ่งได้ติดต่อมาในทำนองว่า อยากให้ตนไปที่งานเพื่อให้เขาได้ขอโทษต่อหน้าสื่อ พร้อมกับการเป็นกำลังใจให้เขานำเงินมาใช้หนี้ เพื่อจะได้ให้เขามีพื้นที่ยืนในสังคมต่อไป แต่ตนมองว่าถ้าเขาอยากขอโทษ หรือนำเงินมาคืนจริง ๆ เขามาหาที่ร้านก็ได้ ไม่ต้องเรียกสื่อไปขนาดนั้น มันคือการจัดฉาก ตนจึงไม่ไป
และตนมองว่า การกราบ เมื่อวานดูไม่จริงใจมาก มันทำให้ตนไม่เชื่อเขาแล้ว สิ่งที่ตนอยากบอก ไม่ต้องขอโทษ แต่หาเงินมาคืนตนก็พอแล้ว เพราะของก็ขายได้เรื่อย ๆ ไม่ใช่ขายไม่ได้ ทุกวันตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนรอข้อความและคำขอโทษมาตลอด แต่สิ่งที่เขาพิมพ์มาให้ตน มันทำให้ตน ไม่สามารถเห็นใจเขาได้เลย
ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 เขาส่งมาว่า “ผมไม่โอเคกับแม่เท่าไรนะครับ แม่ตั้งใจมาทำให้ผมอับอาย มาปั่นป่วน จงใจทำให้ผมเสียหน้า คุกคาม จะมาเค้นเก็บเงินจากผมทั้ง ๆ ที่ผมบอกแล้ว ว่าขอจบงานนี้ แต่แม่เลือกที่จะไม่ฟังผม ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ผมถือว่าผมพูดแล้ว แต่แม่เลือกที่จะไม่ฟังผม แม่มีหลักฐาน ผมก็มีหลักฐานในการพูดคุยทั้งหมด แอบอัดเสียงผม นั่นคือคำสารภาพของแม่นะ เอาเป็นว่าผมรับทราบแบบนี้นะครับ”
สุดท้าย ตนขอกล่าวตรงนี้ ต่อให้เขามากราบตน ตนก็ไม่เชื่อ ว่าเขารู้สึกจริง ๆ เพราะขนาดเขาขับรถผ่านบ้านตนยังไม่แวะเลย ตนเชื่อว่ามันคือการจัดฉากทั้งหมด แต่ตนไม่โกรธหรือมีอะไรกับอาเป็ด และอาเป็ดไม่ได้เป็นคนติดต่อตน คนที่ติดต่อคือหนึ่งในทีมงานนั้น ที่ตนไม่รู้ว่าแจ้งอาเป็ดไหม ถึงจะเป็นเจตนาดี แต่ตนมองว่ามันไม่จริงใจ พร้อมเมื่อถามว่า เชื่อไหมเขาจะนำเงินมาคืน ทางด้านป้าปูนา ถอนหายใจ และไม่ขอพูด
โดยวันนี้ ทางด้าน “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” ได้มาขายปลาร้าทอด ในงานตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย และเปิดใจว่า จากกระแสที่คนมองว่าการกระทำที่ก้มกราบนั้นเป็นการจัดฉาก ต้องบอกและขอยืนยันว่า อาเป็ดไม่ทราบมาก่อน เพราะตอนตนได้รับโอกาสที่จะมาขายในงาน ตนยังคิดว่าเจออาจะทำยังไง ตนรักและเคารพเหมือนพ่อ เพราะอาคือคนให้โอกาสทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำผิด ทำถูก อาก็ไม่เคยทิ้ง คนในครอบครัว ตอนอาเดินมาและตนก้มกราบ ตนรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ตนยังใส่รองเท้าแตะอยู่เลย ตอนกราบ
แต่ในกรณีที่มีการติดต่อป้าปูนาไป มันมีการติดต่อไปจริง แต่เป็นการสื่อสารที่อาจคลาดเคลื่อนไป เพราะเจตนาของทีมงานคือ อยากให้ป้าปูนามาให้กำลังใจตน ในการหาเงินใช้หนี้ป้าปูนาจริงเท่านั้น แต่อาจสื่อสารผิดพลาด จนทำให้เข้าใจผิด คิดว่าอาเป็ดเป็นคนบอกให้ทำ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่จริง อาเป็ดไม่เคยทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งการจัดฉากก้มกราบ หรือการให้ป้าปูนามางานและมาบูธตน
จากเรื่องราวทั้งหมด นี่คือโอกาสสุดท้ายของชีวิต ตนต้องเปลี่ยนตัวเอง ขยันหาเงินใช้หนี้ ให้ทุกคน หรือแม้คนวงการตลกที่ออกมาเปิดเผย ตนก็จะพยายามหาเงิน รายได้ต่อวันประมาณ 1,000 - 2,000 บาท แต่ก็ขายทุกวัน ตามเงินที่หามาขายได้ ตอนนี้ตนต้องขอบคุณอาเป็ด หรือพ่อเป็ดที่ให้โอกาส แต่กลายเป็นตอนนี้โดนโจมตีไปด้วย ตนทำให้เขาเครียดไปด้วย ก็ไม่รู้จะพูดยังไง และสำหรับเจ้าหนี้ หรือคนในวงการอย่าง พี่ตั๊กและพี่นุ้ยก็ต้องใช้เวลาในการเคลียร์ใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลา สุดท้าย ยืนยันว่า จะหาเงินชดใช้ป้าปูนาแน่นอน และยืนยันไม่ใช่การจัดฉากแน่นอน