"พิมพ์ภัทรา"เชื่อ เหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีระยอง เชื่อมโยงเหตุโรงงานกรุงเก่า มีพิรุธ โยนหน้าที่ตำรวจจัดการ
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับโรงงานที่เกิดเหตุไฟไหม้ก่อนหน้านี้ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับรายงานเมื่อวานนี้ จากอุตสาหกรรมจังหวัด จึงสั่งการปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าไปดูเรื่องนี้โดยด่วน ซึ่งต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหน่วยงานในพื้นที่ที่ช่วยเข้าไปดับเพลิงได้ในที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเข้าไปดูเรื่องคุณภาพอากาศ และปริมาณสารเคมีที่ตกค้าง
สำหรับความเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้ระหว่างสองพื้นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำลายหลักฐานหรือไม่ น.ส.พิมพ์ภัทรา ระบุว่า ที่มีการกล่าวถึงว่าทั้งสองพื้นที่มีความเชื่อมโยงกันเรื่องเจ้าของโรงงานและการเผาเพื่อทำลายหลักฐาน เรื่องนี้ขอให้รอผลสรุปจากทางตำรวจก่อนดีกว่า เพราะเป็นมหากาพย์จริงๆ ไม่ใช่พื้นที่ในอำเภอภาชีและพื้นที่จังหวัดระยองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพื้นที่จังหวัดราชบุรีด้วย
ซึ่งได้สั่งให้กรมอุตสาหกรรมรับผิดชอบต่อประเด็นนี้ ต้องนำความจริงมาตอบสังคมให้ได้ มันเป็นจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่ โดยต้องลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสารตกค้าง ดูคุณภาพอากาศว่ามีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่ รวมถึงน้ำมีการรั่วไหลลงพื้นที่คลองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดทราบว่ามีการอพยพผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
ส่วนเหตุการณ์นี้ดูมีพิรุธเกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.พิมพ์ภัทรา ระบุว่า มีแน่นอน แต่ขอให้ทางตำรวจเป็นผู้สรุปเรื่องของคดี แต่ในส่วนของตัวเองจะดูแลเรื่องของการกำจัดกากสารเคมีที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ว่าจากนี้ไปการกำจัดกากที่เหลืออยู่จะทำอย่างไร
ส่วนความคืบหน้าในการกำจัดกากสารเคมีในอำเภอภาชีได้รับงบกลางที่ครม.เพิ่งอนุมัติไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วันเนื่องจากอยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง