จากกรณีในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ขอนแก่นมีด่าน แจ้งข่าวสารประโยชน์” มีสมาชิกรายหนึ่งเข้ามาโพสต์แจ้งว่า ถูกชายอ้างเป็นตำรวจงานจราจร สังกัด สภ.เมืองขอนแก่น ออกใบสั่งปรับวินัยจราจร ก่อนจะเสนอลดค่าปรับให้ แต่ต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของหญิงรายหนึ่ง ชื่อว่า น.ส.มธุรส เพื่อแลกกับการไม่ต้องไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก และไม่ต้องจ่ายค่าปรับเต็มจำนวน

โดยมีข้อความระบุว่า “เจอจับ จ่ายจบ ! โดนจับ ค่าปรับเข้ากระเป๋าใคร ! จร. ขี่ตามจับรถออกใบสั่งปรับ 2,000 ถ้าไม่มีเงินจ่าย เอารถไปโรงพัก จ่ายค่าปรับตอนนี้ เหลือ 1,000 เข้า บัญชีพร้อมเพย์ โอนจ่ายไม่มีใบเสร็จ โอนเสร็จปล่อยกลับ ยอมจ่ายค่าปรับ แต่ตรวจสอบได้ไหมว่าเงินเข้า บัญชีใคร ทำไมไม่มีใบเสร็จ มีหลักฐานใบสั่งและสลิปโอนเงินโดนปรับคนละ 1,000 บาท สองคน อีกคน 500 จับจ่ายจบ ทำแบบนี้บ่อยไหม มีใครเคยโดนแบบนี้บ้างแจ้งได้ !”

ทำให้มีสมาชิกในกลุ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนเข้ามาบอกว่า เคยถูกชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจนายนี้ออกใบสั่งปรับและเสนอให้โอนเงินเข้าบัญชีในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน มียอดโอนจ่ายตั้งแต่ 500-1,000 บาท นั้น

วันนี้ (23 เม.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.พิทักษ์เขต สิงห์พิทักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองขอนแก่น เผยว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจร ในสังกัด สภ.เมืองขอนแก่น จริง โดยมีชื่อย่อว่า “ดาบ ศ.” ขณะนี้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนของ น.ส.มธุรส ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี ที่ได้มีการโอนเงินเข้าไปจากผู้เสียหาย ทางตำรวจได้มีการติดต่อแล้ว เบื้องต้นทราบว่า เป็นคนสนิทกับทาง ดาบ ศ. จะเข้าให้ปากคำในภายหลัง

ล่าสุด น.ส.มธุรส อายุประมาณ 31 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์เขต สิงห์พิทักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมด้วยสารวัตรจราจร ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.มธุรส หลังถูกระบุเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่ ดาบ ศ. ได้ให้ผู้เสียหายที่โดยจับโอนเงินค่าปรับจำนวน 1,000 บาท เข้าบัญชีชื่อ น.ส.มธุรส จนมีผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านโซเชียล ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะทำการสอบปากคำเสร็จ จากนั้น น.ส.มธุรส รีบเดินออกจากห้องรองผู้กำกับการจราจรทันที ก่อนจะไปขึ้นรถเก๋งที่จอดด้านหลังงานจราจรแล้วขับออกไป

ด้าน พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ได้หลักเกณฑ์ที่จะเอาความผิดกับ ดาบ ศ. โดยผู้ที่เข้ามาให้ปากคำทั้ง 3 คน ให้การตรงกันว่าได้โอนค่าปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท เข้าบัญชีของ น.ส.มธุรส จริง

ส่วนการสอบปากคำ ดาบ ศ. ยอมรับว่าได้รับโอนเงินจากทั้ง 3 คนจริง โดยบอกว่าเป็นการฝากจ่ายค่าปรับ โดยทางการสอบสวนผู้ถูกร้องคือ ดาบ ศ. สามารถให้การอย่างก็ได้ ซึ่งโดยทางหลักการจ่ายค่าปรับนั้นไม่สามารถทำวิธีนี้ได้ ทำให้คณะกรรมสอบสวนฯ ได้สรุปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีมูลความผิดจริง

จากนี้ทางคณะกรรมการจะได้ประมวลเรื่องมายังตนเอง เพื่อที่จะได้สรุปก่อนนำเรื่องดังกล่าวส่งไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาความผิดวินัย เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ มาตร 149 และมาตรา 157 ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวน จะส่งเรื่องไปยัง ปปช. จังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาความผิด